Great Wall Motor – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 11 Jul 2022 05:07:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘GWM’ หั่นเป้าเหลือ 1.2 หมื่นคัน พร้อมจ่อขึ้นราคา ‘Ora Good Cat’ หลังของขาด-ต้นทุนพุ่ง https://positioningmag.com/1392030 Mon, 11 Jul 2022 03:44:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1392030 ครบ 1 ปีพอดิบพอดีสำหรับการจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดเอสยูวีรุ่นแรกอย่าง Haval H6 ของค่ายยักษ์ใหญ่จากจีน Great Wall Motor หรือ GWM ซึ่งถือเป็นรุ่นเดียวที่ผลิตในไทย ณ ตอนนี้อีกด้วย แม้ปีที่ผ่านมาจะเจอกับความท้าทายอย่างการระบาดของ COVID-19 แต่สำหรับปีนี้สิ่งที่เป็นความท้าทายหลักดูเหมือนจะเป็นปัญหา Short supply โดยเฉพาะชิป

หั่นเป้าลง 8,000 คัน เพราะรถไม่พอ

ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรทวอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยอมรับว่า ปัญหา Short supply นั้นส่งผลกระทบกับแบรนด์อย่างมาก ทำให้เป้าหมายการเปิดตัวรถใหม่จาก 5 รุ่น เหลือเพียง 3 รุ่น โดยจะมี Haval H6 Plug-in Hybrid ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 3 นี้ และเนื่องจากจำนวนรถที่เปิดตัวน้อย จึงได้ปรับเป้าหมายยอดขาย 20,000 คัน เหลือเพียง 12,000 คัน เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

โดยบริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้า เพราะยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกของปี (ม.ค.-มิ.ย.) GWM มียอดขายทั้งสิ้น 5,219 คัน แบ่งเป็น

  • Haval H6 : 2,218 คัน (ยอดขายสะสม 4,859 คัน)
  • Ora Good Cat : 1,402 คัน (ยอดขายสะสม 1,864 คัน)
  • Jolion : 1,599 คัน (ยอดขายสะสม 2,198 คัน)

น้องแมวเตรียมขึ้นราคา

สำหรับ Ora Good Cat รถไฟฟ้า 100% ของค่ายยังได้รับการตอบรับอย่างดี โดย ORA Good Cat GT ก็ถูกจองหมด 500 คันไม่ถึง 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าล็อตใหม่ที่จะเปิดพรีออเดอร์ต้องรอดูว่าบริษัทแม่จะมีการจัดสรรโควตาให้มากน้อยแค่ไหน ด้วยต้นทุนที่มันสูงขึ้น บริษัทจำเป็นต้อง ปรับราคาใหม่ ที่จะสะท้อนต้นทุนจริงสำหรับล็อตต่อไป แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดจองอีกเมื่อไหร่ เนื่องจากปัจจุบัน GWM มียอดค้างส่งมอบราว ๆ 3,000 คัน โดยครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะส่งมอบได้ 300 คัน

“ตอนนี้ต้นทุนแพงขึ้นหมด เพราะวัตถุดิบผลิตชิปและผลิตแบตเตอรี่ขึ้นราคาหมด อย่างราคาลิเธียมปรับขึ้น 500% หลายแบรนด์ต้องปรับกลยุทธ์ เช่น ปรับราคา ตัดออปชั่น ดังนั้น Ora Good Cat ล็อตใหม่อาจปรับราคา ส่วนรุ่นอื่น ๆ ขึ้นอาจยังตอบไม่ได้ 100% จะมีการปรับราคาไหม แต่ถ้าไม่มีการปรับโฉมเราจะพยายามตรึงราคา”

เพิ่มการันตีสยบปัญหา

ณรงค์ ยอมรับว่า ยอดขายรถรุ่นเรือธงอย่าง Jolion ไม่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสว่า รถกินน้ำมันเกินเหตุ ซึ่งทางบริษัทก็ได้มีการชี้แจงกับลูกค้า พร้อมกับขยายการรับประกันให้ลูกค้าจาก 5 ปี หรือ 150,000 กม. เป็น 7 ปี 190,000 กม. และรับประกันอะไหล่ทุกชิ้น

