Generative AI – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 05 Jul 2024 06:15:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Gen Z คิดอย่างไรกับการใช้ “GenAI” ช่วยทำงาน? https://positioningmag.com/1481474 Fri, 05 Jul 2024 06:15:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1481474 “ดีลอยท์” สำรวจความเห็นกลุ่มพนักงาน Gen Z (*ปัจจุบันวัย 19-29 ปี) ใน 44 ประเทศ ต่อการมาถึงของ “GenAI” ว่าจะส่งผลกระทบต่อการทำงานและธุรกิจอย่างไร?

เปรียบเทียบข้อมูลระหว่างกลุ่ม Gen Z โดยเฉลี่ยกับกลุ่ม Gen Z ที่มีการใช้งาน GenAI เป็นประจำอยู่แล้ว พบว่า คนที่ใช้ GenAI เป็นประจำมักจะเห็นด้วยว่า “GenAI จะช่วยให้พัฒนาการทำงานและทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น”

แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่ม Gen Z ที่ใช้ GenAI ก็มักจะมีความกังวลมากกว่าคน Gen Z ทั่วไปว่า “GenAI จะเข้ามาดิสรัปต์ในตลาดงาน” ทำให้มีตำแหน่งงานน้อยลง อนาคตคนรุ่นต่อไปจะหางานยากขึ้น และทำให้คนกลุ่มนี้พยายามหางานที่มีโอกาสถูกแทนที่ด้วยระบบออโตเมชันน้อยกว่า

หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงาน 2024 Gen Z and Millenial Survey

]]>
1481474
“Apple” ปวดหัวจัด! เพราะตลาด “จีน” แบนการใช้ “ChatGPT” พลังเบื้องหลังฟีเจอร์ใหม่ใน iPhone https://positioningmag.com/1479283 Sat, 22 Jun 2024 08:21:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1479283 “Apple” เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “AI” หรือ “Apple Intelligence” ที่จะผนวกเข้ากับ iPhone รุ่นใหม่ แต่ปัญหากำลังจะเกิดกับตลาดใหญ่ของบริษัทนั่นคือ “จีน” เพราะรัฐบาลจีนแบนไม่ให้ใช้งาน “ChatGPT” ภายในประเทศ ทำให้บริษัทต้องเร่งหาพันธมิตร AI จีนมาสนับสนุน iPhone ที่จะขายในแดนมังกร

เมื่อต้นเดือนนี้เอง “Apple” ประกาศฟีเจอร์ใหม่ “Apple Intelligence” โดยร่วมกับพันธมิตรคือ “OpenAI” เจ้าของเครื่องมือ “ChatGPT” เป็นผู้สนับสนุนการพัฒนาฟีเจอร์ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม Apple อาจจะต้องเผชิญปัญหากับตลาด “จีน” เพราะจีนเป็นประเทศแรกๆ ในโลกนี้ที่มีการวางกฎระเบียบควบคุมการใช้เทคโนโลยี Generative AI

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานกำกับดูแลโลกไซเบอร์ของจีน ซึ่งเป็นผู้ดูแลอินเทอร์เน็ตระดับสูงสุดของประเทศ ได้ออกแนวปฏิบัติใหม่สำหรับอุตสาหกรรมนี้ว่า บริษัทใดก็ตามที่ต้องการทดลองใช้งาน Generative AI จะต้องขออนุญาตจากทางการก่อนเท่านั้น ที่ผ่านมาสำนักงานฯ ดังกล่าวได้ให้อนุญาตโมเดล AI ไปแล้วมากกว่า 100 โมเดล ซึ่งทั้งหมดเป็น AI จากบริษัทจีน

สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า Apple กำลังมองหาบริษัทผู้พัฒนา AI จากจีนเพื่อเป็นพันธมิตรร่วมกัน ก่อนที่ iPhone รุ่นใหม่จะเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ แต่ปัจจุบันทางบริษัทยังไม่สรุปดีลกับใคร

Apple จำเป็นต้องหาพันธมิตรในจีนอย่างรวดเร็ว เพราะยอดขายสมาร์ทโฟนของ Apple ทั่วโลกตกลงถึง 10% ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ IDC Research บริษัทวิจัยตลาด เหตุผลหลักเกิดจากยอดขายที่ตกลงแรงในประเทศจีน ซึ่งเป็นเพราะความรู้สึกชาตินิยมที่เกิดขึ้นในประเทศ รวมถึงสภาพเศรษฐกิจตกต่ำและการแข่งขันที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ตลาดจีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Apple

ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Counterpoint Research พบว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนแบรนด์ Huawei เติบโตพุ่งถึง 70% ในจีนเมื่อไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซึ่งถ้าหาก iPhone ยังไม่มีอะไรใหม่อย่างการใส่ฟีเจอร์ AI ลงมาอย่างสมบูรณ์ ลูกค้าก็อาจจะรอไปก่อนและยังไม่ซื้อรุ่นนี้

“Apple มีโอกาสสูงมากที่จะได้พันธมิตรท้องถิ่นในจีนเพื่อมาแทนที่ OpenAI เพราะพูดง่ายๆ ก็คือ บริษัทจำเป็นต้องมีให้ได้” นาบิล่า โพพาล ผู้อำนวยการอาวุโสที่ IDC Research กล่าว “ผู้บริโภคจีนย่อมคาดหวังว่าโทรศัพท์ระดับพรีเมียมของพวกเขาจะมีฟังก์ชัน AI ทันสมัยที่สุด และน่าจะลังเลการใช้จ่ายเงินมากกว่า 1,000 เหรียญสหรัฐไปกับอุปกรณ์ที่ไม่มี AI”

ในขณะเดียวกัน รีซ เฮย์เดน นักวิเคราะห์จาก ABI Research มองว่า บริษัท AI ในจีนก็อาจจะพุ่งเป้าผู้บริโภคชาวจีนได้ดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะบริษัทเหล่านี้มีการศึกษาโมเดล AI ที่แยกย่อยภาษาถิ่นของคนจีนด้วย

