Warner Bros. Discovery – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 07 Mar 2024 10:31:57 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จัดไปอีกเจ้า! “Max” จ่อเข้ม “ห้ามแชร์พาสเวิร์ด” สตรีมมิ่งใหญ่รายที่สามที่ใช้นโยบายนี้ https://positioningmag.com/1465508 Thu, 07 Mar 2024 09:04:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1465508 สตรีมมิ่งดัง “Max” (ชื่อเดิม: HBO Max) เตรียมออกกฎ “ห้ามแชร์พาสเวิร์ด” ช่วงปลายปีนี้ กลายเป็นสตรีมมิ่งรายที่สามที่ใช้นโยบายนี้ต่อจาก Netflix และ Disney+

เจบี พาร์เรตต์ หัวหน้าแผนกสตรีมมิ่งและเกม Warner Bros. Discovery บริษัทแม่ของบริการสตรีมมิ่ง “Max” ประกาศแผนเตรียมออกนโยบาย “ห้ามแชร์พาสเวิร์ด” ช่วงปลายปี 2024 โดยยังไม่บอกรายละเอียดกฎเกณฑ์ แต่จะทยอยใช้นโยบายนี้เป็นวงกว้างขึ้นภายในปี 2025

“Max” จึงนับได้ว่าเป็นบริการสตรีมมิ่งเจ้าที่สามแล้วที่ออกกฎห้ามแชร์พาสเวิร์ด หลังจากหัวหอกหลัก “Netflix” ที่เริ่มนโยบายนี้ไว้ตั้งแต่ปี 2023 เป็นเจ้าแรกที่สร้างแรงสะเทือนในวงการ

ขณะที่ “Disney+ และ Hulu” เป็นค่ายสตรีมมิ่งเจ้าที่สองที่มีแผนใช้นโยบายนี้แล้ว โดยทาง Disney เริ่มส่งอีเมลหาลูกค้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า บริษัทกำลังจะเปลี่ยนเงื่อนไขการให้บริการ และการให้ข้อมูลล็อกอินกับผู้อื่นที่ไม่ได้อยู่ในครัวเรือนเดียวกันจะถือเป็นการละเมิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2024

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างเผชิญตลาดที่มีคู่แข่งมากขึ้น จนทำให้การเพิ่มจำนวนสมาชิกตามปกติทำได้ยาก พวกเขาจึงหาทางออกด้วยการบีบให้ลูกค้าต้องเลือกว่าบริการสตรีมมิ่งเจ้าไหนที่ต้องการใช้งานมากที่สุดและจ่ายได้

Netflix ซึ่งเป็นเจ้าแรกที่กล้าเสี่ยงก่อนเผชิญกับความผันผวนในช่วงแรก แต่ยอดผู้สมัครสมาชิกก็ถีบตัวกลับขึ้นมาได้ พิสูจน์ว่าการออกกฎห้ามแชร์พาสเวิร์ดกลายเป็นผลดีต่อ Netflix จริงๆ

สำหรับ Disney+ ยังไม่มีปัญหาการเพิ่มจำนวนสมาชิกมากนัก แต่ที่หนักคือปัญหา “การทำกำไร” ทาง “บ็อบ ไอเกอร์” ซีอีโอของ Disney เคยคาดการณ์ไว้ว่าสตรีมมิ่งน่าจะเริ่มทำกำไรได้จริงภายในปี 2024 บริษัทจึงต้องหานโยบายต่างๆ เพื่อทำให้เป้าหมายนี้เกิดขึ้นจริง นอกจากการห้ามแชร์พาสเวิร์ดแล้ว Disney ยังออกแพ็กเกจเทียร์ใหม่ “แพ็กเกจแบบมีโฆษณาคั่น” มาช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้นด้วย

ขณะที่ทาง Max ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาเมื่อ “Warner Bros.” ควบรวมกิจการกับ “Discovery” ทำให้บริการสตรีมมิ่ง HBO Max กับ Discovery+ ได้รวมกิจการเช่นกัน แม้ว่าแฟนคลับของ HBO Max จะไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ แต่การรวมกันนี้ทำให้ Warner Bros. Discovery สร้างผลกำไรจากธุรกิจสตรีมมิ่งสำเร็จ

