Middle East – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 03 Jul 2024 09:38:03 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Qatar Airways ผลประกอบการปีล่าสุด กำไรพุ่ง 39% จากจำนวนผู้โดยสารที่ยังเติบโตต่อเนื่อง ขยายเส้นทางบิน https://positioningmag.com/1480844 Wed, 03 Jul 2024 05:02:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1480844 สายการบินรายใหญ่อย่าง ‘กาตาร์ แอร์เวย์ส’ รายงานผลประกอบการปีล่าสุด 2023/24 นั้นกวาดกำไรไปมากถึง 61,560 ล้านบาท เติบโต 39% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากปัจจัยสำคัญคือจำนวนผู้โดยสารที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Qatar Airways สายการบินยักษ์ใหญ่จากตะวันออกกลางอีกราย ได้รายงานผลประกอบการประจำปี 2023/24 โดยสายการบินรายนี้ทำกำไรได้มากถึง 6,100 ล้านริยาลกาตาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยมากถึง 61,560 ล้านบาท เติบโตมากถึง 39% เมื่อเทียบกับปี 2022

สายการบินได้รายงานถึงผลประกอบการประจำปี 2023/24 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รายได้รวมของสายการบินเติบโตมากถึง 6% อยู่ที่ 81,000 ล้านริยาลกาตาร์ และขนส่งผู้โดยสารไปแล้วมากกว่า 40 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 26%

ตัวเลขอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร หรือ Load Factor ของ Qatar Airways นั้นสูงมากถึง 83% หลังจากสายการบินได้พยายามกลับมาเพิ่มเส้นทางการบินมากขึ้น ซึ่งเส้นทางการบินทั้งหมดมีมากถึง 170 เส้นทาง ขณะเดียวกันก็ยังรวมถึงความต้องการในการเดินทางที่ยังสูงทั่วโลกยังส่งผลดีต่อสายการบินด้วย

ขณะที่ธุรกิจคาร์โก้ของ Qatar Airways ในรายงานผลประกอบการประจำปีชี้ว่าสายการบินมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้ล่าสุดนั้นสายการบินมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 7.4%

Badr Mohammed Al-Meer ได้กล่าวถึงผลประกอบการของ Qatar Airways ว่า รายได้และกำไรที่ทำสถิติของสายการบินนั้นมาจาก การมุ่งเน้นในเรื่องความสามารถในการทำกำไร ประสิทธิภาพ รวมถึงประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายเส้นทางการบิน หรือแม้แต่การขยายฝูงบิน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Qatar Airways คือสายการบินกำลังสนใจที่จะซื้อหุ้นสัดส่วน 20% ของ​ Virgin Australia หลังจากที่สายการบินพยายามที่จะเจาะตลาดในแถบดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะมีสิทธิ์โดนรัฐบาลออสเตรเลียขวางไม่ให้ซื้อหุ้นก็ตาม

]]>
1480844
Saudi Aramco บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก มีแผนมาสกัดลิเทียมจากน้ำเค็มในบ่อน้ำมัน เพื่อกระจายรายได้เพิ่ม https://positioningmag.com/1465732 Sun, 10 Mar 2024 16:25:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1465732 Saudi Aramco บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกจากซาอุดีอาระเบีย มีแผนมาสกัดลิเทียมจากน้ำเค็มในบ่อน้ำมัน โดยบริษัทต้องการที่จะกระจายรายได้เพิ่มเติมนอกจากการพึ่งพาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า ซาอุดิ อารามโค (Saudi Aramco) บริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้มีแผนที่จะสกัดลิเทียมจากน้ำเค็มในบ่อน้ำมันของบริษัท เพื่อลดสัดส่วนพึ่งพารายได้หลักของบริษัทที่ยังน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และยังเป็นการกระจายรายได้ให้บริษัทอีกช่องทาง

แหล่งข่าวของ Reuters ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ได้กล่าวว่า Saudi Aramco อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการสกัดลิเทียม และได้เลือกเทคโนโลยีสำหรับการสกัดแร่ดังกล่าวแล้ว