หาก Apple มีพันธมิตรบริษัทจีนก็จะไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะบริษัทสมาร์ทโฟนต่างชาติรายแรกที่มีการจับมือกับบริษัทจีนคือ “Samsung” พวกเขาจับมือกับ “Baidu” บิ๊กเทคจีน ไปก่อนหน้านี้แล้ว และนำโมเดล AI ของ Baidu มาสนับสนุนการบริการแปลภาษาในเครื่อง รวมถึงมีการจับมือ “Meitu” เพื่อใช้ AI ตัดต่อตกแต่งรูปภาพ ซึ่งถือเป็นการทำงานเฉพาะให้กับตลาดจีน เพราะในมือถือเครื่องอื่นในโลกนี้ Samsung ใช้ AI โมเดล “Gemini” ของ “Google” มาสนับสนุนฟีเจอร์ และแน่นอนว่า Gemini ถูกแบนในจีน

นอกจากจีนแล้ว Apple อาจจะเผชิญปัญหากับสหภาพยุโรปในแบบเดียวกัน ตามรายงานข่าวของ CNN พบว่า ฟีเจอร์ Apple Intelligence อาจจะยังไม่พร้อมใช้งานในยุโรปภายในปีนี้ เนื่องจากกฎระเบียบในกฎหมายการตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act: DMA) ของอียู ซึ่งทางบริษัท Apple ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการยุโรปเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหาเพื่อตอบสนองลูกค้าในอียูต่อไป

Source

]]>
1479283
วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ยกระดับการตลาดให้ล้ำไปกับ Generative AI https://positioningmag.com/1469949 Thu, 11 Apr 2024 10:00:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469949

บทความโดยณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES)

การเป็นนักการตลาดที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ต้องการแค่ความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่ยังต้องเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความเชี่ยวชาญด้วย ซึ่งอาจเป็นงานที่ท้าทาย แต่ไม่ต้องกังวล เพราะพิ้งค์มีเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

สมมติว่าเราเป็นนักการตลาดของบริษัทที่มีคู่แข่งคือ NVIDIA เราสามารถใช้เครื่องมือ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน เช่น งบกำไรขาดทุน โดยเริ่มจากการอัปโหลดไฟล์เอกสารเข้าสู่ระบบ แล้วให้ AI ทำการสรุปข้อมูล จัดแยกหมวดหมู่ และแปลงเป็นกราฟแสดงภาพรวม

ในที่นี้เราจะใช้ ChatGPT 4 ในการทดสอบ เพราะมันคิดเลขแม่นสุดตอนนี้ พิ้งค์ได้ทดลองหลายแบบตั้งแต่อัปโหลดไฟล์ Excel เข้าไปใน ChatGPT มันทำไม่ได้ จากนั้นก็ลองเปลี่ยนไฟล์นั้นเป็น .CSV Comma Limited ก็ยังให้ค่าเอ่อๆ ออกมา หลังสุดก็เลยก๊อบปี้ แล้วก็วางลงไปตรงๆ เลย ปรากฏว่ามันอ่านได้แฮะ และนี่คือข้อสรุปของมัน

ขั้นแรกก็บอกมันก่อนว่าให้เอาข้อมูลทั้งหมด สรุปลงเป็นตารางง่ายๆ ให้ดูหน่อย โดยใช้ Prompt “Act as FP&A expert, analyze enclosed Excel data and present financial key performance indicator for CEO in tabula format” ก็ออกมาได้เป็นข้อมูลแบบนี้

ลองตรวจสอบตัวเลขดูแล้วก็ปรากฏว่า ตัวเลขถูกต้องต่างกันนิดหน่อย ต่างกันส่วนจุดทศนิยม เชื่อถือได้เนื่องจากมาวิเคราะห์ภาพรวม ก็เลยถามมันต่อไปว่าให้สรุปตัวชี้วัดที่สำคัญจากมุมมองตลาด โดยใช้คำสั่ง Prompt “Generate key financial ratio from data in Thai” ChatGPT ก็สรุปมาให้ดังต่อไปนี้

ทีนี้ก็เลยส่งคำสั่งมันบอกว่าให้เอาตัวเลขจริงๆ จากงบการเงิน มาใส่เป็นอัตราส่วนเป็นตารางให้หน่อย โดยใช้ Prompt คือ “add actual number of NVIDIA in tabula format” นี่คือผลลัพธ์ที่ได้ คือ

ตรวจตัวเลขแล้ว ถูกต้อง สุดท้ายก่อนที่เราจะไปคุยกับเจ้านาย เราก็บอกให้ ChatGPT มันทำการวิเคราะห์ กำไรขาดทุน ของ NVIDIA เลย โดยใช้ Prompt “from NVIDIA financial data and ratio above, analyze data based on marketing perspective” ผลที่ได้เป็นดังนี้

ด้วยวิธีนี้ นักการตลาดจะสามารถเข้าใจสถานะทางการเงินและประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัทคู่แข่งได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์มหาศาลในการวางกลยุทธ์การตลาดที่สอดคล้องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โดยถ้าพิ้งค์นำมาใช้งาน ก็จะนำข้อมูลของบริษัทเราเองมาเปรียบเทียบ แล้ววิเคราะห์ออกมาดูว่า สมมติว่าถ้าเทียบกับคู่แข่งคือ NVIDIA แล้ว บริษัทเราจะมีฐานะทางการเงินโดยเปรียบเทียบกันจะเป็นอย่างไร โดยใช้ ChatGPT ช่วยแบบตัวอย่างข้างต้น

สรุปแล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมการตลาดในปัจจุบัน คือการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งช่วยให้นักการตลาดมีเวลามากขึ้นในการวางแผนกลยุทธ์สร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ ไปลองเล่นกันดูนะคะ
]]>
1469949
ผลสำรวจเผย ซีอีโอกว่าครึ่งเลือกจะลงทุนใน ‘Gen AI’ มากกว่าลงทุนให้พนักงานใช้งาน AI https://positioningmag.com/1465591 Thu, 07 Mar 2024 12:43:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1465591 พนักงานตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงกลุ่มผู้บริหารระดับสูงกำลังให้ความสำคัญกับการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในที่ทำงาน แต่ดูเหมือนว่าผู้นำจะไม่ลงทุนเพื่อช่วยให้พนักงานเรียนรู้ AI เพื่อนำมาใช้ทำงาน

