กลุ่มแสนสิริ จับมือพันธมิตรธุรกิจ SCB เดินหน้าเต็มพิกัดจัดงานใหญ่แห่งปี “Living in Style 2009"

กลุ่มแสนสิริจับมือพันธมิตรธุรกิจสถาบันการเงิน SCB รับมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาล เดินหน้ารุกต่อเนื่องจัดงานใหญ่แห่งปี “Living in Style 2009” นำเสนอที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ 43 โครงการ มูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท กระตุ้นตลาดอสังหาฯ ภายใต้บิ๊กแคมเปญ กู้สูงสุด 100%* ดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี ลดหย่อนภาษีสูงสุด 4 แสน พร้อมรับเงินคืนเพิ่ม*จากแสนสิริ ในวันที่ 6 – 8 มีนาคม นี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานภาคเอกชน ได้ให้ความสำคัญกับการตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งทุกภาคส่วนควรต้องร่วมมือในการเร่งดึงความเชื่อมั่นในด้านการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคให้อยู่ในภาวะปกติโดยเร็ว ดังนั้นจึงนับเป็นโอกาสที่ดีในการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB จัดงานยิ่งใหญ่แห่งปี ภายใต้ชื่อ “Living in Style 2009” ขึ้น ระหว่างวันที่ 6 – 9 มีนาคม 2552 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

“การจับมือด้านธุรกิจครั้งสำคัญนี้ ได้รับความร่วมมือจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ให้การสนับสนุนการพัฒนาโครงการของแสนสิริเป็นอย่างดี โดยในงานนี้จะให้การสนับสนุนสินเชื่อ ภายใต้เงื่อนไข กู้สูงสุด 100%* ดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกลุ่มแสนสิริทุกรูปแบบ ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ และเพื่อสนับสนุนการจัดงานให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้นอีก ในส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะ อัตรา 3.30% ซึ่งผู้ประกอบการได้รับการลดหย่อนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แสนสิริจะนำไปหักจากราคาบ้านเพื่อเป็นส่วนลดให้แก่ลูกค้าเพิ่มอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นการจัดงาน Living in Style 2009 ครั้งนี้ จึงนับเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนในการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐบาลที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวในทิศทางที่ดีต่อไป” นายอภิชาติ กล่าว

สำหรับไฮไลต์ที่สำคัญภายในงาน นอกจากการนำเสนอที่อยู่อาศัยโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มแสนสิริ ที่ครอบคลุมทุกระดับราคา จำนวนถึง 43 โครงการ มูลค่าโครงการขายรวม 25,000 ล้านบาทแล้ว ยังมีการเปิดตัวทาวน์เฮาส์โครงการใหม่ในกลุ่มแสนสิริอีก 8 โครงการ 8 ทำเล ในราคาเริ่มต้นประมาณ 3 ล้านบาท รวมถึงจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ใหม่ถึง 2 โครงการ ได้แก่ blocs 77 และ The Vertical aree ซึ่งจะเป็นแบรนด์ต่อยอดสำหรับการพัฒนาโครงการในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมงานในครั้งนี้กว่า 10,000 คน และภายหลังจากการจัดงานจะมีลูกค้าที่แวะเข้าไปเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ตามที่สนใจอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการขายโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นด้วย

จับมือพันธมิตรธุรกิจสถาบันการเงิน SCB มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 1ปี รับดีมานต์ผู้ซื้อบ้าน คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่จะกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารจึงร่วมมือกับแสนสิริพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ในการจัดงาน Living in Style 2009 เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ทั้งทางด้านราคาที่อยู่อาศัย และแหล่งเงินกู้ ตลอดจนการมอบแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าในงาน โดยลูกค้าจะได้รับวงเงินกู้สูงสุด 100 % ของราคาประเมินธนาคาร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้กู้ รวมทั้งยังได้เตรียมแพ็คเกจพิเศษ “SCB Family Set” อาทิ Family Home Loan Set กู้บ้านสุดคุ้มกับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี Family Smart Set ผลิตภัณฑ์ทางด้านการลงทุน Family Saving Set มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และ Family Protection Set ลูกค้าที่ซื้อประกันภายในงานรับสิทธิฟรีประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเงื่อนไขพิเศษมาก สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านของแสนสิริ ซึ่งนับเป็นประโยชน์ที่คุ้มค่าและไม่ควรพลาดโอกาสในงานครั้งนี้