สำหรับเทคโนโลยีที่ Saudi Aramco จะนำมาใช้สกัดลิเทียมจากน้ำเค็มในบ่อน้ำมันของบริษัทก็คือเทคโนโลยี Direct Lithium Extraction (DLE) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีการพิสูจน์แล้วว่าสามารถที่จะสกัดลิเทียมออกมาได้อย่างรวดเร็วใช้เวลาเพียงแค่หลักวันเท่านั้นเมื่อเทียบกับขั้นตอนแบบเดิมที่ใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน

เทคโนโลยี DLE เองยังมีโอกาสสามารถสกัดลิเทียมได้ออกมาได้สูงสุดถึง 90% แตกต่างกับวิธีแบบเดิมๆ สามารถทำได้สูงสุดแค่ 80% เท่านั้น และยังมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าการทำเหมืองลิเทียมอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ การใช้เทคโนโลยี DLE ยังทำให้ไม่ต้องทำเหมืองแร่แบบเปิดหรือบ่อระเหยขนาดใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งวิธีดังกล่าวชิลีและออสเตรเลียได้ใช้อยู่ ขณะเดียวกันซาอุดีอาระเบียเองเป็นประเทศหนึ่งที่สามารถใช้ความเชี่ยวชาญในการจัดการน้ำเค็มและน้ำเสียที่เกิดขึ้นในแหล่งผลิตน้ำมันได้

ลิเทียมถือเป็นแร่ธาตุที่สำคัญของประเทศเศรษฐกิจหลักๆ หลายแห่ง เช่น ชิลี ออสเตรเลีย ฯลฯ เนื่องจากแร่ดังกล่าวนิยมนำมาผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ในช่วงที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบีย ใช้เงินจำนวนมหาศาลในการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมืองใหม่ การเป็นศูนย์กลางของ E-Sports หรือแม้แต่การหารายได้อื่นเพิ่มเติม ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ต้องการลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก ซึ่ง Saudi Aramco ถือเป็นบริษัทที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศ

นอกจาก Saudi Aramco แล้ว ยังมีบริษัทน้ำมันจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่าง ADNOC ที่มีแผนมา สกัดลิเทียมจากน้ำเค็มในบ่อน้ำมันด้วยเช่นกัน

]]>
1465732
CEO ของ DHL กังวลสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงเพิ่ม อาจส่งผลต่อการขนส่งสินค้ามายังทวีปเอเชีย https://positioningmag.com/1459390 Thu, 18 Jan 2024 08:44:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459390 Tobias Meyer ซึ่งเป็น CEO ของ DHL บริษัทขนส่งพัสดุรายใหญ่จากเยอรมนี ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงเพิ่ม อาจส่งผลต่อการขนส่งสินค้ามายังทวีปเอเชียภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเกิดจากจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์

Tobias Meyer ซึ่งเป็น CEO ของ DHL บริษัทขนส่งพัสดุรายใหญ่จากเยอรมนี ได้ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business ถึงความกังวลของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงเพิ่ม หลังจากที่สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ได้ประกาศโจมตีกลุ่มติดอาวุธฮูตี ซึ่งอาจกระทบต่อการขนส่งสินค้าได้

เขากล่าวว่า “จำนวนตู้คอนเทนเนอร์กำลังจะขาดแคลนในทวีปเอเชียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” และปัญหาดังกล่าวบริษัทกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด แม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ร้ายแรงเท่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ทำให้การขนส่งทางเรือหยุดชะงัก

สถานการณ์ในทะเลแดงนั้นเริ่มย่ำแย่ลง เนื่องจากกลุ่มฮูตีโจมตีเรือสินค้า โดยต้องการตอบโต้ต่อกรณีที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา และทางกลุ่มยังออกมาเตือนว่าจะโจมตีเรือสินค้าทุกลำที่เดินทางผ่านเส้นทางทะเลแดงและต้องการเทียบท่าในประเทศอิสราเอล โดยไม่สนใจว่าเป็นเรือชาติใด

ผลดังกล่าวทำให้เรือขนส่งสินค้าหลายลำเลิกใช้เส้นทางทะเลแดง และรอดูท่าทีว่าสถานการณ์จะผ่อนคลายลงหรือไม่