แม้ว่า ซีอีโอเกือบ 3 ใน 4 มองว่า Generative AI ว่าเป็น ความสำคัญในการลงทุนสูงสุด และกำลังใช้จ่ายกับ AI เพื่อเพิ่มผลกำไร นวัตกรรม และความปลอดภัย ตามการสำรวจล่าสุดที่จัดทำโดย KPMG แต่ผู้บริหารในสหรัฐฯ เพียง 38% ที่กำลังช่วยให้พนักงานมีความรู้เรื่อง AI และผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งกล่าวว่า พวกเขาใช้จ่ายเงินกับเทคโนโลยีใหม่มากกว่าการฝึกอบรมพนักงานปัจจุบัน

ขณะที่พนักงานส่วนใหญ่ 4 ใน 5 คน กล่าวว่า พวกเขาต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AI และวิธีการนำไปใช้ในบทบาทของตน ตามรายงานล่าสุดของ LinkedIn นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นอีกว่า คนงานทั่วโลกประมาณ 84% เชื่อว่า AI จะช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าในอาชีพการงาน และ 58% เชื่อว่า AI จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของพวกเขาในปีหน้าอย่างมีนัยสำคัญเว็บไซต์หางานออนไลน์เผย

แม้ว่าซีอีโอในสหรัฐฯ จะเน้นการลงทุนไปกับ AI มากกว่าที่จะลงทุนให้พนักงานมีทักษะด้าน AI แต่พนักงานหลายคนก็กำลังเรียนรู้ทักษะด้าน AI ด้วยตัวเอง และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกประมาณครึ่งหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาใช้ AI ในงานของตนในขณะนี้ และ 1 ใน 3 กล่าวว่า พวกเขาได้ทดสอบเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์ เช่น ChatGPT ตามข้อมูลของ LinkedIn

ทั้งนี้ พนักงานได้รับแรงจูงใจให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อทำให้งานของตนง่ายขึ้นและมีเวลาว่าง ซึ่งพวกเขาหวังว่าจะปรับปรุงสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน สนับสนุนให้พวกเขาเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และช่วยให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่พวกเขาชอบมากที่สุด

สำหรับทักษะด้าน AI ที่เหมาะกับการเริ่มต้นนั้น ศาสตราจารย์ MIT และผู้ร่วมก่อตั้ง edX Anant Agarwal มองว่าเป็น ทักษะเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งและการป้อนคำสั่งข้อความสำหรับโปรแกรม AI เชิงสร้างสรรค์ เช่น ChatGPT เพื่อใช้ในการเขียนอีเมล, สรุปงาน หรือรวบรวมงานนำเสนอ PowerPoint ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทักษะดังกล่าวใช้เวลาเรียนรู้ไม่นาน และสามารถเรียนรู้ผ่านออนไลน์ได้

Source

]]>
1465591
‘บลูบิค’ ชี้เทรนด์ GenAI แพร่หลายมากขึ้น ชูแผน Synergies บริษัทในเครือ หาดีล M&A เพิ่ม มองรายได้โต 50% ในปีนี้ https://positioningmag.com/1463530 Thu, 22 Feb 2024 01:46:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463530 บลูบิค กรุ๊ป ประกาศแผนธุรกิจในปี 2024 โดยเทรนด์ทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่มองคือการเข้ามาของ Generative AI ขณะที่แผนธุรกิจในปีนี้คือเน้นการ Synergies ระหว่างบริษัทในเครือ และยังมองไปถึงเป้าการทำดีล M&A เพื่อที่จะหารายได้เพิ่มเติม

พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บลูบิค กรุ๊ป กล่าวถึงธุรกิจของบริษัทนั้นมี 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ Consulting Services ธุรกิจที่ปรึกษาในการวางกลยุทธ์หรือวางระบบ Digital Platform นำ Software มา Implement ให้ลูกค้า กลุ่มธุรกิจที่บริษัทได้ร่วมลงทุน และ ธุรกิจในต่างประเทศ 

ผลประกอบการของบริษัทในปี 2023 นั้น รายได้อยู่ที่ 1,313 ล้านบาท เติบโตขึ้น 133% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับปี 2024 พชร มองว่า เศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของภาคธุรกิจ แต่ความต้องการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันยังเติบโต โดยเฉพาะการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้นต้องทำอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการเลือกใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์เทรนด์การทำธุรกิจ เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่าย เพื่อจะทำให้ธุรกิจให้เติบโตได้ในระยะยาว

ขณะที่เทรนด์ทางด้านเทคโนโลยีนั้น บริษัทมองว่า Generative AI (เช่น ChatGPT) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถให้กับองค์กรในปัจจุบัน และพชรมองว่าหลายบริษัทเริ่มมีการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้เพิ่มมากขึ้น แต่เทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องมีเรื่องการป้องกันภัยด้านไซเบอร์ควบคู่ไปด้วย

ประธานเจ้าหน้าที่ของบลูบิคฯ ยังกล่าวเสริมว่า “มองบริษัทไทยต้องมี Digital Transformation เพื่อเพิ่ม Productivity ไม่งั้นความสามารถในการแข่งขันสู้ไม่ได้”

