แม้เทรนด์ใหม่ๆ จะมาได้ทุกวัน แต่ใครๆ ก็มักมองหาคำทำนายเทรนด์ต่างๆ ในเดือนมกราคมทุกปีไป และในยุคไซเบอร์ที่อ่านสื่อได้ทั่วโลกง่ายๆ ก็มีหลายเว็บที่ไม่น่าพลาดสำหรับการเข้าไปลองไล่เรียงจับกระแสปีนี้ไม่ว่าด้านพฤติกรรมผู้บริโภค แฟชั่น สีสัน หรือแม้แต่ไอที เผื่อว่าจะมีประโยชน์กับการงานหรือธุรกิจการค้า
เป็นบริษัทที่ตั้งมาเพื่อทำวิจัยสำรวจแทรนด์ต่างๆ แล้วรายงานเป็นบทความเป็นรายเดือน ที่อ้างว่ามี “เครือข่ายนักจับเทรนด์ (Trend Spotters)” ช่วยงานอยู่ถึงกว่า 8,000 คน ในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก และสื่อดังๆ อย่าง CNN , BBC, Times , The Economist, Reuters และอีกนับสิบเจ้าก็อ้างอิงถึงเป็นประจำ (ดูใน www.trendwatching.com/about/inmedia)
ที่นี่ตั้งชื่อหลากหลายเทรนด์ที่สำรวจพบอย่างเก๋ไก๋ เช่นในปี 2008 นี้มีถึง 8 เทรนด์คือ “Status Spheres”, “Premiumization”, “Snack Culture”, “Online Oxygen”, “Brand Butlers”, “Crowd Mining”, “MIY:Make It Yourself” และ “Eco Iconic”
ที่นี่ใช้ระบบเปิดให้สมัครเป็นสมาชิกเพื่อมีสิทธิเข้าอ่าน Trend Briefing ฟรีทุกเดือน ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกถึง 1.3 แสนรายทั่วโลก ซึ่ง TrendWatching คุยว่าส่วนใหญ่เป็นนักการตลาด ผู้บริหาร และมืออาชีพที่มีศักยภาพในด้านต่างๆ (อ่านฟรีบางส่วนของทุกเทรนด์ก่อนสมัครได้ใน www.trendwatching.com/briefing แล้วสมัครได้ที่ http://www.trendwatching.com/briefing/subscribe)
เว็บนี้ยังใจดีให้อ่านบททำนายเทรนด์ย้อนหลังได้ถึงปี 2002 พิสูจน์ความแม่น (เข้าไป www.trendwatching.com/trends) เช่นเทรนด์ที่ชื่อ “Being Spaces” ที่ทำนายไว้ว่าคนเมืองจะต้องการที่ที่จะนั่งทำงานไป พูดคุยไป ดื่มชากาแฟ เช็กเมล ฟังเพลงเบาๆ ไปพร้อมกัน ซึ่งทุกวันนี้แค่ดูในไทยศูนย์บริการร้านต่างๆ ก็พยายามทำมุมกาแฟกันทั่วแล้ว
บ่อยครั้งที่เทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้านั้นระบาดไปถึงการออกแบบสินค้าเช่นมือถือ หรือการตกแต่งสถานที่เช่นร้านกาแฟ โรงแรม ฉะนั้นเทรนด์แฟชั่นก็เป็นอีกอย่างที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม
trendstop.com เป็นแหล่งรายงานเทรนด์แฟชั่นทั่วโลกกันแบบอัพเดตรายวัน เน้นเสื้อผ้าทั้งหญิงชาย แต่ก็ขยายไปครอบคลุมถึงแนวกราฟิก การใช้สี และวัสดุที่จะเป็นที่นิยมด้วย ซึ่งใช้ในการออกแบบอื่นๆ นอกจากเสื้อผ้าได้เสมอ
TrendStop มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน London มีทีมนักวิจัยประจำ 20 คน และมีเครือข่าย “Trend Spotters” คอยช่วยรายงานอยู่ทั่วโลก และที่นี่ก็ท้าให้เช็กความแม่นย้อนหลังเช่นกัน โดยเข้าไปที่ “What We Said” ในส่วน Hype ที่ www.trendstop.com/track_record.asp