ส่วนด้าน Ora Good Cat ที่มีปัญหาเรื่องรออะไหล่นาน โดยทางบริษัทกำลังแก้ปัญหา เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดล่าช้าเพราะต้องนำเข้าอะไหล่ทั้งหมด โดยทางบริษัทก็พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยจะการันตีว่าจากนี้จะ รออะไหล่ไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยมีแผนจะเพิ่มคลังเก็บอะไหล่เป็น 5,300 SKU หรือคิดเป็นประมาณ 90% ของชิ้นส่วนรถจากเดิม 3,700 SKU

“เรามีกลยุทธ์ 6S ซึ่งให้ความสำคัญกับการการขายและการบริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนเครือข่ายการให้บริการ ประกอบด้วย Sales, Service, Spare parts, Survey, Social & Share”

น้ำมันแพงกับส่วนลดช่วยดันยอดรถอีวี

สำหรับภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 820,000 คัน เติบโตประมาณ 10-12% ส่วนตลาด รถ xEV คาดว่าจะมียอดขายที่ราว 8.2 หมื่นคัน หรือ 10% ของตลาดรวม และยอดขาย รถไฟฟ้า 100% คาดว่าจะอยู่ที่ราว 12,000 คัน หรือราว 15% ของตลาด xEV

“เราเห็นความพร้อมของผู้บริโภคมากขึ้นที่จะเปิดรับรถอีวี เพราะเขาศึกษามานานแล้วพอมีการสนับสนุนจากรัฐเขาก็ซื้อทันที และในช่วงที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น หลายคนก็เริ่มหันมาศึกษา แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีกลุ่มที่สนใจแต่ยังไม่มั่นใจในอินฟราสตรักเจอร์ต่าง ๆ บางคนไม่พร้อมที่ต้องวางแผนการเดินทาง เราก็ต้องคอยให้คำปรึกษา”

ทั้งนี้ GWM ตั้งเป้าขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบ DC Fast Charging ให้ครบ 55 แห่งภายในปีนี้ โดยแบ่งเป็น 70% ในกรุงเทพฯ อีก 30% ในต่างจังหวัด โดยเปิดให้ลูกค้าทุกค่ายชาร์จได้ นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันรวมจุดสถานีชาร์จทั่วไทย ปัจจุบันภายในแอปรวมไว้ทั้งหมดประมาณ 500 สถานี คิดเป็น 50% ของสถานีชาร์จทั้งหมด โดยในสิ้นปีคาดว่าจะรวมได้ 80%

“แบรนด์จีนใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวใหม่ในสิ้นปีนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดี เราไม่ได้มองการแข่งขัน เพราะตลาดยังเปิดกว้างมาก โดยเฉพาะรถอีวี 100% แต่เรามองว่าไม่อยากให้ค่ายที่เข้ามาเน้นที่การขาย แต่ต้องช่วยกันพัฒนาอินฟราสตรักเจอร์ด้วย ซึ่งจะช่วยให้การเติบโตของตลาดเร็วขึ้น ส่วนเราก็ต้องตื่นตัวและปรับตัวตลอดเวลา”

]]>
1392030
รอลุ้น! Xiaomi เตรียมเปิดตัว ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ โดยใช้โรงงานผลิตของ Great Wall Motor https://positioningmag.com/1325243 Fri, 26 Mar 2021 18:02:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1325243 กระเเสข่าวที่ว่า ‘Xiaomi’ บริษัทเทครายใหญ่ของจีน กำลังจะกระโจนลงมาเล่นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีมูลขึ้นเรื่อยๆ

ล่าสุด Reuters รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าว 3 รายว่า Xiaomi มีเเผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในปี 2023 โดยใช้โรงงานของ Great Wall Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน

Xiaomi ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อข่าวนี้ ส่วน Great Wall Motor กล่าวเพียงว่าในที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางบริษัทไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องการจับมือเป็นพาร์ตเนอร์กับ Xiaomi

เเหล่งข่าวให้ข้อมูลกับ Reuters ว่า  Xiaomi จะเน้นไปที่การเจาะตลาดเเมสเพื่อทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น สอดคล้องกับเเนวทางของบริษัทที่มักจะทำสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีราคาถูกกว่าตลาด โดยชูจุดเด่นในด้านการดีไซน์เเละฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

(Photo by Alex Tai/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

ด้าน Great Wall Motor ที่ไม่เคยให้รับการผลิตให้กับบริษัทอื่นมาก่อน ก็จะให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมเพื่อเร่งโครงการนี้ให้เร็วขึ้น โดยคาดว่าทั้งสองจะแถลงความร่วมมือดังกล่าวได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้

แผนดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ Xiaomi พยายามกระจายความเสี่ยงด้านรายได้ในธุรกิจสมาร์ทโฟนที่เเม้จะทำเงินได้มหาศาล เเต่กลับทำกำไรได้น้อย เมื่อต้องเเบกต้นทุนที่สูงขึ้นหลังเกิดปัญหาขาดแคลนชิปทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตรถยนต์กับบริษัทเทคโนโลยีที่จะได้ทำงานใกล้ชิดกันนั้น ก็จะนำไปสู่การพัฒนายานยนต์อัจฉริยะที่ล้ำสมัยมากขึ้น

ภาพบรรยากาศภายในโรงงานของ Great Wall Motor ในเมืองไท่โจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน (Photo credit should read Costfoto/Barcroft Media via Getty Images)

ก่อนหน้านี้ ค่ายผู้พัฒนาสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของโลกทั้ง Apple และ Huawei ก็เพิ่งประกาศลงสนามเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจัง โดยคาดว่า Huawei จะเปิดตัว EV บางรุ่นหรือบางโมเดลออกสู่ตลาดภายในปีนี้

ส่วนความคืบหน้า Apple Car ยังถูกจับตามองอยู่เรื่อยๆ หลังเคยมีกระเเสข่าวว่า Apple ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับ Hyundai-KIA เเละอาจเริ่มผลิตได้ในอีก 3 ปีนี้ เเต่ในที่สุดทาง Hyundai ก็ออกมาปฏิเสธ

แหล่งข่าวบอกกับ Reuters อีกว่า Lei Jun ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารระดับสูงของ Xiaomi เชื่อว่าความเชี่ยวชาญของบริษัทในการผลิตฮาร์ดแวร์ จะช่วยเร่งให้การออกแบบและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาได้โดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในปี 2023 โดยรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi จะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ของเเบรนด์ได้

ทั้งนี้ Great Wall Motor มียอดขายทั่วโลกในปี 2564 อยู่ที่ 1.11 ล้านคัน โดยเพิ่งเปิดตัวแบรนด์ใหม่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เเละกำลังก่อสร้างโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนร่วมกับ BMW ของเยอรมนี รวมถึงกำลังจะมีโรงงานแห่งแรกในไทยด้วย โดยได้เตรียมงบลงทุนในไทยถึง 22,600 ล้านบาท เเละมีแผนจ้างงานกว่า 5,000 คนภายใน 3 ปี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มี.ค. Xiaomi ประกาศว่าจะจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อดำเนินธุรกิจรถไฟฟ้าอัจฉริยะ (smart electric vehicle) โดยเฉพาะ ซึ่งมีการวางงบประมาณลงทุนในระยะ 10 ปีไว้ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 แสนล้านบาท)

 

อ่านรายละเอียด : กางแผนเกรท วอลล์ มอเตอร์กับภารกิจเป็น ‘Top of Mind’ ในตลาดรถอีวี

 

 

ที่มา : Reuters

]]>
1325243
กางแผน ‘เกรท วอลล์ มอเตอร์’ กับภารกิจเป็น ‘Top of Mind’ ในตลาด ‘รถอีวี’ https://positioningmag.com/1318935 Wed, 10 Feb 2021 14:53:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1318935 หากใครจำได้ถึงข่าวใหญ่ในปี 2020 ที่ ‘General Motor’ (GM) หรือแบรนด์ ‘เชฟโรเลต’ ที่คนไทยคุ้นเคยได้ม้วนเสื่อเลิกกิจการในไทย และผู้ที่เข้ามาซื้อโรงงานต่อจาก GM ก็คือ ‘เกรท วอลล์ มอเตอร์’ (Great Wall Motor : GWM) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากจีน

ซึ่งทางผู้บริหารของบริษัทที่นำโดย “เอลเลียต จาง” ประธาน และ “สตีเฟ่น หวัง” รองประธาน ฝ่ายขายและการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย พร้อมด้วย “ณรงค์ สีตลายน” กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย จะมาเปิดเผยถึงกลยุทธ์ที่จะใช้ลุยตลาดไทย รวมถึงเป้าหมายในฐานะน้องใหม่