กลยุทธ์หลักๆ ในปี 2024 ที่บริษัทวางไว้

  • การทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทย่อยในเครือ หรือ Synergies เพื่อที่จะสร้างรายได้ หรือนำเสนอบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้า รวมถึงการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale)
  • การมองหาดีล M&A เพื่อที่จะเพิ่มรายได้ โดย พชร มองว่า มีการพูดคุยดีลหลายดีล แต่หลายครั้งก็ปิดดีลไม่ได้ ซึ่งการปิดดีลได้ขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง และเขายังมองว่าถ้าเชื่อมต่อ Ecosystem ของบริษัทได้จะถือว่าดีมากๆ และดีลในการซื้อธุรกิจจะต้องไม่ซ้ำกับธุรกิจเดิมของบริษัทที่มีอยู่
  • ขยายไปยังตลาดต่างประเทศ โดยบริษัทมอง เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีแนวโน้มการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเติบโตต่อเนื่อง และยังมองว่าเอากรณีศึกษาในไทยไปให้บริการในต่างประเทศได้

ขณะเดียวกันบริษัทเองก็จะหันมาเน้นรายได้จากส่วนของภาครัฐมากขึ้นด้วย ซึ่งในปี 2023 ที่ผ่านมารายได้จากภาครัฐนั้นอยู่ที่ราวๆ 5% ของสัดส่วนรายได้รวมของบริษัท

เป้าหมายในปี 2024 นี้ประธานเจ้าหน้าที่ของบลูบิคฯ ชี้ว่าบริษัทเริ่มมีรายได้ฐานสูงแล้ว แต่เขายังคาดการณ์ว่ารายได้โตมากถึง 50%

]]>
1463530
อัปเดตตัวอย่างงานที่ชาว Marketing ไม่ใช้ Generative AI ไม่ได้แล้ว https://positioningmag.com/1461478 Mon, 05 Feb 2024 05:46:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1461478

บทความโดยณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES)

ที่จริงแล้ว Generative AI มีความสามารถในการช่วยในงานทางการตลาดอย่างมาก แต่เราจะสามารถทำให้เกิดความสำเร็จในงานการตลาดได้โดยการเพิ่มคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสมกับงานบางอย่าง นี่คือตัวอย่างที่ชาว Marketing สามารถใช้ Generative AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

งานแรกงานเกี่ยวกับอีเมลเราสามารถใช้ Generative AI ในการช่วยเขียนอีเมลได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมลโปรโมชั่น เพื่อเรียกลูกค้าให้มาซื้อของกับเรามาดูตัวอย่าง Prompt ที่ใช้และผลลัพธ์กันค่ะ

Write short email to promote buy one get one free of new swimsuit collections. Limit time till the end of this month! Need to hurry!”

หรือการทำประกาศว่าแพลตฟอร์มเรามีฟังก์ชันหรือฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ โดนๆ บ้างมาดูตัวอย่าง Prompt ที่ใช้และผลลัพธ์กันค่ะ

“Write short email to promote new product features of Buzzebees Reward page. Key features are that it is instant reward redemption page that customer can redeem thousands of rewards and use point to subsidize for payment. With limit time offer, new user can have on-top 10% discount.”

อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือเราสามารถให้ Generative AI ช่วยในการสร้างวิดีโอโฆษณาให้เราได้ พิ้งค์ขอยกตัวอย่างการใช้งานจริงที่ใช้ในบริษัทบัซซี่บีส์ โดยที่ให้โจทย์ทางทีมว่าต้องการวิดีโอที่ทำโดย Generative AI ทั้งหมด ทางทีมได้สร้างมาให้สองวิดีโอโดยใช้เครื่องมือต่างๆ ดังต่อไปนี้ เริ่มการเขียนจุดขายของเราลงไปให้ ChatGPT และ ทำ Storyboard ผ่าน ChatGPT แล้วให้มันเขียนภาษาที่สวยงามน่าสนใจให้เรา หลังจากนั้นก็ใช้ Mid Journey และ Bing AI ในการสร้างภาพนิ่งขึ้นมาจากคำใน Storyboard นั้นๆ จากนั้นก็นำภาพนิ่งไปทำให้เคลื่อนไหวได้โดย Runwayml เป็นแต่ละ Screen จากนั้นก็นำไปประกอบร่างตัดต่อใน Adobe After Effect – Editor เพิ่มเสียงและดนตรีเข้าไป เป็นอันสำเร็จ นับว่าไม่เลวเลยทีเดียวสำหรับการทำครั้งแรกของทีม

อีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือให้ Generative AI ช่วยในการทำ SEO โดยที่ Generative AI สามารถวิเคราะห์เป็น SEO Report ให้ได้ว่าจะทำการปรับปรุง Website ให้เป็น SEO Friendly ได้อย่างไร มาดูตัวอย่าง Prompt ที่ใช้ และผลลัพธ์กันค่ะ

My website is https://crm.buzzebees.com/ Act as SEO expert to improve website to be more SEO Friendly. Be specific on analyzing the content quality of the top-performing blog posts on my website and provide recommendations for improving any shortcomings and give specific real example from the website.”

อีกบล็อกหนึ่งที่ ChatGPT แนะนำก็คือบล็อก “มือใหม่อยากเปิดธุรกิจร้านอาหารให้อยู่รอดต้องทำอะไรบ้าง” ChatGPT ก็บอกว่าสิ่งที่เจ๋งคือ บล็อกเป็นการเขียนคำถามที่คนทั่วไปมักจะถามซึ่งคนมักจะสืบค้นจากคำพวกนี้อยู่แล้ว ทำให้สืบค้นได้ง่าย ส่วนที่ ChatGPT อยากให้ปรับปรุงคือให้ Link โพสต์นี้ไปยังคอนเทนต์ที่อื่นด้วย โดยสิ่งนี้จะทำให้ผู้อ่านรู้สึกมีส่วนร่วมแล้วก็มีการเพิ่มเพจวิวเพิ่มขึ้นอีกวิธีก็คือทำให้คอนเทนต์มีรายละเอียดคำแนะนำมากกว่านี้โดยถ้าเป็นไปได้ให้รวมเรื่องของ Case Study แล้วก็ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงดู ทีนี้ลองมาดู ตัวอย่างที่ ChatGPT บอกให้ทำแบบเฉพาะเจาะจงในเรื่องของ “มือใหม่อยากเปิดธุรกิจร้านอาหารให้อยู่รอดต้องทำอะไรบ้าง” ChatGPT บอกว่าให้เพิ่มเนื้อหาที่คนอาจชอบอ่านเช่นการใส่ตารางลงไปหรือการใส่คำถามที่จะทำให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมกับบทความนี้ได้อย่างลึกซึ้งขึ้น

