…ทาถู…ทาถู… สโลแกนที่ได้ยินมาเฉลี่ย 1 ชั่วอายุคน ของยาหม่องถ้วยทอง ที่เป็นเจ้าตลาดครองส่วนแบ่งถึง 52% ของตลาดมูลค่า 1,000 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพิ่งจะมีการแตกไลน์สินค้าใหม่เป็นตัวแรก ในรอบ 63 ปี ภายใต้สโลแกน คิดดี้บาล์ม สำหรับเด็ก…ทาถู…ทาถู…
ดร.ยศพร ลีลารัศมี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ของถ้วยทองโอสถ ให้เหตุผลในการรุกขึ้นมาทำสินค้าใหม่ครั้งแรกในรอบ 63 ปีว่า เป็นเพราะยอดขายของบริษัทอยู่กับที่มาแล้ว 3 ปีติดต่อกัน ขณะเดียวกันได้ย้ายการผลิตไปสู่โรงงานแห่งใหม่ที่ลงทุนไปราว 200 ล้านบาท ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า จึงต้องคิดสินค้าใหม่เข้ามาต่อยอดธุรกิจ
“โรงงานเก่าที่จรัญสนิทวงศ์ 19 พื้นที่ 5 ไร่ กำลังการผลิต 3.6 แสนตลับต่อวัน โรงงานใหม่พื้นที่ 25 ไร่ คาดว่ากำลังการผลิตจะมากกว่าเดิม 5 เท่า”
ส่วนที่เลือกผลิตยาหม่องสำหรับเด็ก ดร.ยศพร เล่าว่า เกิดจากแรงบันดาลใจจากการใช้งานภายในบ้านที่ต้องการยาหม่องสำหรับผิวอ่อนๆ ของลูกที่ถูกแมลงกัดต่อย
นอกจากนี้ การวิจัยตลาดยังพบว่าการบริโภคยาหม่องประมาณ 80-90% มียาหม่องติดบ้าน และครึ่งหนึ่งของคนที่ตอบพกยาหม่องติดตัว จะอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งในการเลือกยาหม่องสำหรับเด็ก ส่วนใหญ่เลือกซื้อยาหม่องจากแบรนด์ที่คุ้นเคย เป็นยี่ห้อที่คนในบ้านใช้ เหมือนการสืบทอดพฤติกรมในครอบครัว
ดังนั้นหากจะเลือกยาหม่องสำหรับเด็กก็ย่อมจะเลือกจากแบรนด์ที่คุ้นเคยเช่นกัน และนั่นทำให้โลโก้คิดดี้บาล์ม จึงมีโลโก้ของถ้วยทองติดไว้คู่กัน เช่นเดียวกับการวางจำหน่ายที่จะวางคู่กันทุกจุดขาย ขณะเดียวกันก็ปรับสรรพคุณให้เหมาะกับเด็ก โดยตัดทอนคุณสมบัติความแสบซ่าลง และเปลี่ยนสรรพคุณสินค้าจากดมแก้วิงเวียนศีรษะ มาเป็นดมเพื่อบรรเทาอากาศหวัดคัดจมูกแทน ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 70 ล้านบาท
สินค้า KIDDY BALM
Position ยาหม่องที่เป็นมิตรต่อความรู้สึกของเด็ก
Target ตั้งแต่ทารกจนถึงเด็กโต รวมถึงผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบความแสบร้อนของยาหม่อง
Product Detail อยู่ในหมวดยา สรรพคุณบรรเทาอาการคันจากแมลงกัดต่อย แก้คัดจมูกจากหวัด ขนาด 8 กรัม ราคา 16 บาท
Marketing Strategy วางจำหน่ายคู่กับยาหม่องถ้วยทอง ตามร้านขายยา ใช้งบ 15 ล้านบาท ผ่านสื่อโทรทัศน์ และวิทยุ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ และมอบสินค้าตัวอย่างให้กับร้านยาและห้องพยาบาลของโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ
Market Analysis ยาหม่องสำหรับเด็กมีเพียงแซมบัครายเดียว ซึ่งไม่ได้โฟกัสว่าเป็นยาหม่องแต่เป็นบาล์มแก้แมลงกัดต่อย ทำตลาดเงียบๆ ด้วยจุดขายที่แข็งแกร่งและไร้คู่แข่ง กับวิคส์ ซึ่งใช้สูดดมแก้หวัด ซึ่งเป็นคนละกลุ่ม แต่ถ้วยทองก็แอบหวังแย่งส่วนแบ่งจากตลาดนี้ด้วย
Promotion ช่วงเปิดตัว 30 ล้านบาท คาดว่าจะใช้ประมาณ 100 บาท เพื่อสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด
มูลค่าตลาดยาหม่องปีละ 1,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นยาหม่องเด็ก 200 ล้านบาท
ตลาดเติบโตปีละ 1-2%
Did you know?
ยาหม่อง ได้ฉายาว่า ยาประจำบ้านของคนไทย มีสรรรพคุณครอบจักรวาล แต่จริงๆ แล้วสรรพคุณของยาหม่องในการแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย อยู่ที่เนื้อบาล์มแสบร้อนที่ทาบนผิวหนังทำให้เส้นเลือดขยายตัว ไหลเวียนมากขึ้น ณ จุดนั้น จึงช่วยบรรเทาอาการตุ่มคันที่เกิดขึ้นจากแมลง
