‘สมาคมพ่อครัวไทย’ จับมือพันธมิตร จัดมหกรรมการแข่งขันพ่อครัวครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี

เป็นที่ยอมรับกันว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสามารถทำรายได้หมุนเวียนในประเทศปีละเกือบแสนล้านบาท และมีผู้คนจำนวนมหาศาลที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงอาชีพพ่อครัวผู้ปรุงอาหารให้กับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวด้วย

เช่นเดียวกับประเทศอื่นที่มีจุดขายด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยก็ต้องเผชิญกับแข่งขันในการหาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว นอกจากสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน การบริการ แล้ว อาหารการกิน ก็ยังเป็นปัจจัยดึงดูดหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวไม่แพ้กัน ซึ่งปัจจุบันพ่อครัวไทยก็มีฝีมือและหลายคนก็พัฒนาตัวเองจนมาถึงระดับสูงสุดของสายงานคือตำแหน่ง Executive Chef จำนวนมากแล้ว

แต่บันไดการก้าวสู่จุดสูงสุดของวิชาชีพย่อมไม่ได้มาแบบง่ายๆ พ่อครัวที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนผ่านการฝึกฝนเคี่ยวกรำและเรียนรู้ด้วยตัวเองตลอดชีวิตการทำงาน และกิจกรรมหนึ่งที่ทุกคนให้ความสนใจคือ การประกวดแข่งขันปรุงอาหารในเวทีต่างๆ

ซึ่งปัจจุบันเวทีการแข่งขันปรุงอาหารที่นับว่าใหญ่ที่สุดประจำปีของไทยคือ งานชุมนุมผู้ประกอบการอาหาร หรือ The Culinary Gathering of Cooks and Chefs ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สมาคมพ่อครัวไทย, บริษัท แบงคอก เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด (บีอีเอส) และ นิตยสาร Thailand Restaurant News

“การที่สมาคมพ่อครัวไทยร่วมมือกับบีอีเอสนั้น นับว่าเป็นผลดีอย่างมาก เพราะนอกจากเขาจะจัดงานแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านธุรกิจอาหารเป็นหลักแล้ว ผู้เข้าชมงานก็ยังสามารถมาร่วมชมการแข่งขันปรุงอาหารได้อีก ส่วนคนในสายอาชีพนี้ก็ถือว่าปีหนึ่งมาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ทดสอบฝีมือในการปรุงอาหารกันปีละครั้ง ซึ่งถือว่าการปรุงอาหารเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสีสันให้กับงาน IFHS ทุกปีได้เป็นอย่างดี และในปีนี้เป็นปีที่ 13 แล้ว งานแข่งขันของเราทุกวันนี้ก็ถือว่าได้มาตรฐานระดับสากล มีพ่อครัวชาวต่างชาติตอบรับเข้าร่วมมากขึ้นทุกปี โดยปีนี้มีจำนวนผู้เข้าแข่งขันไม่ต่ำกว่า 500 คน จากการแข่งขันทั้งสิ้น17 รายการ สำหรับรายการที่พิเศษของปีนี้คือ การแข่งขันปรุงข้าวกล้องไทย ซึ่งได้ร่วมกับมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ จัดขึ้นเพื่อโปรโมทข้าวกล้องไทย ซึ่งผู้ชนะเลิศ 3 อันดับ จะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” เชฟจำนงค์ นิรังสรรค์ นายกสมาคมพ่อครัวไทย กล่าว

นอกจากนี้การแข่งขันรายการสำคัญที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษสำหรับปีนี้คือ การแข่งขันกูเมร์ชาแลนจ์ (The Gourmet Challenge Team) ซึ่งเป็นรูปแบบของจัดอาหารบุฟเฟ่ต์แบบเย็น การแข่งขันประเภทนี้ต้องใช้ความสามารถของทีมงานค่อนข้างสูงในการสร้างสรรค์และปรุงอาหารทั้งประเภทสลัด อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารว่าง ทาปาส ซุปเย็น ของหวาน ขนมเค้ก ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายของพ่อครัวทุกคน โดยการแข่งขันรายการนี้ในเวทีประกวดพ่อครัวระดับโลกจะจัดขึ้นเป็นประจำ สำหรับการแข่งขันปีนี้มีทีมที่ตอบรับมาแล้ว 7 ประเทศ คือ ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, เกาหลี, สหรัฐอเมริกา (เท็กซัส), สวิสเซอร์แลนด์ และประเทศไทย ซึ่งพ่อครัวทีมชาติไทยรุ่นนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งแรกในรอบ 10 ปี และการเตรียมตัวแข่งขันอย่างดีคาดหวังตำแหน่งชนะเลิศไว้เลยทีเดียว