จะเห็นได้ว่าเราได้วิธีการปรับปรุง การทำให้เว็บไซต์ของเรามี SEO Rank ที่ดีขึ้นโดยได้ไอเดียไปทดลองจาก ChatGPT ทั้งในรูปแบบของการแนะนำเฉพาะเจอะจงตามตัวอย่าง และในรูปแบบของการแนะนำโดยทั่วไปอีกด้วย

จากตัวอย่าง พิ้งค์สั่งให้ ChatGPT เข้าไปตรวจดูเว็บไซต์ของบัซซี่บีส์ ว่าบล็อกที่บัซซี่บีส์ทำนั้น สามารถปรับปรุงให้ SEO ได้คะแนนมากขึ้นอย่างไรที่นี่ ChatGPT ก็แนะนำ โดยนำตัวอย่างบล็อกที่ได้รับการเยี่ยมชมสูงสุดมา

บล็อกแรก ได้แก่การที่บัซซี่บีส์ ได้รับรางวัล Shop Management Service Excellence จาก Tik Tok ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ChatGPT บอกว่า ให้ใช้คำที่ SEO ที่เกี่ยวกับ CRM และ Digital Marketing มากกว่านี้โดยที่ในย่อหน้าถัดไปจะเห็นว่ามันบอกเลยว่าให้ใช้คำอย่างเช่น CRM Excellence Award หรือคำว่า Digital Engagement Corporation หรือคำที่คล้ายๆ กันที่จะทำให้ผู้อ่านทำการสืบค้นจากคำนั้นๆ เป็นจำนวนที่มากขึ้น

อันนี้ก็เป็นตัวอย่าง Prompt และการทำงานบางส่วนเพื่อให้ทุกท่านสามารถนำ Generative AI เข้าไปช่วยทำงานในชีวิตประจำวันได้นะคะ การใช้ Generative AI ช่วยในงานการตลาดไม่ใช่การแทนที่ชาว Marketing แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถเสริมสร้างความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของมนุษย์ในงานการตลาดสวัสดีปีใหม่ค่ะ

]]>
1461478
AWS เจาะลูกค้า 8 อุตสาหกรรมในไทย มองเทรนด์ GenAI ถูกพัฒนาด้วยความหลากหลาย ฉลาดเพิ่มขึ้น https://positioningmag.com/1461087 Thu, 01 Feb 2024 01:47:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1461087 AWS ประเทศไทยได้แถลงแผนธุรกิจในปี 2024 โดยเจาะไปที่ลูกค้า 8 กลุ่มอุตสาหกรรมในไทย จากปัจจัยการเติบโตของตลาด Public Cloud นั้นเติบโตเฉลี่ย 18.6% ต่อปีจนถึงปี 2027 และยังรวมถึงเทรนด์การเข้ามาของ Generative AI

วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ประจำ AWS ประเทศไทย ได้กล่าวถึง การทำธุรกิจในประเทศไทยนั้นเริ่มต้นในปี 2015 เป็นต้นมา รวมถึงการเปิดให้บริการอื่นๆ เช่น Cloudfront ในปี 2020 และล่าสุดคือ AWS ได้เพิ่มการลงทุนใน ASEAN และมีแผนที่จะเปิดราย AWS Regions อีก 4 แห่ง ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น

โดย AWS มีแผนที่จะลงทุนในประเทศไทยมากกว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 190,000 ล้านบาท ในประเทศไทยภายในระยะเวลา 15 ปี และจะมีการเปิด AWS Bangkok Region ซึ่งตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาโครงการดังกล่าว

Country Manager ประจำ AWS ประเทศไทย ยังกล่าวว่า AWS มาลงทุนในประเทศไทยไม่ใช่แค่ลงทุนแค่ Data Center เดียวเท่านั้น แต่ลงทุนมากกว่านั้น เนื่องจากการทำระบบ Cloud ต้องใช้หลาย Data Center ซึ่ง 1 Zone จะเท่ากับ 3-4 Data Center แต่ละประเทศนั้นจะมีไม่น้อยกว่า 3 Zone

8 อุตสาหกรรมที่ AWS ประเทศไทย มุ่งเน้นในปี 2024 ได้แก่ อุตสาหกรรมบริการการเงิน ค้าปลีก ยานยนต์ ดิจิทัล พลังงาน การผลิต ด้านสุขภาพ รวมถึง TMEG (โทรคมนาคม, สื่อ, ความบันเทิง, เกม) โดย AWS ประเทศไทยจะแนะนำการใช้บริการคลาวด์ที่ช่วยกระตุ้นนวัตกรรมและสร้างประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการที่มีความเฉพาะเจาะจงของภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้

วัตสัน ได้กล่าวถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การประหยัดแค่ค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว แต่การใช้ Cloud ของกลุ่มลูกค้าใน 8 อุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะเจาะจงของลูกค้าด้วย

ขณะเดียวกัน AWS ยังมีการจัดโครงสร้างทีมในประเทศและในระดับภูมิภาค AWS และยังรวมถึงการจัดงาน AWS Summit ในไทย เพื่อที่จะรองรับการเปิดตัวของ AWS Bangkok Region หลังจากนี้ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ไปจนถึงการ Reskill เพื่อเพิ่มทักษะด้าน Cloud เนื่องจากความต้องการด้านบุคลากรที่เพิ่มสูงขึ้น

ข้อมูลจาก Semiannual Public Cloud Services Tracker โดย IDC ที่จัดทำในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2023 คาดว่าตลาดบริการคลาวด์สาธารณะในประเทศไทยคาดว่าจะเติบโตถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย 88,845 ล้านบาท) ภายในปี 2027 เติบโตเฉลี่ย 18.6% ต่อปี ทำให้ AWS ยังเชื่อว่าตลาด Cloud ในไทยยังเติบโตได้