เว็บของบริษัทวิจัยแฟชั่นและการออกแบบที่มีสำนักงานอยู่ในลอนดอน ในส่วน Trend ทีนี่รายงานเจาะละเอียดถึงเทรนด์รายเดือนในสินค้าประเภทต่างๆ นอกจากเสื้อผ้าหญิงชายแล้ว ก็มียีนส์ รองเท้า ชุดว่ายน้ำ เสื้อผ้าเด็ก ไปถึงเรื่องกว้างๆ อย่างการตกแต่งห้องและ สีที่กำลังมาแรง ดูได้ใน www.wgsn.com/public/trends-info/?view=Main+content
ชื่อสั้นจำง่าย สไตล์ดอตคอม เป็นเว็บที่มีบุคลิกเป็นนิตยสารแฟชั่นเสื้อผ้าออนไลน์ เขียนด้วยสำนวนสนุกสนานไม่ได้เน้นข้อมูลให้ไปอ้างอิงเท่าที่อื่นๆ ที่เราแนะนำไป ในส่วน “Trend Reports” บอกเทรนด์ปีละ 4 ฤดู เช่นสำหรับ Spring 2007 ที่ผ่านไปก็ชี้ว่าการตัดเย็บเสื้อผ้า (Detail Operation) ให้ออกมาดูเหมือนศิลปะพับกระดาษแบบญี่ปุ่น (Origami) กำลังมาแรง
ส่วนบล็อก “Style File” มีบรรดาดีไซเนอร์และผู้จัดการช็อปจากทั่วโลกเช่นมิลาน ปารีส มาเขียนให้ และ “People & Parties” ก็พาไปชมปาร์ตี้หลากหลายที่เหล่าเซเล็บพากันไปโชว์สไตล์แต่งตัวกัน
ที่ Gizmodo มีรูปและแนะนำสินค้าใหม่ๆ เกิดถี่ยิบในวงการ it gadget ต่างประเทศหลากหลายอัพเดตตลอด แบ่งเป็นหมวดหมู่เช่น มือถือ, โน้ตบุ๊ก, คอมพ์ตั้งโต๊ะ, จอ, เครื่องเล่น MP3 ฯลฯ หลายครั้งแค่เป็นตัวต้นแบบให้ดูแปลกเป็นข่าวเพื่อมาขายคอนเซ็ปต์ ก่อนจะลดรูปให้ดูธรรมดามากขึ้นเมื่อออกขายจริง
การได้นั่งดูนั่งสำรวจเทรนด์ของใหม่ต่างประเทศเหล่านี้ก็ช่วยให้เห็นทิศทางวงการอุปกรณ์ไอทีที่เปลี่ยนแปลงเร็วจี๋ได้ดี แถมยังเป็นความเพลิดเพลิน สำหรับหลายๆ คนที่ชื่นชอบเล่นของใหม่เหล่านี้อยู่
Google Trend
อีกวิธีจับเทรนด์ คือดูว่าคำไหนที่คนทั้งโลกเสิร์ชกันมากในช่วงนั้น และยักษ์เสิร์ชอย่าง Google ก็จัดข้อมูลนี้ให้แล้วใน google.com/trends ที่รวมคำ “คำเสิร์ชยอดฮิต” ทั้งโลก
ลูกเล่นยอดฮิตในกูเกิลเทรนด์ คือเปรียบเทียบความฮิตระหว่างคำสองคำ คั่นด้วยเครื่องหมาย , เช่นเมื่อเมื่อป้อนว่า iPhone, Nokia ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นชาร์ตแบ่งสีกันอย่างชัดเจนว่าคำไหนถูกค้นกว่ากัน หรือถ้าจะดูว่าเพลงไหนกำลังฮิตระดับโลกบ้างก็ที่ Google Music Trend ใน http://www.google.com/trends/music?where=help#howcontribute
ogle Trend ถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการทดลอง Google Labs ฉะนั้นในระยะแรกนี้จึงยังดูได้แต่สถิติรวมการเสิร์ชทั้งโลก ซึ่งผู้ใช้ในอเมริกามีน้ำหนักมากที่สุด ยังเจาะจงดูเฉพาะในไทยไม่ได้
ก่อนหน้านี้ เว็บ Truehits ของไทยก็ได้จัดแถลงผลสำรวจกระแสผ่านการเสิร์ชมาก่อน และเป็นข้อมูลเฉพาะในไทย ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ก็เป็นชื่อเพลง ชื่อดารา ชื่อหนังละครต่างๆ ซึ่งเข้าไปดูได้ที่ truehits.net/let และ directory.truehits.net/keyword.php
