โครงข่ายครอบคลุมทั่วไทยที่ให้ความคุ้มค่ามากกว่า

นับตั้งแต่เริ่มวางโครงข่ายในปี 2002 จนถึงวันนี้ ทรูมูฟสามารถครอบคลุมประชากรทั้งประเทศได้แล้วถึง 92% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเกรด A เทียบเท่ากับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ที่มาก่อน

คุณสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาดและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้ากลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมานั้นทางทรูได้ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อให้ได้โครงข่ายที่ครอบคลุมในวันนี้ โดยเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้วางโครงข่ายได้เร็วที่สุดในโลก และยังครอบคลุมประชากรได้มากถึงร้อย 92 ของจำนวนประชากรทั้งหมด

“การวางโครงข่ายมี 2 แบบ หนึ่งคือการวางโครงข่ายแบบครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด มีคนมากน้อยหรือเปล่าไม่รู้แต่มีโครงข่าย นี่ถือว่ายังไม่ใช่การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ส่วนวิธีการของเราคือวางโครงข่ายให้ครอบคลุมประชากรโดยเอาสถิติจากสำนักงานสถิติแห่งชาติมาใช้ ทำให้เรามั่นใจว่าวันนี้คุณภาพสัญญาณของเราเทียบเท่ากับผู้ให้บริการรายอื่นๆ

“92% เนี่ยในวงการมือถือด้วยกันถือว่าเป็นเกรด A เกรด A แปลว่าอะไร แปลว่าตั้งแต่ 90 ขึ้นไปถึง 100 ความแตกต่างมีอยู่บ้างแต่ไม่มีความสำคัญ เป็นแค่ตัวเลขห่างกันนิดหน่อย

“ดังนั้นในวันนี้ผู้ให้บริการรายไหนจะนำเรื่องโครงข่ายมาเป็นจุดขายไม่ได้แล้ว เพราะมันใกล้เคียงกันมาก และจึงถือว่าเป็นโชคดีที่เรามีสินค้าอยู่ในกลุ่มทรู เราเลย Convergence กันเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าไม่ว่าจะเป็นตัวทรูมูฟเอง ทรูวิชั่นส์ที่มีคอนเทนท์ดีๆ เยอะมาก ทรูออนไลน์ซึ่งนอกจาก Wi-Fi จะเร็วแรงและครอบคลุมในหลายตึกหลายโซนแล้ว วันนี้ยังมีจุด Hot-Spot รองรับกว่า 4,000 จุด ทั้งในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ แถมทรูไลฟ์ ไลฟ์สไตล์ช็อปที่ให้คุณมานั่งจิบกาแฟและสามารถใช้เทคโนโลยีไปพร้อมๆ กัน นี่คือความแตกต่างที่เรามีนอกเหนือจากเรื่องโครงข่ายที่เทียบเท่าในระดับเดียวกัน”

จากโครงข่ายที่ครอบคลุมและความเป็น Convergence ของบริษัทในเครือทรูทำให้คุณสุภกิจ มองว่า การที่ลูกค้ามาใช้บริการในกลุ่มทรูมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ความคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งวัดได้จากโปรแกรมบริการต่างๆ ที่สร้างขึ้นมา โดยเฉพาะโปรแกรม All Together Bonus ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาจนวันนี้ได้ขยายโบนัสให้ลูกค้าด้วยบิลแลกค่าโทรไม่ว่าจะเป็นบิลค่าบริการในเครือทรู บิลค่าเทอม บิลจากร้าน 7-Eleven หรือแม้กระทั่งบิลค่าเทอมก็สามารถนำมาแลกได้

“ผมถือว่าเป็นโปรแกรมบริการที่จับต้องได้และลูกค้าได้กำไรจากการใช้จริงๆ”