ในส่วนของเรื่องปัญญาประดิษฐ์นั้นทีมผู้บริหารของ AWS ประเทศไทย ได้ยกคาดการณ์ปี 2024 ของ Dr. Werner Vogels ซึ่งเป็น CTO ของ Amazon โดยเขามองว่าในอีกหลายปีข้างหน้าที่กำลังจะมาถึงจะเต็มไปด้วยนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยี และช่วยในเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเราที่ต้องมีความรวดเร็วเพิ่มขึ้น เริ่มต้นด้วย Generative AI

โดย Dr. Werner มองว่า Generative AI ในปัจจุบันยังมีความลำเอียงเล็กน้อย และยังจำกัดอยู่แต่การใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น

ซึ่ง CTO ของ Amazon มองว่า Generative AI กลายเป็นการรู้จักอย่างแพร่หลาย ขณะที่โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) จะถูกเทรนด้วยข้อมูลทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย จะมีความเข้าใจที่ละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับประสบการณ์ของมนุษย์ และความท้าทายในสังคมที่ซับซ้อน และจะมีความฉลาดเพิ่มขึ้นกว่าในปัจจุบัน

]]>
1461087
แนวโน้มการใช้ MARTECH ปี 2024 คู่มือสำหรับนักการตลาดเพื่อเป็นผู้มาก่อนกาล https://positioningmag.com/1457110 Mon, 25 Dec 2023 07:12:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457110

บทความโดยณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (BUZZEBEES)

มาดูกันว่าในปี 2024 Martech มีเทรนด์ที่น่าสนใจอะไรบ้างและนักการตลาดพร้อมหรือยังที่จะอยู่ในเกม Martech ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีอินไซต์ไหน ที่นักการตลาดจะพลาดไม่ได้ในปี 2024

1. GenAI เป็นเพื่อนสนิทใหม่ของคุณ

อ้าแขนต้อนรับ Generative AI แบบเน้น ๆ เลย เพราะว่าปีนี้เป็นปีของเขาจริง ๆ GenAI เป็นจุดโฟกัส ที่จะทำให้งานของคุณง่ายขึ้นอย่างมหาศาล มันเจ๋งมากตั้งแต่การคิดไอเดียทางด้านมาร์เก็ตติ้งใหม่ ๆ การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการคิดคำโปรยในโปรแกรมมาร์เก็ตติ้งของคุณ ตัวอย่างด้านล่างเป็นการบรีฟ ChatGPT ช่วยคิดบิ๊กไอเดียสำหรับบริษัทบัซซี่บีส์

ตัวอย่างข้างต้น เป็นการนำเอา ChatGPT มาช่วยคิดบิ๊กไอเดียทางการตลาดของบริษัท แนะนำบิ๊กไอเดียนี้สู่นักลงทุน เพื่อการจำหน่ายหุ้น IPO

2. เครื่องมือด้านการตลาด เริ่มมีการรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

โดยปกติแล้วเราจะรู้สึกหงุดหงิดมาก ๆ เวลาเราทำงานงานหนึ่ง แล้วเราจะต้องเปิดเครื่องมือหลาย ๆ เครื่องมือ ซึ่งเรื่องนี้มักไม่ค่อยเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะในการทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ อย่างเช่นของ Microsoft หรือค่าย Google ที่รวมเครื่องมือต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน อาทิ ค่าย Microsoft ที่ได้มีการรวบรวมเอา ChatGPT เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ Teams ซึ่งสามารถทำให้การบันทึกการประชุมสามารถทำได้โดย GenAI หรือการรวมเครื่องมือของ Flows เข้ามาใช้ในการทำงานทำให้การส่งอีเมลอัตโนมัติสามารถทำได้จาก Flow เลย หรือการนำ Co-Pilot เข้ามาใช้ร่วมกับ Power BI เพื่อที่จะแปลผลของข้อมูลให้กับผู้ใช้งานได้แบบทันที

3. การตลาดโดยใช้บทสนทนา เป็นเครื่องมือทางการตลาดกำลังมา

ในสมัยก่อน ลูกค้าต้องเข้ามาอ่าน FAQ หรือคำถามที่เกิดบ่อย ๆ บนเว็บไซต์หรือเข้ามาอ่านข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้การตลาดทำผ่านเครื่องมือแชทด้วยการใช้แชทบอทเข้ามาช่วย ทำให้ช่วยเพิ่มการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลในการตอบคำถามทางการตลาดมากขึ้น เพราะไม่ใช่ว่าลูกค้าทุกคนจะต้องการความรู้ที่เหมือนกัน การตลาดแบบบทสนทนานี้ เมื่อผู้บริโภคถามอะไรมา แชทบอทจะทำหน้าที่ตอบกลับไปได้อย่างรวดเร็วแล้วก็ตอบกลับไปในมุมของนักการตลาด ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีความรู้สึกดี ๆ กับแบรนด์เรา รวมถึงซื้อของเรามากขึ้นอีกด้วย

ลูกค้าในปัจจุบันต้องการคำตอบและต้องการในทันที นักการตลาดควรเตรียมพร้อมสำหรับ “การตลาดแบบสนทนา” ที่เสมือนมีแชทบอทที่ฉลาดมากขึ้น และบอทเหล่านี้จะติดตามการเดินทางของลูกค้า หรือ Customer Journey ของคุณ ซึ่งจะช่วยปรับการสนทนาให้เป็นการส่วนตัวและปิดการขายได้เร็วขึ้นอีกด้วย

4. การมาของ Customer Data Platform (CDP)

CDP เป็นระบบที่ช่วยในการรวบรวม จัดเก็บ และการจัดการข้อมูลของลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถเข้าใจและสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ CDP ยังช่วยในการสร้างประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรม ความสนใจ และประวัติการซื้อของลูกค้า เพื่อสร้างการสื่อสารและการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อุตสากรรม CDP เป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก แต่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอีก ซึ่งเรียกว่าการทำ “Composability” หมายถึง การออกแบบและการใช้งาน CDP ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยน หรือ “Compose” ได้ตามความต้องการของธุรกิจ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นี่คือหลักการที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่ง CDP ให้ตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจง โดยการเลือกใช้งานคุณสมบัติ หรือโมดูลต่าง ๆ ที่เหมาะสม