ต่อมาได้มีการจัดตั้งปฏิบัติการ Prosperity Guardian นำโดยสหรัฐอเมริกา และพันธมิตร เช่น สหราชอาณาจักร บาห์เรน แคนาดา นอร์เวย์ อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สเปน ฯลฯ จะวางกำลังคุ้มกันบริษัทเดินเรือที่ขนส่งสินค้าระหว่างทะเลแดงจนถึงคลองสุเอซเพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ดีกลุ่มติดอาวุธฮูตีกลับยังมีการโจมตีเรือสินค้า และเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้ท้ายที่สุด สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ได้ประกาศโจมตีกลุ่มดังกล่าว โดยให้เหตุผลเพื่อที่จะทำให้กลุ่มฮูตีไม่สามารถโจมตีเรือสินค้าได้อีก

CEO ของ DHL ยังได้กล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้เรือเดินทางกลับทวีปเอเชียไม่ตรงเวลา ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งในอนาคต

โดยสถานการณ์ในทะเลแดงส่อเค้ารุนแรงนั้นส่งผลทำให้เรือขนสินค้า หรือตู้คอนเทนเนอร์ จะต้องเดินทางอ้อมทวีปแอฟริกาแทน ซึ่งใช้เวลาเพิ่มอีกราวๆ 2 สัปดาห์ ส่งผลทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มมากขึ้น และยังรวมถึงต้นทุนจากการทำประกันภัยทางเรือนั้นเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

]]>
1459390
ประธานของ Emirates มองผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ทั่วโลกมีแค่ 2 ราย ทำให้สายการบินไม่มีทางเลือกอื่น https://positioningmag.com/1458182 Tue, 09 Jan 2024 15:08:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458182 Tim Clark ประธานสายการบิน Emirates ได้ให้ความเห็นถึงอุตสาหกรรมการบินหลากหลายมิติ โดยประเด็นหลักในช่วงเวลานี้ก็คือปัญหาของเครื่องบิน Boeing 737 MAX 9 ของสายการบิน Alaska ที่มีชิ้นส่วนหลุดกลางอากาศ และยังรวมถึงกรณีผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ทั่วโลกมีแค่ 2 ราย ทำให้สายการบินไม่มีทางเลือกอื่น

สำนักข่าว Bloomberg ได้สัมภาษณ์พิเศษ Tim Clark ประธานสายการบิน Emirates โดยเขาได้ให้ความเห็นถึงอุตสาหกรรมการบินหลากหลายมิติ โดยประเด็นหลักในช่วงเวลานี้ก็คือปัญหาของเครื่องบิน Boeing 737 MAX 9 ของสายการบิน Alaska ที่มีชิ้นส่วนหลุดกลางอากาศ

ประธานของ Emirates มองว่าการที่อุตสาหกรรมการบินนั้นมีผู้ผลิตเครื่องบินเพียงแค่ 2 รายใหญ่ๆ ได้แก่ Boeing จากสหรัฐอเมริกา กับ Airbus จากทวีปยุโรป ทำให้สายการบินนั้นไม่มีตัวเลือกที่ดีไปมากกว่านี้ นอกจากนี้แม้ว่าจะมีผู้เล่นรายใหญ่ซึ่งเป็นรายที่ 3 เข้ามา ก็ถือว่าต้องใช้เวลายาวนานในการไล่ตามผู้ผลิต เจ้าใหญ่ 2 รายนี้ได้

ในขณะที่กรณีเครื่องบินของสายการบิน Alaska ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินของสหรัฐอเมริกา (FAA) ต้องระงับการบินโดยเครื่องบิน Boeing 737 MAX 9 เพื่อที่จะตรวจสอบหาปัญหา และทำให้สายการบินหลายแห่งทั่วโลก เช่น Turkish Airlines จากตุรกี สายการบินจากปานามา Copa Airlines หรือแม้แต่สายการบินในเม็กซิโกอย่าง Aeromexico ก็ได้งดใช้งานเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเช่นกัน

Tim Clark กล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นของมาจากการตรวจสอบคุณภาพของผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่จากสหรัฐอเมริการายนี้มีปัญหามานานแล้ว แม้ว่าบริษัทจะพยายามร่วมมือแก้ปัญหาในตอนนี้ก็ตาม แต่เรื่องดังกล่าวก็ไม่ได้ช่วยอะไร

