ศุภาลัย โชว์ผลประกอบการ 9 เดือน กวาดยอดขาย 8,040 ล้านบาท ยอดทำสัญญาเติบโต 2.36 เท่า มั่นใจยอดขายเกินเป้าหมาย

ศุภาลัย เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2551 โชว์ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง 8,040 ล้านบาท ยอดทำสัญญา 8,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 2.36 เท่า มั่นใจยอดขายทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9,999 ล้านบาทอย่างแน่นอน พร้อมลุยเปิดโครงการใหม่อีก 6 โครงการภายในสิ้นปีนี้

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2551 ว่า บริษัทฯ มียอดทำสัญญา 8,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 2.36 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มียอดทำสัญญา 9 เดือนแรกของปีที่แล้วอยู่ที่ 3,595 ล้านบาท ส่วนยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปลายเดือนกันยายน อยู่ที่ 8,040 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 69% บ้านเดี่ยว 19% และทาวน์เฮาส์ 12% ในขณะเดียวกันยอดขายที่ทำสัญญาและรอโอน (Back log) ที่จะสามารถรับรู้รายได้ มีมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท

“แม้ว่าสถานการณ์ในครึ่งปีแรกจะมีอุปสรรคหลัก 3 เรื่อง คือ ราคาน้ำมัน ราคาเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นเท่าตัว และอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นบ้างก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามบริษัท ศุภาลัย ยังคงมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีการพัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรฐานสากล ISO 9001 : 2000 ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือจนเกิดการบอกต่อ อีกทั้งในปีนี้มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่ช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยเพิ่มกำลังซื้อบ้านและคอนโดฯ ซึ่งจะมีผลไปจนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2552”

สถานการณ์ในขณะนี้เรื่องราคาน้ำมัน และเหล็ก ได้ปรับลดลงจนเกือบใกล้เคียงกับราคาเดิม ส่วนอัตราดอกเบี้ยนั้นก็มีแนวโน้มปรับตัวลดลง แต่กลับมีเรื่องปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐฯ เข้ามาทดแทน อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2551 บริษัทฯ ยังจะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 6 โครงการตามแผนเดิมที่วางไว้โดยมีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 4 แห่ง และอีก 2 โครงการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้บริษัทฯ มั่นใจว่า สามารถทำยอดขายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 9,999 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน

ส่วนโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัทฯ ที่ได้ประกาศตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2551 ว่าจะซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวน 120 ล้านหุ้นหรือไม่เกิน 360 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ บริษัทฯ ได้ซื้อคืนแล้วรวม 75.82 ล้านหุ้น เป็นจำนวนเงิน 183.35 ล้านบาท คิดเป็นราคาหุ้นเฉลี่ย 2.42 บาทต่อหุ้น