คอนเทนต์ของ HBO Max นั้นมีหลายเรื่องที่เป็นคอนเทนต์สุดฮิต ตั้งแต่ซีรีส์อย่าง Game of Thrones และภาคแยก House of the Dragon รวมถึงซีรีส์ The Last of Us คอนเทนต์เหล่านี้ถูกนำไปปล่อยดูฟรี/ดาวน์โหลดเถื่อนติดอันดับต้นๆ ของโลก สะท้อนให้เห็นคอนเทนต์ระดับแม่เหล็กที่น่าจะเป็นตัวสร้างดีมานด์ให้ผู้ใช้ใหม่ยอมสมัครสมาชิกเข้ามาชม แม้ว่าจะไม่สามารถแชร์พาสเวิร์ดกันได้แล้วก็ตาม

Source

]]>
1465508
“Warner Bros. Discovery” กับ “Paramount” ระงับดีลควบรวมกิจการ คุยกันมา 2 เดือนยังไม่ลงตัว https://positioningmag.com/1464565 Thu, 29 Feb 2024 12:39:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1464565 ดีลควบรวมกิจการของ “Warner Bros. Discovery” กับ “Paramount Global” ไปไม่ถึงฝั่ง มีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายเลือกจะระงับการเจรจาไปก่อน ดับฝันการรวมแอป “Max” (HBO Max) เข้ากับแอป “Paramount+” อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สนใจซื้อรายอื่นตกเป็นข่าวอีกเพียบ

CNBC รายงานจากแหล่งข่าววงในว่า “Warner Bros. Discovery” ขอระงับการเจรจาการควบรวมกิจการ “Paramount Global” ไปก่อน หลังจากคุยกันมานานไม่ต่ำกว่า 2 เดือน

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สนใจซื้อรายอื่นที่ตกเป็นข่าวกับ Paramount Global เช่น “Skydance Media” บริษัทสตูดิโอผลิตรายการทีวีและภาพยนตร์ของ “เดวิด เอลลิสัน” ขณะนี้ยังคงเจรจาความเป็นไปได้ที่จะซื้อกิจการ

รวมถึง “ไบรอน อัลเลน” เจ้าของบริษัทสื่อ “Entertainment Studios” ก็มีข่าวยื่นข้อเสนอซื้อ Paramount Global ทั้งบริษัทไปเมื่อเดือนก่อนด้วยเม็ดเงิน 1.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่ CNBC รายงานด้วยว่าอัลเลนเป็นนักธุรกิจที่มีประวัติเรื่องยื่นข้อเสนอซื้อสินทรัพย์ในวงการสื่อแต่ไม่ซื้อจริงหลายครั้ง

ที่ผ่านมา Paramount Global มีการตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา พร้อมแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินด้วย เพื่อเฟ้นหาและเจรจาการขายกิจการทั้งบริษัทหรือขายสินทรัพย์บางส่วนออกไป

รายชื่ออื่นที่เคยตกเป็นข่าวกับ Paramount Global เช่น “Comcast” บริษัทเจ้าของสื่อ CNBC ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้สนใจซื้อสินทรัพย์ใดของบริษัท แต่สนใจที่จะเป็นพันธมิตรเชิงพาณิชย์ร่วมกันมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นการควบรวมหรือทำธุรกิจร่วมกันในกลุ่มบริการสตรีมมิ่งของสองบริษัท คือ Peacock กับ Paramount+ อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Paramount Global จะสนใจการเป็นพันธมิตรกันหรือไม่ เพราะดูเหมือนบริษัทสนใจที่จะขายบริษัทเลยมากกว่า

“เดวิด ซาสลาฟ” ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery และ “บ๊อบ บาคิช” ซีอีโอ Paramount Global ตกเป็นข่าวว่ากำลังเจรจาขั้นต้นในการควบรวมกิจการกันเมื่อเดือนธันวาคม 2023 จากนั้นบริษัทเข้าสู่การเจรจาอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2024 ก่อนที่จะมีข่าวระงับดีลกันเดือนนี้

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ราคาหุ้นของ Warner Bros. Discovery ตกลง 10% หลังผลประกอบการของบริษัทรอบล่าสุดไม่เป็นไปตามที่คาด เมื่อปี 2023 ราคาหุ้นบริษัทตกลง 47% และขณะนี้อยู่ในช่วงราคาตกต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์

ราคาหุ้นของ Paramount Global เองก็ตกต่ำมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสถิติต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์เช่นกัน

ข่าวนี้อาจจะถือเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับสาวกสตรีมมิ่ง เพราะหากการควบรวมสำเร็จ เป็นไปได้ที่บริการสตรีมมิ่ง Max (ชื่อเดิม HBO Max) จะรวมคอนเทนต์เข้ากับ Paramount+ โดยฝั่ง Max นั้นมีรายงานว่าดึงยอดสมาชิกได้ถึง 98 ล้านคนแล้ว ส่วน Paramount+ ก็มีสมาชิกสตรีมมิ่งแตะ 67.5 ล้านคนในปีที่ผ่านมา