ไม่เพียงเท่านี้เขามองว่าในอดีต Boeing ได้ผลิตเครื่องบินที่มีคุณภาพดีมากมาโดยตลอด แต่เขามองว่าบริษัทได้สูญเสียสิ่งดังกล่าวจากฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นการย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัท หรือแม้แต่การพึ่งพาวัสดุในการผลิตเครื่องบินจากทั่วโลก

อย่างไรก็ดีเขายังคงมีความเชื่อมั่นใน Boeing และความสามารถในการเอาชนะปัญหาต่างๆ โดยให้ฝ่ายบริหารและคณะกรรมการบริหารแก้ไขปัญหา โดยเขากล่าวว่าปัญหาดังกล่าวนั้นแก้ไขได้ และกอบกู้ได้

กรณีเครื่องบิน Boeing 737 MAX 9 ของสายการบิน Alaska นั้นในท้ายที่สุดประธานของ Emirates มองว่าจะมีการคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เขายังมองว่าปัญหาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการค้นหาว่าอะไรเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว และการกำหนดบทบาท รวมถึงความสามารถของบริษัทในการแก้ไขปัญหา

]]>
1458182
ดูไบกำลังกลายเป็นฮับของมหาเศรษฐีจีนอีกแห่ง ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเริ่มเปิดสำนักงานเพิ่มมากขึ้น https://positioningmag.com/1458120 Tue, 09 Jan 2024 07:55:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458120 ฮับของมหาเศรษฐีจีนอาจไม่ใช่แค่ฮ่องกง สิงคโปร์ เท่านั้น แต่ดูไบกำลังจะกลายเป็นฮับอีกแห่งที่สำคัญในอนาคต เนื่องจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเริ่มเปิดสำนักงานเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันดูไบเองยังเอื้อแก่การเปิดธุรกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างตะวันกลางกับจีนที่ดี รวมถึงอัตราภาษีที่ต่ำ

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ดูไบกำลังกลายเป็นฮับของมหาเศรษฐีชาวเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน และจะมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น หลังจากสถาบันการเงินหลายแห่งได้ทยอยไปเปิดสำนักงานที่ดูไบเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้าความมั่งคั่งสูง หรือแม้แต่ให้บริการด้านการเงินทั่วไปกับลูกค้า

จุดเด่นของดูไบที่ทำให้มหาเศรษฐีจากจีนเริ่มสนใจเข้าไปทำธุรกิจในตะวันออกกลางคือ การเริ่มต้นทำธุรกิจนั้นง่ายเมื่อเทียบกับหลายประเทศ อัตราภาษีที่ต่ำ โซนเวลาไม่แตกต่างกับเอเชียมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีเหล่ามหาเศรษฐีเริ่มเข้าไปอยู่อาศัยในตะวันออกกลางมากขึ้น ยิ่งทำให้เสน่ห์เมืองใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างตะวันออกกลางกับจีนนั้นมีความแน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี หรือแม้แต่การลงทุนระหว่างกัน ขณะเดียวกันนักธุรกิจจีนเองต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงในเรื่องธุรกิจ ทำให้ดูไบถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของชาวจีน

ในช่วงที่ผ่านมาตะวันออกกลางหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้พยายามวางตัวเป็นกลางท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน หรือแม้แต่กรณีล่าสุดอย่างการบุกยูเครนของรัสเซีย ตะวันออกกลางนั้นถือเป็นกลุ่มประเทศที่ไม่ต้องการคว่ำบาตรรัสเซีย

นอกจากนี้การโยกย้ายเม็ดเงินจากฮับการเงินเดิมอย่าง ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ ออกมาดูไบ ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของเหล่ามหาเศรษฐีจีนอีกทาง

ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งชาวจีนอย่าง Noah Holdings ได้ประกาศการเปิดสำนักงานในดูไบ โดย Qing Pan ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ได้กล่าวกับ Reuters ว่า กลยุทธ์ของบริษัทคือติดตามการเติบโตของความมั่งคั่งของลูกค้าชาวจีน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องอยู่ที่นี่ เขายังกล่าวเสริมว่าบริษัทวางแผนที่จะส่งพนักงานบางส่วนจากประเทศจีนก่อน แล้วรับสมัครงานในท้องถิ่นในภายหลัง

