ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ล่าสุด ‘‘HCP Anywhere’’ ตอบโจทย์ ธุรกิจไม่สะดุด แม้เกิดวิกฤตภัยทุกประเภท

บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น (เอชดีเอส) ธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด (TSE: 6501) เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ล่าสุด  Hitachi Content Platform Anywhere (HCP Anywhere) ที่ช่วยตอบโจทย์การทำงานยุค Business Mobility และ Business Continuity ให้กับองค์กร ช่วยให้พนักงานสามารถใช้ข้อมูลตรงกัน (ซิงค์) และแชร์ไฟล์ได้จากทุกที่ทุกเวลาทั้งจากเครื่องแล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยข้อมูลการทำงานทั้งหมด จะถูกจัดเก็บไว้ที่ระบบจัดเก็บข้อมูลส่วนกลางขององค์กรภายใต้การรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ไม่สูญหายแม้เกิดวิกฤตภัยร้ายแรงทุกประเภท

นายมารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด เปิดเผยว่า “HCP Anywhere” เป็นโซลูชั่นที่ฮิตาชิฯ นำเสนอเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้า ที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงาน สามารถเข้าถึงข้อมูลร่วมกันได้จากทุกที่ ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า โมบิลิตี้ (Mobility) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เนื่องจากแนวโน้มความต้องการโมบิลิตี้นั้น เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมือง อาทิ  เช่น ภัยการก่อการร้าย  ภัยสงคราม  รวมถึงปัญหาวิกฤตภัยอื่นๆ  ซึ่ง HCP Anywhere  จะช่วยให้เกิดความต่อเนื่องในการทำธุรกิจขององค์กร  รวมทั้งการนำอุปกรณ์พกพาของพนักงานเองมาใช้ในที่ทำงาน (Bring Your Own Device – BYOD) หรือการเลือกใช้อุปกรณ์พกพาอื่นๆในการทำงาน (Choose Your Own Device – CYOD) ก็เพิ่มขึ้น การใช้อุปกรณ์ดังกล่าว เพื่อเป็นการเข้าถึงข้อมูลของบริษัท เช่น อีเมล ไฟล์ และฐานข้อมูล นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการบริหารจัดการ และการควบคุมการเข้าถึงข้อมูล ตลอดจนการปกป้องข้อมูล เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกบุคคลภายนอกนำไปใช้ประโยชน์ หรือเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ หากอุปกรณ์ดังกล่าวสูญหายหรือถูกขโมย

นอกจากนี้ HCP Anywhere ยังสนับสนุนการทำงานแบบ WORM (Write One Read Many) โดยไฟล์ที่ถูกจัดเก็บนั้นจะถูกจัดเก็บเพียงครั้งเดียวไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ผู้ใช้สามารถเรียกดูได้หลายคน รวมทั้งระบบบันทึกประวัติการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน (Log) ทั้งการอัพโหลด/ดาวน์โหลด (Upload / Download) ไฟล์และการแก้ไขงานของพนักงานโดยโซลูชั่นนี้เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีพนักงานตั้งแต่  200 คนขึ้นไป ช่วยให้ง่ายต่อการจัดเก็บข้อมูลของบริษัทที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยองค์กรและพนักงานสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะไม่สูญหาย ปลอดภัยจากการรั่วไหลไปสู่บุคคลนอก และสามารถดึงข้อมูลเพื่อมาใช้ในการทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งนี้ การทำงานของ HCP Anywhere ตอบโจทย์รูปแบบการทำงานของผู้คนในปัจจุบัน โดยโซลูชั่นดังกล่าวมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังต่อไปนี้

1. สามารถซิงค์ข้อมูลได้จากทุกที่ทุกเวลา โดยมีการกำหนดพื้นที่การทำงานบนเครื่องแล็ปท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ทั้งนี้ ไฟล์งานที่มีการเปลี่ยนแปลงจะถูกสำเนาไปเก็บไว้ยังพื้นที่จัดเก็บข้อมูลส่วนกลางขององค์กร จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำ Desktop Backup สามารถดึงข้อมูลจากระบบจัดเก็บข้อมูลส่วนกลางขององค์กร ลงเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี หรือเครื่องแล็ปท็อปนำมาใช้งานได้เลย หากไม่ได้นำเครื่องของตนเองมา โดยผ่านการทำงานทางเว็บบราวเซอร์ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติม

2. สามารถแชร์ไฟล์ โดยสามารถแชร์ไฟล์โดยการระบุสิทธิ์ให้เฉพาะบุคคลภายในองค์กรหรือแชร์ไฟล์สาธารณะให้กับใครก็ได้ ด้วยการสร้างลิงค์สำหรับให้ดาวน์โหลด ซึ่งสามารถกำหนดอายุการใช้งานของลิงค์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดได้ เพื่อป้องกันการนำไปใช้ประโยชน์ซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต

3. มีความสามารถในการทำเวอร์ชันของเอกสาร (Versioning) โดยจะมีการกำหนดให้มีหมายเลขการเปลี่ยนแปลง หรือการกำหนดวันที่เปลี่ยนแปลงบนไฟล์ และจัดเก็บข้อมูลเดิมไว้ เผื่อกรณีต้องทำการเรียกคืนข้อมูล หรือการลบโดยไม่ได้ตั้งใจ และป้องกันความสับสน รวมทั้งเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงสถานะการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน Document Management System

4.กำจัดการซ้ำซ้อนของข้อมูล เมื่อผู้ใช้จัดเก็บข้อมูลซ้ำซ้อนกันถึงแม้จะมีการตั้งชื่อไฟล์ที่แตกต่างกัน ระบบจะตรวจสอบข้อมูล หากพบก็จะลบข้อมูลที่ซ้ำซ้อนออกและจัดเก็บไว้เพียงชุดเดียว เมื่อผู้ใช้เรียกใช้ไฟล์ ก็ยังคงได้ข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์เหมือนเดิม ทำให้สามารถบริหารจัดการพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิเช่นพื้นที่ 1TB จะได้เพิ่มขึ้นอีก 5 เท่า

5. ลดเนื้อที่ในการจัดเก็บที่ต้องใช้ในการสำรองข้อมูลได้ประมาณ 30% เนื่องจากระบบจะทำการวิเคราะห์เลือกย้ายข้อมูลที่ไม่มีการเคลื่อนไหว (Inactive Data) ออกไปจากที่เก็บข้อมูล แต่ยังคงปกป้องข้อมูลในตัว ซึ่งจะช่วยให้องค์กรยังสามารถจัดเก็บข้อมูล Inactive นี้ได้ในระยะยาว จึงช่วยชะลอระยะเวลาในการจัดซื้อระบบจัดเก็บข้อมูลใหม่ให้นานออกไปอีก 2 ปี

6.ปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัส (Encryption) และการบังคับใช้รหัสล็อค (Lock Code Enforcement) ช่วยให้คนภายนอกไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลจากเครื่องได้ และสามารถลบข้อมูลแบบ Remote Wipe ในกรณีที่ข้อมูลสูญหาย อุปกรณ์ถูกขโมย หรือต้องการเปลี่ยนใหม่

7. มีฟังก์ชั่นที่บริหารจัดการระบบความปลอดภัยได้ด้วยตนเองในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ มีโซลูชั่นที่ช่วยในการบริหารไฟล์ซิงค์และแชร์แบบครบวงจร ตั้งแต่โซลูชั่นบริหารจัดการ Object Storage จากส่วนกลาง (HCP) และโซลูชั่นต่อยอดจากข้อมูลของส่วนกลางไปยังสาขาต่างๆ (Hitachi Data Ingestor (HDI)  for Remote Office Branch Office (ROBO)) และล่าสุด โซลูชั่นที่ต่อยอดไปยังอุปกรณ์การทำงานแบบพกพาคือ HCP Anywhere นี้ จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการระดับองค์กรได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับระบบต่างๆ พร้อมทั้งสามารถปรับขยายเพื่อรองรับธุรกิจในอนาคต  สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และสร้างโอกาสในการเติบโตของตลาดในภูมิภาคแห่งนี้ได้ดียิ่งขึ้น