5. นักการตลาดที่สามารถทำการตลาดแบบแต่ละบุคคลจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้

เคยไหมกับการทำแคมเปญทางการตลาดแบบส่งโปรโมชั่นให้กับทุกคนเหมือน ๆ กัน มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำแคมเปญทางการตลาดแบบเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ในปัจจุบันมีความต้องการที่จะได้รับคอนเทนต์เฉพาะตัว และนี่คือการสร้างความแตกต่างของแบรนด์ ความยากก็คือ กฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคล มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเรื่องของทำ Cookies การไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้ามแพลตฟอร์ม มีความเข้มงวดมากขึ้นและไม่สามารถทำได้เลยหากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งาน ดังนั้นการมีข้อมูลส่วนบุคคลอยู่บนแพลตฟอร์มของตัวเอง แล้วใช้ควบคู่กับAI จะทำให้คุณสามารถทำโปรแกรมการตลาดได้อย่างดีขึ้น สร้างความเชื่อถือได้มากขึ้น และความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์นี่แหละที่จะทำให้ท้ายที่สุดแล้วแบรนด์จะได้ลูกค้าที่อยู่กับคุณไปนาน ๆ

อย่าให้ความกังวลที่จะพลาดโอกาส Fear of Missing Out (FOMO) ทำให้คุณไม่เรียนรู้ Martech ใหม่ ๆ ยอมรับแนวโน้ม Martech เหล่านี้และคุณจะเป็นผู้กำหนดเทรนด์ ไม่ใช่นักการตลาดที่ล้าสมัย มาติดตามสำหรับกรณีศึกษา เพื่อดูแนวโน้มเหล่านี้ในเกมการตลาดที่จะไต่ระดับขึ้นในปี 2024 นี้ในบทความหน้ากันนะคะ!

]]>
1457110
ล้ำกว่าใคร! ‘สิงคโปร์’ ขี้นอันดับ 1 ประเทศที่พนักงานนำ ‘เอไอ’ มาปรับใช้เร็วที่สุดในโลก https://positioningmag.com/1441914 Tue, 22 Aug 2023 07:39:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1441914 การมาของ ChatGPT ได้ทำให้ทั่วโลกหันมาตื่นตัวในเทคโนโลยี เอไอ (AI) โดยเฉพาะ Generative AI (GAI) และจากรายงาน Future of Work ล่าสุดของ LinkedIn ที่ทำการสำรวจข้อมูลใน 25 ประเทศทั่วโลกเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เอไอของพนักงานในประเทศนั้น ๆ โดยพบว่า สิงคโปร์ขึ้นแท่นเป็นประเทศนำเอไอมาใช้เร็วที่สุด

โดยเมื่อเทียบกับ 25 ประเทศทั่วโลกแล้ว LinkedIn พบว่า สิงคโปร์ เป็นประเทศที่พนักงานนำเอไอมาปรับใช้เร็วที่สุด เมื่อวัดจากจำนวนการอัพเดททักษะด้านเอไอลงในโปรไฟล์ส่วนตัว ซึ่งเพิ่มขึ้น 20 เท่า จากเดือนมกราคม 2016 ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 8 เท่า

โดย 5 ประเทศ ที่มีการปรับใช้เอไอมากที่สุด ได้แก่

  • สิงคโปร์: 20 เท่า
  • ฟินแลนด์: 16 เท่า
  • ไอร์แลนด์: 15 เท่า
  • อินเดีย: 14 เท่า
  • แคนาดา: 13 เท่า

Pooja Chhabria ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพและหัวหน้าฝ่ายบรรณาธิการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ LinkedIn กล่าวว่า ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงของสิงคโปร์ กรอบกฎหมายที่แข็งแกร่งสำหรับปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และระบบนิเวศที่เฟื่องฟูของบริษัทร่วมทุน และนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากที่ร่วมลงทุน ทำให้สิงคโปร์เป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการเติบโตของเอไอมานานแล้ว

“เราได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วในการพัฒนาเอไอ และการนำเอไอ มาใช้ ซึ่งขับเคลื่อนโดยสตาร์ทอัพและธุรกิจต่าง ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะเข้าถึงตลาดเฉพาะกลุ่มใหม่ ๆ และเพื่อให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น”

ภาพจาก Unsplash

ต้องยอมรับว่าการมาของเทคโนโลยี Generative AI โดยเฉพาะการกำเนิดของ ChatGPT ในปีที่ผ่านมา ได้ทำให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่สนใจที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้ โดยเฉพาะในบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Google หรืออย่าง Microsoft ก็มีการเปิดฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ LinkedIn ซึ่งเป็นบริษัทลูก สามารถสร้างข้อความจ้างงาน คำอธิบายงาน และโปรไฟล์ผู้ใช้ที่สร้างโดยเอไอ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถของ generative AI ในการสร้างข้อความ รูปภาพ และเนื้อหาอื่น ๆ ตามที่มนุษย์ป้อนคำสั่งไปนั้น ได้ทำให้เกิดความกังวลว่าจะ ตกงาน เพราะถูกเทคโนโลยีเทนที่ อย่างรายงานของ Goldman Sachs พบว่า งานกว่า 300 ล้านตำแหน่งทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบจากเอไอและระบบอัตโนมัติ เช่น เจ้าหน้าที่ธุรการ

ถึงจะมีความกังวลดังกล่าว แต่หลายคนก็ยังเชื่อว่าเอไอจะเข้ามาเป็นผู้ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น อย่างเช่นอาชีพ ครู โดย LinkedIn พบว่า 45% ของทักษะของครู สามารถใช้ generative AI เสริมศักยภาพได้ เช่น การวางแผนการเรียนการสอน การพัฒนาหลักสูตร แต่ส่วนที่เอไอมาแทนที่ไม่ได้ อาทิ การสอนในชั้นเรียน