ทั้งนี้ธนาคารได้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในส่วนของสินเชื่อใหม่ ทั้งปีเติบโตที่ 5.3 – 5.5 หมื่นล้านบาท และยังมุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อลูกค้าตามปกติ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและดูแลลูกค้าที่อาจจะมีปัญหาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมาธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และยังร่วมมือกับพันธมิตรในการจัดกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการที่ภาครัฐช่วยสนับสนุนในเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีสำหรับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในขณะนี้

สำหรับพื้นที่ภายในงาน แบ่งเป็นโซนสำคัญที่รวบรวมทุกเรื่องราวของการอยู่อาศัย ทั้งในส่วนกลุ่มบริษัทแสนสิริที่แบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนย่อยเพื่อความสะดวกต่อการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ได้แก่ โซนบ้านพร้อมอยู่, โซนคอนโดมิเนียมโซนบ้านเดี่ยว, โซนทาวน์เฮาส์ และโซนที่อยู่อาศัยแนวคิดใหม่ภายใต้แบรนด์ ฮาบิเทีย นอกจากนี้ยังมีบริษัทพันธมิตรธุรกิจ ที่เข้าร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์และรูปแบบการให้บริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีไลฟ์สไตล์ ที่พร้อมจะร่วมมอบโปรโมชั่นมากมาย ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดังจากประเทศแคนาดา อีคิวทรี (EQ3) ภายใต้การดูแลของบริษัท คิวคอนเซ็ปต์ หนึ่งในเครือของเดคอร์มาร์ท ,เฟอร์นิเจอร์คุณภาพแบรนด์ Modernform, เครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำ Daikin รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอีกหลากหลายแบรนด์ที่จะนำสินค้ามาจัดรายการในราคาสุดพิเศษ เฉพาะในงานนี้เท่านั้น

นอกจากนี้เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าแสนสิริ ที่ได้ให้ความไว้วางใจในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในสังคมคุณภาพ ภายใต้โครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มแสนสิริที่ตั้งอยู่ครอบคลุมย่านที่อยู่อาศัยสำคัญทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงได้กำหนดจัดงานคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ ในชื่อ “Family Rhythm&Harmony” ภายใต้ธีมหลัก “Sansiri Family เป็นครอบครัวเดียวกัน ในร่มเงาความสุข” ที่ได้รวบรวมศิลปินคุณภาพ อาทิ กรุ๊ฟไรเดอร์ส, ป๊อด ธนชัย อุชชิน, เบน ชลาทิศ, โต๋ ศักดิ์สิทธิ์, ธีร์ ไชยเดช, บี พีระพัฒน์, ครอบครัวสุโกศล และอีกหลากหลายศิลปินจากเบเกอรี่มิวสิค เพื่อเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ สำหรับครอบครัวแสนสิริกรุ๊ปเท่านั้น โดยได้รับการสนับสนุนจากเบียร์ Federbrau อีกด้วย ทั้งนี้ งานคอนเสิร์ตดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2552 เวลา 18.00 – 20.30 น. ณ อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี

“สำหรับการจัดงาน Living in Style 2009 ครั้งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การกระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจของลูกค้าในช่วงที่เหลือของปี 2552 ให้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มแสนสิริ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัยรวมได้กว่า 2,800 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่า ภายหลังการจัดงานจะสามารถสร้างยอดขายที่อยู่อาศัยรวมภายในงานได้อีก คิดเป็นมูลค่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 นี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณกว่า 5,500 ล้านบาท และมียอดขายล่วงหน้าที่รอรับรู้รายได้ในอีก 1-3 ปี ประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยก็ว่าได้” นายอภิชาติ กล่าว