iPadกับบท “ผู้ช่วย” ปรัชญา ปิ่นแก้ว

เมื่อเอ่ยถึงอาชีพ “ผู้กำกับภาพยนตร์” หลายคนมักนึกถึงผู้ที่มีหน้าที่กำกับในขั้นตอนการสร้างภาพยนตร์ โดยสร้างจินตนาการจากบทหนัง แล้วถ่ายทอดความคิดทางด้านศิลปะออกมาตามแบบที่ตนเองต้องการ แต่ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ผู้กำกับหนังไทยที่สร้างชื่อระดับสากลอย่าง องค์บาก ต้มยำกุ้ง ช็อคโกแลต ยังมีแรงบวกชื่นชอบไอทีและเป็นสาวกAppleชนิดมือวางอันดับหนึ่ง ที่วันนี้มี iPadเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในงานกำกับหนังเรื่องล่าสุดของเขา

“ขอโทษครับที่มาช้า ช่วงนี้ผมกำลังวุ่นกับการตัดต่อหนังเรื่องElephant Whiteอยู่” คือประโยคแรกที่ปรัชญาทักทาย หลังจากนั้นเขาก็วางiPadที่พกพาติดตัวเป็นประจำลงบนโต๊ะ ซึ่งนอกจากเป็นอุปกรณ์ที่เขาพกติดตัวเป็นประจำเพื่อสร้างความสนุกสนาน ให้กับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังทำหน้าที่ “ผู้ช่วย” ในหนังเรื่องนี้อีกด้วย

Elephant Whiteเป็นผลงานกำกับเรื่องล่าสุดของเขาที่เพิ่งถ่ายทำเสร็จและอยู่ในช่วงการตัดต่อ ซึ่งเรื่องนี้ผู้อำนวยการสร้างอย่างบริษัทMillennium FilmและNu Imageจากสหรัฐอเมริกาถึงกับส่งบทหนังมาให้เขากำกับเพราะติดใจจากผลงานหนังแอคชั่นสร้างชื่อที่ผ่านมา และปรัชญาก็ยินดีเพราะเป็นก้าวที่สำคัญเพื่อเข้าสู่วงการ “ฮอลลีวู้ด” โดยเริ่มต้นจากการถ่ายทำในประเทศก่อน และมีกำหนดฉายราวต้นปีหน้า

“ตอนที่ได้ iPadมายังถ่ายทำเรื่องนี้ได้ไม่ถึงครึ่งเรื่อง ผมใช้นิ้วเขียนStory Boardแล้วส่งให้ทีมงานทางเมลเพื่อมาพริ้นต์แจกในกองถ่าย มีแอพฯiBurnที่ใช้จำลองฉากไฟไหม้ได้ ผมก็ถ่ายรูปฉากที่ต้องการมาแล้วใช้แอพฯนี้มาจำลองโดยใช้นิ้วลากไปตามจุดที่ต้องการให้มีไฟไหม้ทำให้ทีมงานทุกคนทึ่งกับประสิทธิภาพของมัน” ปรัชญาเล่าด้วยความภูมิใจ โดยแอพลิเคชั่นที่เขาใช้งานเป็นประจำคือSketchesเพื่อจดบันทึกเรื่องงาน แล้วเก็บลงในเครื่องด้วยโปรแกรมiFileเพื่อจัดการไฟล์ทุกประเภทไว้ด้วยกันในiPad

ด้วยความที่เขาเป็นแฟนคลับAppleที่ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เปิดตัวiPadในสหรัฐฯ ได้เพียง10วันเขาก็ถอยรุ่นWi-Fi 64GBจากเพื่อนที่นำเข้ามาทันที แม้ว่าตอนนั้นราคาจะสูงถึง3.5หมื่นบาทก็ตาม โดยจุดมุ่งหมายแรกที่เขาต้องการคือนำมาใช้งานต่อเนื่องจากiPhoneที่เขาใช้เขียนสคริปต์หนังอยู่แล้วเพราะหน้าจอใหญ่ขึ้นทำให้ใช้งานได้สะดวกกว่า รวมทั้งยังใช้วาดรูปเล่นในเวลาที่ว่างจากงานอีกด้วย แต่แอพลิเคชั่นที่เขาใช้บ่อยสุดกลับเป็นเรื่องการสร้างเสียงหัวเราะและความบันเทิงในหมู่เพื่อนฝูงและทีมงานในกองถ่าย เช่น เล่นกล วัดประสิทธิภาพของการได้ยิน และอื่นๆ จนเพื่อนๆ และคนรอบตัวบางคนถึงกับเก็บเงินซื้อตามเลยทีเดียว