ทั้งนี้ LinkedIn ประเมินว่า 6 อาชีพที่เทคโนโลยี Generative AI จะเข้าไปช่วยเสริมศักยภาพได้ สูงสุด ได้แก่

  • วิศวกรซอฟต์แวร์: 96%
  • ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า: 76%
  • แคชเชียร์: 59%
  • พนักงานขาย: 59%
  • ครู: 45%
  • ผู้จัดการกิจกรรม: 39%

ส่วนงานที่เอไอเข้าไปช่วยเสริมศักยภาพได้ น้อยที่สุด ได้แก่

  • ผู้ปฏิบัติงานในแหล่งน้ำมัน: 1%
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม: 3%
  • พยาบาล: 6%
  • แพทย์: 7%

Source

]]>
1441914
LinkedIn เผยข้อมูลประกาศ “รับสมัครงาน” ตำแหน่งที่เกี่ยวกับ “ChatGPT” พุ่งขึ้น 21 เท่า https://positioningmag.com/1441913 Tue, 22 Aug 2023 07:27:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1441913 แพลตฟอร์มเชื่อมสัมพันธ์เพื่อสมัครงานอย่าง LinkedIn เปิดข้อมูลพบว่าประกาศ “รับสมัครงาน” ที่เกี่ยวกับ “ChatGPT” เพิ่มขึ้นถึง 21 เท่า นับตั้งแต่มีการเปิดตัวแชตบอตตัวนี้ รวมถึงเทรนด์ตำแหน่งที่เกี่ยวกับ AI ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดงาน

รายงาน Future of Work ของ LinkedIn เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับ “ChatGPT” พบว่า ประกาศรับสมัครงานที่เอ่ยถึงการใช้งาน ChatGPT เพิ่มขึ้นถึง 21 เท่า นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่ OpenAI เปิดตัวแชตบอตนี้เป็นครั้งแรก

“เราเห็นพัฒนาการของตำแหน่งงานที่เปลี่ยนแปลงเร็วกว่าที่เคยเป็นมา” คาริน คิมโบรห์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ LinkedIn กล่าว

ตำแหน่งงานใหม่ๆ เต็มไปด้วยตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับ AI ไม่ว่าจะเป็นพนักงานทั่วไป, วิศวกร AI, หัวหน้าฝ่าย AI, นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, ที่ปรึกษาด้าน AI หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เฉพาะในตลาดงานสหรัฐฯ บริษัทที่มีตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย AI เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าภายในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา

แพลตฟอร์มหางานอื่นๆ ก็มีแนวโน้มแบบเดียวกัน เช่น Indeed พบว่ามีตำแหน่งงานที่เกี่ยวกับ Generative AI ในอัตราส่วน 529 ประกาศต่อ 1 ล้านประกาศ เทียบกับเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนมีสัดส่วนเพียง 104 ประกาศต่อ 1 ล้านประกาศ

โครี สตาห์เล นักเศรษฐศาสตร์ของ Indeed ระบุด้วยว่า แม้ตลาดงานในภาพรวมจะชะลอตัวลง แต่ดีมานด์คนในสายงาน AI ยังคงสูงพอสมควร “เราเหมือนเปลี่ยนจากยุคหม้อน้ำเดือดพล่านมาเป็นยุคหม้อยังอุ่นๆ อยู่ตอนนี้”

อีกแพลตฟอร์มหางานคือ ZipRecruiter พบว่าตำแหน่งงานเกี่ยวกับ Generative AI เพิ่มเป็น 1,309 ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2022 มีแค่ 21 ประกาศเท่านั้น

 

AI ทดแทนตำแหน่งงานเก่า แต่ก็สร้างงานใหม่

ในอีกแง่มุมหนึ่ง เรายังไม่รู้ว่า AI จะทำให้ตำแหน่งงานอื่นๆ ลดลงไปมากเท่าไหร่แน่ แต่รายงานชิ้นนี้ของ LinkedIn มีการรวบรวมการคาดการณ์จากหลายแหล่ง โดย Goldman Sachs มองว่า AI จะมาชดเชยตำแหน่งงานประจำไปถึง 300 ล้านตำแหน่ง

ขณะที่ World Economic Forum สำรวจฝั่งผู้จ้างงานและคาดการณ์ว่า AI จะทำให้ตำแหน่งงานเดิมลดลง 83 ล้านตำแหน่งภายในปี 2027 แต่ก็จะทำให้เกิดตำแหน่งงานใหม่เพิ่ม 69 ล้านตำแหน่ง เมื่อหักลบกันแล้วเท่ากับว่าตำแหน่งงานจะหายไป 14 ล้านตำแหน่ง

แน่นอนว่าตำแหน่งงานเกิดขึ้นใหม่เหล่านี้จะเกี่ยวกับ AI โดยตรง เช่น ตำแหน่งที่ทำหน้าที่ประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) หรือฝั่งผู้ใช้งานจะมีตำแหน่งของคนที่สามารถป้อนคำสั่ง (prompt) ให้กับ AI ได้ดีที่สุดเพื่อให้บริษัทได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

อีกสายตำแหน่งงานที่คาดการณ์กันว่าจะเกิดขึ้นใหม่เพราะมี AI เข้ามาใช้งาน คือกลุ่มสายงาน “นักจริยธรรม” และ “ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความเชื่อมั่น” เพราะบริษัทจะต้องสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าให้ได้ว่า พวกเขาได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำได้แล้วเพื่อให้ระบบ AI ที่สร้างขึ้นไม่มีอคติต่อตัวบุคคล

LinkedIn ระบุด้วยว่า ก่อนที่จะมีการเปิดตัว ChatGPT การเติบโตของตำแหน่งงานที่เกี่ยวกับแชตบอตแบบนี้เติบโตประมาณ 7.7% แต่ปัจจุบันอัตราการเติบโตสูงขึ้นเป็น 13% ถือเป็นตำแหน่งที่มีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Source

]]>
1441913