ขณะที่ Lombard Odier ซึ่งเป็นธุรกิจบริหารความมั่งคั่งรายใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ก็ดูลู่ทางในการเปิดสำนักงานที่ดูไบเช่นกัน

ไม่เว้นแม้แต่ Tsang Group และ Landmark Family Office รวมถึง Farro Capital ซึ่งเป็นธุรกิจสำนักงานครอบครัว (Family Office) เพื่อบริหารทรัพย์สินของเหล่ามหาเศรษฐี และดูทำหน้าที่ดูแลในด้านต่างๆ เช่น กฎหมาย ฯลฯได้มีการเปิดสำนักงานที่ดูไบ

อย่างไรก็ดีถ้าหากมองย้อนกลับมา เศรษฐีชาวจีนได้ทยอยนำเงินออกมาไว้นอกจีนเป็นจำนวนมากขึ้นหลังปี 2020 ทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ หรือล่าสุดที่ดูไบ เนื่องจากความไม่แน่นอนในการใช้ชีวิตหลังการแพร่ระบาดของโควิด หรือแม้แต่ความต้องการย้ายถิ่นฐานออกจากประเทศจีน

]]>
1458120
สหรัฐอเมริกาสั่ง Nvidia ห้ามส่งออกชิปประมวลผล AI ไปยังบางประเทศในตะวันออกกลาง https://positioningmag.com/1442938 Thu, 31 Aug 2023 01:40:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1442938 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ออกมาตรการล่าสุด สั่ง Nvidia ห้ามส่งออกชิปประมวลผล AI ไปยังบางประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งในรายละเอียดนั้นไม่ได้ระบุว่ามีประเทศใดบ้าง แต่คาดว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศเหล่านี้เป็นศูนย์กลางในการขนถ่ายชิปเหล่านี้ไปยังประเทศจีนอีกทอดหนึ่ง

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ทางการสหรัฐอเมริกา ได้ห้ามไม่ให้ Nvidia ส่งออกชิปประมวลผล AI ไปยังบางประเทศในตะวันออกกลาง โดยคาดว่าเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้องค์กรที่เกี่ยวข้องกับบริษัท AI ในประเทศจีน สามารถส่งออกชิปจากประเทศเหล่านี้ไปที่จีนได้

อย่างไรก็ดีในเอกสารที่ Nvidia ได้ยื่นกับตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ระบุประเทศในตะวันออกกลางว่ามีประเทศใดบ้าง แต่บริษัทได้กล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ และมาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างมีนัยสำคัญ

ก่อนหน้านี้สหรัฐอเมริกาได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติม ห้ามส่งออกชิป AI ไปยังประเทศจีน โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคง แม้ว่า Nvidia จะปรับแต่งชิป AI ให้มีประสิทธิภาพต่ำกว่าซึ่งสามารถส่งออกไปยังตลาดในประเทศจีนได้แล้วก็ตาม รวมถึงบริษัทอื่นอย่าง AMD และ Intel

มาตรการดังกล่าวทำให้บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนหลายแห่ง ต้องเริ่มไล่ซื้อชิปประมวลผล AI ของ Nvidia จำนวนมาก ก่อนที่จะไม่สามารถสั่งซื้อได้หลังจากนี้

ทางด้านสื่อในประเทศอังกฤษอย่าง The Telegraph ได้รายงานว่า หลายประเทศในตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างจับมือกับจีน ในการพัฒนา แลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงวิจัยด้าน AI เพิ่มมากขึ้น และประเทศในตะวันออกกลางเหล่านี้ต่างได้สั่งชิปประมวลผล AI ของ Nvidia เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยังเคยระบุว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นแหล่งไว้ขนถ่ายสินค้าสำหรับรัสเซียเพื่อหลบเลี่ยงการมาตรการคว่ำบาตรมาแล้ว หลังจากที่รัสเซียได้บุกยูเครนในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา

สำหรับประเทศอื่นในตะวันออกกลาง สหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุมอยู่แล้ว เช่น ซีเรีย หรือ อิหร่าน

ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ ต้องการไม่ให้ประเทศเหล่านี้เป็นประเทศตัวกลางสำหรับการส่งชิปเหล่านี้เข้าไปยังประเทศจีน