“ดาราที่ซื้อiPadตามผมตอนนี้มี บอลลูน พินท์สุดา ตันไพเราะห์ นอกนั้นก็เป็นพวกโปรดิวเซอร์และทีมงานคนอื่นๆ ในบาแรมยู” ซึ่งเขาบอกว่ามีผู้กำกับหลายคนที่ให้ความสนใจ แต่ยังไม่ถึงกับตัดสินใจซื้อเพราะยังรู้สึกว่าเป็น “ของใหม่” จึงไม่คุ้นเคยและไม่กล้าตัดสินใจ ส่วนผู้กำกับที่เขาคาดว่า “น่าจะมี” iPadใช้แล้วก็คือ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย เพราะทราบว่าท่านติดตามอยู่

อย่างไรก็ตาม ปรัชญามองว่าiPadไม่ได้เหมาะกับอาชีพใดอาชีพหนึ่งเท่านั้น แต่ “เหมาะกับทุกคน” โดยขึ้นอยู่กับว่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจังและมากน้อยขนาดไหน ซึ่งAppleเปิดโอกาสให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถพัฒนาแอพลิเคชั่นบนนี้ได้ ทำให้ผู้ที่ใช้งานทุกสาขาอาชีพที่มี “ไอเดีย” สามารถสร้างสรรค์แอพลิเคชั่นที่เหมาะกับงานแล้วให้คนที่อยู่ในสายอาชีพเดียวกันดาวน์โหลดไปใช้งานต่อได้

“ผมอยากทำแอพลิเคชั่นเขียนบทภาษาไทย ไว้เพื่อช่วยเรื่องการจัดการในกองถ่าย พอเราเขียนชื่อตัวละครไปก็จะขึ้นมาให้เลยว่าตัวละครนี้มีเล่นกี่ฉาก ซีนไหนบ้าง หรือปืนที่ตัวละครนี้ใช้เราก็พิมพ์ชื่อปืนลงไปก็จะขึ้นมาให้เลยว่ามีกี่ฉาก ฉากไหนบ้าง ซึ่งโปรแกรมนี้มีเป็นภาษาอังกฤษแล้วแต่ยังไม่มีภาษาไทย” เขาพูดถึงไอเดียในการทำแอพลิเคชั่นบนiPadและเคยนำไปเสนอกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ถนัดด้านเทคโนโลยีภาพยนตร์แล้วแต่ไม่ได้รับความสนใจเพราะยังไม่รู้จักiPadขณะที่คุยกับนักพัฒนาแอพลิเคชั่นก็ให้ความสนใจมาก แต่ไม่อยากรอดูการตอบรับของตลาดiPadที่ยังใหม่ในไทย จึงทำให้เรื่องนี้เงียบไป”

เขามองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อุปสรรค เพราะตอนนี้เริ่มมีนักพัฒนาไทยหลายรายเปิดให้บริการแอพลิเคชั่นบนiPadบ้างแล้ว แต่โดยส่วนมากจะเป็น ดิกชันนารี บทสวดมนต์ ดูดวง ตำรานวด ดังนั้นถ้ารอดูความเป็นไปได้ในไทยอีกสักระยะก็ยังพอมี “โอกาส” อยู่บ้าง

“การที่ Appleให้ใครๆ ก็สามารถเขียนแอพลิเคชั่นได้นี่คือKey to successตอนนี้อาจมากกว่า5แสนแอพลิเคชั่นแล้ว และมาจากหลายสาขาอาชีพด้วย แม้แต่หมอดูก็ยังมี เพราะฉะนั้นเป็นที่นิยมแน่ๆ ดังนั้นดู Steve Jobsพรีเซนต์ Key Noteคราวต่อไปได้เลยว่าตัวเลขจะออกมาเท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นผมก็ไม่รู้ว่าจะคิดอะไรออกมาได้ดีกว่านี้แล้ว”