(จากซ้ายไปขวา) มร. เอลเลียต จาง, มร. สตีเฟ่น หวัง, นายณรงค์ สีตลายน

รู้จัก ‘เกรท วอลล์ มอเตอร์’

เกรท วอลล์ มอเตอร์ได้เริ่มก่อตั้งในปี 1984 โดย แจ็ค เว่ย ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น โดยในปี 1996 บริษัทได้เปิดตัว Great Wall Pickup รุ่น Deer ถือเป็นรถยนต์คันแรกที่เริ่มผลิตและจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวสามารถครองแชมป์ตลาดรถกระบะในจีนยาวนานกว่า 23 ปี

จากนั้นก็ได้เปิดตัวแบรนด์รถยนต์เอสยูวีอย่าง ‘HAVAL’ ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีอีกครั้งจนกลายเป็นแบรนด์แรกในจีนที่มียอดขายเกิน 5 ล้านคัน และขึ้นเป็นแบรนด์รถเอสยูวีที่มียอดขายอันดับหนึ่ง 9 ปีซ้อน อีกทั้งยังกลายเป็น TOP 3 ผู้ผลิตรถเอสยูวีระดับโลกอีกด้วย ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์มีรถยนต์ 4 แบรนด์ย่อยที่สามารถสร้างยอดขายรวมกันกว่า 1 ล้านคันต่อปีเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน ได้แก่

  • HAVAL (ฮาวาล) แบรนด์รถเอสยูวี ก่อตั้งขึ้นในปี 2013
  • WEY (เวย์) แบรนด์รถเอสยูวีลักชัวรี ก่อตั้งในปี 2016
  • ORA (โอรา) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่นำเสนอรถยนต์หลากหลายรุ่นที่แตกต่างกัน
  • GWM POER (จีดับเบิลยูเอ็ม พาวเออร์) แบรนด์รถกระบะที่มียอดขายอันดับ 1 เวลา 23 ปีซ้อน

ทำไมมาลงทุนในไทย?

ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ได้ระบุว่าบริษัทได้เตรียมงบลงทุนในไทยถึง 22,600 ล้านบาท โดยมีแผนจ้างงานกว่า 5,000 คนภายใน 3 ปี ซึ่งสาเหตุที่ทำให้บริษัทเลือกเข้ามาลงทุนในไทยนั้นเป็นเพราะความพร้อมทั้งจุดยุทธศาสตร์ บุคลากร และทรัพยากร นอกจากนี้ยังมีนโยบายของภาครัฐที่สนับสนุนพลังงานทดแทน และการขับเคลื่อนประเทศด้วยไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงความพร้อมด้านเทคโนโลยีทั้ง 4G และ 5G ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของแบรนด์

นอกจากนี้ ตลาดประเทศไทยยังถือเป็นตลาดที่มีความยากและท้าทาย ดังนั้น บริษัทจึงมองว่าการทำตลาดในไทยจะช่วยให้เกิดความสนุกในการสร้างสรรค์กลยุทธ์ต่าง ๆ

Great Wall Motor factory. (Photo credit should read Costfoto/Barcroft Media via Getty Images)

ปั้นไทย HUB ส่งออกพวงมาลัยขวา

เบื้องต้น บริษัทตั้งเป้าที่จะวางให้ประเทศไทยเป็นแหล่งส่งออกรถพวงมาลัยขวา โดยคาดว่าในเฟสแรกโรงงานที่ระยองจะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 80,000 คัน โดย 60% ผลิตเพื่อป้อนตลาดประเทศไทย อีก 40% เป็นตลาดส่งออก ปัจจุบัน โรงงานที่ระยองได้เริ่มทดลองไลน์ผลิตแล้ว และจะเริ่มผลิตจริงได้ในไตรมาสสองของปีนี้

“แน่นอนว่าเราจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอีกในอนาคต และเราวางแผนให้ต้องใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในไทยให้ถึง 45% ซึ่งนี่จะเป็นผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทย”

ใน 3 ปี ต้องมีรถทำตลาด 9 รุ่น

กลยุทธ์หลักของเกรท วอลล์ มอเตอร์จะมี 3 ส่วน 1.เป็นผู้น้ำรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งแบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และ BEV โดยตั้งเป้าเปิดตัวรถยนต์ 9 รุ่นใน 3 ปี 2.สร้างแบรนด์ผ่านการฟังเสียงผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยตลอด 1 ปีที่ผ่านมาก็มีการลงพื้นที่เก็บข้อมูล 3.สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า โดยนำข้อมูลที่เก็บมาดีไซน์ เพื่อให้เกิดบริการที่ดีที่สุด โปร่งใสที่สุด เพื่อเกิดการบอกต่อ

โดยในปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวรถ 2 รุ่น ได้แก่ ‘Haval H6’ รถยนต์เอสยูวีขุมพลังไฮบริดเปิดตัวในช่วงไตรมาสสอง โดยจะเป็นรุ่นแรกที่ประกอบในไทย ส่วนอีกหนึ่งรุ่น ‘ORA Good Cat’ รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่จะนำเข้ามาในไตรมาส 4 จากประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ราคาอย่างเป็นทางการยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา แต่สามารถยลโฉมจริงได้ครั้งแรกที่งาน Bangkok International Motor Showในวันที่ 24 มี.ค.- 4 เม.ย. ได้เลย

ORA Good Cat

เดินหน้าสร้าง 30 โชว์รูมในสิ้นปี

ในส่วนของแผนการเปิดโชว์รูมนั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ระบุว่าจะไม่ ‘เยอะ’ เหมือนกับคู่แข่ง โดยในปีนี้จะเปิดก่อน 30 แห่ง โดยแต่ละแห่งจะมีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครด้วยการใส่นวัตกรรมมายกระดับ และเตรียมสร้าง ‘flagship Service Center’ ของภูมิภาคนี้ในประเทศไทยอีกด้วย

“เราจะเน้นการเชื่อมต่อของ Online to Offline โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องส่งรถมาซ่อมเอง แต่เราจะไปรับ โดยลูกค้าสามารถชมการซ่อมผ่านแอปพลิเคชันได้แบบเรียลไทม์ ดังนั้น เราจะเน้นไปที่ประสบการณ์ไม่ใช่จำนวน”

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมสร้าง ‘ต้นแบบสถานีชาร์จ’ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค โดยจะเป็นการลงทุนทั้งจากส่วนของบริษัทและร่วมทุนกับภาคเอกชนรายอื่น

ยอดขายไม่เน้น แต่ขอนั่งในใจลูกค้า

ในช่วง 1-3 ปีแรกที่ทำตลาด บริษัทมองว่ายังเป็นระยะสั้น ดังนั้นจึงยังไม่โฟกัสที่เรื่องของยอดขายเป็นเป้าหลัก แต่จะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้เป็นหลักเพื่อให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคชาวไทย โดยตั้งเป้าที่จะเป็น ‘Top of Mind’ ของลูกค้าเมื่อนึกถึงรถเอสยูวีและรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ตลาดประเทศไทยเองก็มีการแข่งขันสูง จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป

“เราเป็นน้องใหม่ในไทย แต่ก็เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในจีน ดังนั้นเราไม่รีบร้อน เราจะเน้นที่จะทำความรู้จัก เพื่อให้เกิดการยอมรับของแบรนด์ อดีตแบรนด์จีนอาจไม่ได้เป็นที่ยอมรับเท่าที่ควร แต่ 4-5 ปีหลังแบรนด์จีนได้รับความนิยมและการยอมรับเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น เรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทย

ไม่แข่งราคา แต่มั่นใจว่าถูกใจแน่นอน

ในเรื่องของราคาที่ผู้บริโภคไทยจะติดภาพว่าแบรนด์จีนต้อง ‘ถูก’ ซึ่งบริษัทยืนยันว่าไม่ได้คิดจะแข่งเรื่อง ‘ราคา’ แต่มั่นใจว่าเป็นราคาคุ้มค่า เพราะคิดจากความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้ง ว่าต้องการสเปกแบบไหน ใช้งานอะไร เพื่อดีไซน์ผลิตภัณฑ์ ดังนั้น บริษัทไม่ได้มีแผนว่าจะต้องตั้งราคาแข่งกับใคร แต่เป็นที่พึงพอใจของลูกค้าไทยแน่นอน

ดูเหมือนว่าตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทยจะเริ่มดุเดือดไม่แพ้ตลาดโลกซะแล้ว งานนี้บริษัทรุ่นพี่จากจีนอย่าง ‘MG’ ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยคงมีหนาว ๆ ร้อน ๆ บ้างแล้ว

]]>
1318935