]]>
1442938
CEO ของ Qatar Airways กล่าว “กำลังเร่งเพิ่มเส้นทางบิน หลังความต้องการลากยาวไปถึงช่วงสิ้นปี 2023” https://positioningmag.com/1429142 Mon, 01 May 2023 16:17:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1429142 ผู้บริหารสูงสุดของ Qatar Airways ได้กล่าวว่าสายการบินเตรียมที่จะเพิ่มเส้นทางบินมากกว่านี้ หลังจากความต้องการของลูกค้านั้นเพิ่มสูงขึ้นลากยาวไปถึงช่วงสิ้นปี 2023 แล้ว อย่างไรก็ดีก็ขึ้นอยู่กับการส่งมอบเครื่องบินจาก Airbus รวมถึง Boeing ด้วย

Akbar Al Baker ซึ่งเป็น CEO ของ Qatar Airways ได้ให้สัมภาษณ์กับ Reuters และสื่อต่างประเทศรายอื่นในงาน Arabian Travel Market โดยกล่าวว่าสายการบินได้เร่งเพิ่มเส้นทางบินมากขึ้น หลังความต้องการของลูกค้าในการเดินทางยังพุ่งสูงโดยลากยาวไปถึงสิ้นปี 2023 แล้ว

ผู้บริหารสูงสุดของ Qatar Airways ได้กล่าวว่ากำลังจะเตรียมขยายเส้นทางบินให้ได้ 190 เส้นทาง จาก 170 เส้นทาง และสามารถเพิ่มได้มากกว่า 255 เส้นทาง อย่างไรก็ดีในการขยายเพิ่มเส้นทางบินนั้น CEO ของ Qatar Airways ได้กล่าวว่าขึ้นอยู่กับการส่งมอบเครื่องบินของ Airbus และ Boeing ว่าจะรวดเร็วมากเพียงใดด้วย

เขากล่าวว่าสามารถเพิ่มเส้นทางบินได้ 85 ถึง 90 เส้นทางบินด้วยซ้ำ ขึ้นกับความรวดเร็วของยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเครื่องบิน 2 เจ้า และได้กล่าวเสริมว่าก่อนหน้านี้การเพิ่มเส้นทางบินนั้นตั้งอยู่บนคาดการณ์แบบอนุรักษ์นิยมด้วยซ้ำ ส่งผลทำให้สายการบินเพิ่มเส้นทางบินได้ไม่มากนัก

ก่อนหน้านี้ทาง Qatar Airways ได้มีข้อพิพาทกับทาง Airbus และได้ยุติข้อพิพาทกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ทาง Boeing ทางสายการบินของกาตาร์นั้นได้รับมอบเครื่องบินช้ากว่าที่คาดจากประเด็นของหน่วยงานกำกับดูแล แต่ก็มองว่าน่าจะได้รับเครื่องบินได้มากขึ้นในปีนี้

ขณะที่ราคาพลังงานซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของสายการบินที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา Akbar Al Baker ได้กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ลดทอนความต้องการของลูกค้าลงเลยในช่วงที่ผ่านมา โดย Load Factor ซึ่งเป็นตัวชี้วัดของสายการบินทั่วโลกนั้น ค่าเฉลี่ยล่าสุดของ Qatar Airways ล่าสุดมากกว่า 80% ด้วยซ้ำแล้วด้วย

]]>
1429142
Saudi Aramco รายงานกำไรปี 2022 สูงถึง 5.57 ล้านล้านบาท หลังราคาน้ำมันพุ่งสูงในปีที่ผ่านมา https://positioningmag.com/1422905 Mon, 13 Mar 2023 06:29:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1422905 บริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ซาอุดิ อารามโค (Saudi Aramco) ได้ประกาศผลประกอบการของปี 2022 ที่ผ่านมา โดยบริษัทรายงานกำไรในปีที่ผ่านมาสูงถึง 161,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 5.57 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าปี 2021 ถึง 46%

BBC และ Reuters ได้รายงานข่าวว่าผลประกอบการของ Saudi Aramco นั้นทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยกำไรของบริษัทอยู่ที่ 161,100 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตมากกว่าปี 2021 มากถึง 46%

สาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรของบริษัทสูงนั้นมาจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นในปี 2022 ที่ผ่านมา จากการบุกยูเครนโดยรัสเซีย และเป็นผลทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้หลายประเทศต้องหาแหล่งพลังงานทดแทน

ไม่เพียงเท่านี้บริษัทยังชี้ว่ามาร์จิ้นจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันดีขึ้นในปีที่ผ่านมา ก็ส่งผลทำให้กำไรของบริษัทสูงขึ้นด้วย

นอกจากนี้ Amin Nasser ซึ่งเป็น CEO และประธานของ Saudi Aramco ยังกล่าวว่า บริษัทไม่ได้เพียงแค่ลงทุนเพิ่มในธุรกิจสำรวจและผลิต ปิโตรเคมี รวมถึงโรงกลั่นน้ำมันเท่านั้น แต่บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนในด้านการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และธุรกิจพลังงานที่ปล่อยคาร์บอนต่ำด้วย

ปัจจุบันบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่รายนี้มีรัฐบาลซาอุดิอาระเบียถือหุ้นมากถึง 95% และบริษัทได้ IPO เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดมีขนาดบริษัทใหญ่เป็นรองแค่ Apple จากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ไม่เพียงแค่บริษัทอย่าง Saudi Aramco ที่มีกำไรมหาศาลแต่เพียงรายเดียว โดยในปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีของบริษัทน้ำมันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ExxonMobil ที่ทำกำไรไปถึง 55,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือแม้แต่บริษัทน้ำมันจากอังกฤษอย่าง Shell ที่ทำกำไรไปถึง 39,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นกำไรสูงที่สุดในรอบ 115 ปี

ที่มา – BBC, Reuters

]]>
1422905
ซาอุฯ เตรียมทุ่มทุน 1.44 ล้านล้านบาท ปั้นฮับ E-Sports ให้ได้ภายในปี 2030 https://positioningmag.com/1402535 Thu, 29 Sep 2022 15:41:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1402535 ซาอุดีอาระเบีย ประเทศที่ส่งออกน้ำมันเป็นหลัก เตรียทุ่มเงินมากถึง 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 1.44 ล้านล้านบาท เพื่อที่จะปั้นให้ประเทศเป็นศูนย์กลางของ E-Sports ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นเป้าหมายของประเทศภายใต้แผน Vision 2030

สาเหตุสำคัญก็คือประเทศส่งออกน้ำมันรายนี้ต้องการที่จะเปลี่ยนรูปแบบเศรษฐกิจที่ส่งออกสินค้าประเภทพลังงานเป็นหลัก ให้กลายมาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเมืองใหม่ รวมถึงความพยายามที่จะเป็นศูนย์กลางของ E-Sports

Savvy Games Group ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่กองทุนความมั่งคั่งของซาอุดีอาระเบีย (PIF) เป็นเจ้าของ เตรียมทุ่มเงินมากถึง 505,075 ล้านบาท เพื่อที่จะซื้อสตูดิโอผลิตเกม ขณะที่เม็ดเงินอีก 707,061 ล้านบาทนั้นจะนำไปซื้อหุ้นของบริษัทเกมรายใหญ่เพื่อที่จะลงทุน

ขณะที่เม็ดเงินที่เหลือเตรียมที่จะนำไปลงทุนทั้งบริษัทที่จัดการแข่งขัน E-Sports หรือแม้แต่นำมาลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเกม ก่อนหน้านี้ PIF เองได้ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเกมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Nintendo ของญี่ปุ่น หรือแม้แต่บริษัทเกมชื่อดังจากสหรัฐอเมริกาอย่าง Activision Blizzard และ Electronic Arts มาแล้ว

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นประธานของ Savvy Games Group ทรงชี้ว่าการลงทุนในเรื่องเหล่านี้นอกจากจะช่วยกระจายรายได้ให้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศ รวมถึงขยายขอบเขตของความบันเทิงออกไปได้ด้วย

การทุ่มลงทุนดังกล่าวนี้ซาอุดีอาระเบียคาดว่าภายในปี 2030 จะช่วยสร้างงานมากถึง 39,000 ตำแหน่ง และเพิ่ม GDP ให้กับประเทศมากถึง 13,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา – Bloomberg, Al Arabiya

]]>
1402535