Source

]]>
1464565
ลือ! ซีอีโอของ ‘Warner Bros. Discovery’ ซุ่มคุยกับซีอีโอ ‘Paramount’ เกี่ยวกับการ ‘ควบรวมกิจการ’ https://positioningmag.com/1456705 Thu, 21 Dec 2023 07:31:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1456705 ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่การมาของแพลตฟอร์ม วิดีโอสตรีมมิ่ง ที่ทำให้วงการสื่อเปลี่ยนเเปลงไป ค่ายผู้ผลิตสื่อรายใหญ่ก็ต้องลงสู่ตลาดสตรีมมิ่ง ท่ามการการแข่งขันที่ดุเดือด โดยล่าสุด สื่อได้ออกข่าวว่าผู้บริหารระดับสูงของของค่าย ‘Warner Bros. Discovery’ ได้ไปเจรจากับค่าย ‘Paramount’ เกี่ยวกับการ ‘ควบรวมกิจการ’

CNN ได้รายงานว่า David Zaslav ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery ได้พบกับ Bob Bakish ซีอีโอของ Paramount Global เมื่อวันอังคารที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ สำนักงานใหญ่ของ Paramount ในไทม์สแควร์ นิวยอร์กซิตี้ เพื่อพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการระหว่างทั้งสองบริษัท อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 บริษัทปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว

แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าทั้งสองบริษัทจะตกลงควบรวมกิจการกัน แต่หลายคนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากทั้งสองบริษัทจะควบรวมกัน เพราะการควบรวมนี้อาจอาจทำให้อุตสาหกรรมสื่อพลิกผันได้อีกครั้ง ขณะที่ Paramount ก็ต้องการพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดในปัจจุบัน

เพราะต้องยอมรับว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ในยุคสตรีมมิ่งนั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ และยังต้องใช้เงินมหาศาล เพราะต้องแข่งทั้งผู้เล่นที่แข็งแกร่งมาก ๆ อย่าง Netflix และ Disney ขณะที่ปัจจุบันทั้งสองบริษัทเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในสภาพแวดล้อมของสื่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรตติ้งทีวีลดลงเนื่องจากลูกค้ายกเลิกบริการเคเบิลทีวีมากขึ้น ส่วนตลาดโฆษณากำลังเปลี่ยนไปสู่การสตรีม นอกจากนี้ ต้นทุนการสร้างคอนเทนต์ก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

ดังนั้น หากทั้งสองบริษัทควบรวมกัน Warner Bros. Discovery ก็จะได้แพลตฟอร์มของ Paramount+ มาเสริมแกร่งให้กับบริการสตรีมมิ่งอย่าง HBO ขณะเดียวกัน Paramount ก็จะได้ช่องทางการขายในต่างประเทศเพื่อส่งเสริมแฟรนไชส์ต่าง ๆ ของค่าย

“ฉันคิดว่ามันบ่งบอกถึงความตื่นตระหนก เพราะอุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญกับอนาคตที่ท้าทายอย่างยิ่ง พวกเขาจะพยายามทำให้ตัวเองใหญ่ขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่ง” Rich Greenfield นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม ผู้ร่วมก่อตั้ง LightShed Partners กล่าว

อย่างไรก็ตาม Warner Bros. Discovery จะไม่สามารถทำธุรกรรมกับ Paramount หรือหน่วยงานอื่นใดได้ในขณะนี้ จนกว่ากฎหมายภาษีอากรที่ห้ามไม่ให้บริษัทเข้าซื้อกิจการหรือการควบรวมกิจการเพิ่มเติมจนกว่าจะหลังเดือนเมษายน 2024 เนื่องจาก WarnerMedia เพิ่งซื้อ Discovery ไปเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาในมูลค่า 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจุบัน Warner Bros. Discovery มีมูลค่าอยู่ที่ราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Paramount มีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทางบริษัทกำลังเผชิญกับภาระหนี้ ทำให้อยู่ภายใต้ความกดดันที่จะหาพาร์ตเนอร์ด้านกลยุทธ์หรือผู้ซื้อกิจการต่อ ดังนั้น อาจต้องรอดูว่าทั้งสองบริษัทจะตกลงควบรวมกิจการกันได้หรือไม่

]]>
1456705