“ในการแข่งขัน เราจะเปิดกว้างให้นักศึกษาระดับอุดมศึกษาเข้าร่วมด้วย ไม่มีการจำกัดอายุผู้สมัคร เพราะเท่าที่เคยเห็นมา เด็กรุ่นใหม่จะมีความกระตือรือร้นมากกว่า พ่อครัวบางคนที่มีประสบการณ์สูงบางครั้งลงสนามแข่งขันด้วยกันยังสู้เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้เลย เพราะประมาทนึกว่าทำอยู่ทุกวัน ไม่น่าจะยากอะไร ดังนั้น การแข่งขันจึงเท่ากับเป็นทางกระตุ้นให้พ่อครัวทุกคนตื่นตัว หากไม่พัฒนาก็จะถอยหลังไปเรื่อยเพราะคนอื่นเขาเดินหน้าเสมอ” เชฟจำนงค์ กล่าวเสริม และว่า

“เท่าที่ผมได้คุยกับผู้ใหญ่ในวงการหลายคนก็ยอมรับว่าพ่อครัวและสมาคมพ่อครัวไทยก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะเราสามารถปรุงอาหารได้หลากหลายทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารชาติอื่นๆ นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังชมว่าเหมือนทานอาหารที่บ้าน นั่นแสดงว่าฝีมือการปรุงอาหารของคนไทยเป็นที่ยอมรับแม้ว่าอาหารที่ปรุงนั้นจะไม่ใช่อาหารประจำชาติก็ตาม ปัจจัยหนุนอีกอย่างคือการที่ประเทศเรามีวัตถุดิบด้านอาหารสมบูรณ์ แม้ว่าวัตถุดิบที่ใช้ในครัวต่างชาติจะไม่มีแต่เราก็มีซัพพลายเออร์ที่สามารถหามาซัพพอร์ตเราได้อย่างดี

ในฐานะนายกสมาคมพ่อครัวไทย ผมอยากฝากถึงผู้เกี่ยวข้องด้านอาหาร การโรงแรม และร้านอาหาร อยากให้ทุกคนให้ความสนใจการแข่งขันรายการนี้ ไม่ต้องกลัวว่าเมื่อส่งลูกน้องมาแข่งขันพัฒนาฝีมือจนเก่งแล้วก็จะโดนซื้อตัวไป ผมได้ยินเจ้าของร้านอาหารหลายท่านพูดอย่างนั้นเสมอ แต่ผมกลับคิดว่าหากเราพัฒนาลูกน้องให้เป็นมืออาชีพ ในขณะเดียวกันก็สร้างระบบให้ร้านอาหารของเราแข็งแกร่งไปด้วย ผมว่าธุรกิจของเราจะไปได้ไกลทีเดียว แม้ว่าลูกน้องจะไม่อยู่กับเราตลอด แต่ด้วยระบบที่มีอยู่นั้นเราจะมีตัวตายตัวแทนเสมอ นอกจากนั้นแล้ว การแข่งขันประกวดต่างๆ ยังช่วยสร้างคนรุ่นใหม่มากฝีมือเข้าสู่วงการตลอด เมื่อคนมีความรู้มีฝีมือเข้ามามากๆ บุคลากรด้านพ่อครัวก็ไม่จะขาดแคลน ท้ายที่สุดก็เป็นการช่วยพัฒนาวงการอาหารและท่องเที่ยวบ้านเราให้เติบโตทัดเทียมนานาชาติด้วย” นายกสมาคมพ่อครัวไทย กล่าวในที่สุด.

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ : จารุณี ทองไพบูลย์กิจ
โทร. – 0-2991-3031-3 แฟ็กซ์ 0-2991-3066 อีเมล์ trnclub@yahoo.com

สมาคมพ่อครัวไทย
โทร. 0-2255-8446 แฟ็กซ์ 0-2255-8447 เว็บไซต์ www.thaichefs.org อีเมล์ thaichefs@yahoo.com