นอกจากนี้ เขายังพบว่าแอพลิเคชั่นที่มีประโยชน์และช่วยสร้างรายได้ให้กับวงการภาพยนตร์อีกทางหนึ่งคือ iTune ที่นอกจากให้ทุกคนสามารถดาวน์โหลดเพลงได้อย่างไม่จำกัดค่ายแล้ว ยังเป็นช่องทางขายภาพยนตร์ผ่านการดาวน์โหลดหรือ VOD (Video On Demand) ได้อย่างดี เพราะสามารถเช็กยอดขายได้และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย ซึ่งปรัชญาบอกว่ามีตัวแทนจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกานำเรื่ององค์บาก ต้มยำกุ้ง ช็อคโกแลตของเขา รวมถึงเรื่องอื่นๆ ในเครือสหมงคลฟิล์มไปจำหน่ายผ่านช่องทางนี้ด้วย

“ตอนแรกเค้าฉายเรื่องช็อคโกแลตที่โรงภาพยนตร์ 2 วันจากนั้นก็นำมาขายผ่าน iTune” ปรัชญาเล่าถึงการทำตลาดของตัวแทนจำหน่ายที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายในอเมริกา โดยใช้โรงหนังเป็นเครื่องมือโปรโมตแต่ส่วนที่สร้างรายได้จริงมาจากการดาวน์โหลดผ่าน VOD ซึ่งมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากจำนวนยอดดาวน์โหลด แต่เขาไม่ทราบรายละเอียดในส่วนนี้เพราะให้ตัวแทนที่ต่างประเทศเป็นผู้ดูแล

10อันดับทำงานและเล่น ๆ ของ “ปรัชญา” บนiPad
1. App Storeเข้าไปดูก่อนนอนทุกวันเพื่อเลือกดาวน์โหลดแอพฯ ใหม่ๆ
2. Mailเช็กอีเมลผ่านiPad
3. iPodไว้ฟังเพลง
4. Sketchesไว้จดบันทึกสั้นๆ
5. FastFingertเป็นการเขียนที่ใช้ลายมือตัวเอง
6. Drawing Padแอพฯ สำหรับวาดรูปที่สามารถเลือกสีและกระดาษได้หลายชนิด
7. SketchBookโปรแกรมวาดรูปที่มีขนาดเส้นให้เลือกหลายขนาด เหมาะกับภาพเหมือนจริง
8. Asketchโปรแกรมจำลองการแรเงา สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่นได้
9. 9.Toon Paintแอพที่ใช้เปลี่ยนรูปถ่ายเป็นรูปการ์ตูน
10. 10. iFileโปรแกรมจัดการไฟล์ทุกประเภททั้งภาพ เสียง ข้อความ

People

ปรัชญา ปิ่นแก้ว
ผู้กำกับและผลิตภาพยนตร์อิสระในนามกลุ่มบาแรมยู

ก่อนที่จะได้รับฉายา “ผู้กำกับเงินล้าน” ในวันนี้ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ชาวนครราชสีมาวัย48ปี จบการศึกษาระดับปวส.ด้านสถาปัตย์วิทยาลัยเทคโนโลยี และอาชีวะศึกษา วิทยาเขตเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา เริ่มต้นจากวงการมิวสิกวิดีโอเมื่อปี 2530ที่บริษัท อาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่อง “รองต๊ะแลบแปล๊บ” และ “เกิดอีกทีต้อมีเธอ”

หลังจากทำงานที่นี่ได้ 10ปี ก็ย้ายสังกัดมาที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ สังกัดบาแรมยู ในเครือแกรมมี่ เพื่อดูแลธุรกิจเทปเพลงและภาพยนตร์ และรับทำภาพยนตร์ให้กับสหมงคลฟิล์มมาโดยตลอด จนกระทั่งปี 2545ได้สร้างผลงานกำกับเรื่อง “องค์บาก” จนเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก ตามด้วยเรื่อง “ต้มยำกุ้ง” และ “ช็อคโกแลต” โดยมีผลงานกำกับเรื่องอื่นๆ อีกรวม6เรื่อง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่โปรดิวเซอร์อีกหลายเรื่องด้วยกัน

ขณะนี้เขากำลังจะมีผลงานระดับ “ฮอลลีวู้ด” เรื่อง “Elephant White” ที่มีผู้อำนวยการสร้างเป็นบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกา โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ”ช้างเผือก” และใช้สถานที่ถ่ายทำทั้งหมดในกรุงเทพฯ เกือบ100% รวมทั้งกำลังถ่ายทำเรื่อง “ช็อคโกแลต2” และกำลังอยู่ในช่วงเตรียมงานภาพยนตร์ที่เป็นทุนร่วมสร้างระหว่างไทย-เกาหลี โดยใช้นักแสดงชาวเกาหลีเกือบทั้งหมด มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทควันโด เป็นแนวแอคชั่น คอมเมดี้