เทรนด์ “นำกลับมาใช้ใหม่” (Reuse) หรือ “เก๋า” (Vintage) ยังคงมาแรงในวงการแฟชั่นที่ต้องแข่งขันกันสร้างความแปลก-แหวก-ใหม่ ล่าสุด J-shoes แบรนด์รองเท้าพรีเมียมจากอังกฤษก็ไอเดียบรรเจิดอีกครั้ง ด้วยการแปลงโฉมเสื้อยืดเก่าเก๋าเป็นรองเท้าสไตล์เมโทรสุดเก๋ไก๋ ที่มี “คู่เดียวในโลก”
นี่คือคอนเซ็ปต์ “Lost and Found” คอลเลกชั่นใหม่ Spring/Summer ปี 2008 ของ J-Shoes หมายถึง “หลงทาง” (Lost) ไปในแหล่งเสื้อยืดมือสอง แต่ก็ได้ “พบ” (Found) รองเท้าคู่ใหม่ ซึ่งแรงบันดาลใจนี้ J-shoes ได้มาจากการเดินทางทั่วโลกรวมทั้งตลาดจตุจักรในบ้านเรา
“เพราะดีไซน์ดิบๆ กำลังมา” นิค ดรูรี่ (Nick Drury) ดีไซเนอร์หลักของ J-shoes เปิดเผย “เทรนด์แห่งปี” แต่ก็คัดเฉพาะเสื้อยืดเก่าที่มี “ลายทาง” มาทำรองเท้า ให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ ที่แตกแถวด้วย ”ไอเดีย” แต่ยังแฝง “สไตล์” เรียบง่าย เพื่อให้ใส่ได้ตั้งแต่ไปทำงานจนถึงงานปาร์ตี้กลางคืน “หากไอเดียนี้ประสบความสำเร็จก็จะมี Collection ต่อไป อาจเปลี่ยนลายเป็นกระดุม ดอกไม้ หรือไม่ก็วัสดุใหม่ๆ หรือเพิ่มไลน์รองเท้าผู้หญิง”
“Lost and Found” เป็นคอลเลกชั่นจำนวนจำกัด วางจำหน่ายเพียงแค่ 600 คู่ทั่วโลก (ที่เมืองไทยมี 60 คู่) เป็นการสร้าง “มูลค่าเพิ่ม” ให้กับแบรนด์ กระตุ้นความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของรองเท้า “คู่เดียวในโลก” แก่กลุ่มเป้าหมายที่ขอบความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร และทำให้รองเท้าคอลเลกชั่นนี้มีราคา 5,000 บาทขึ้นไป ขณะที่สินค้าหลักโดยเฉลี่ยมีราคาประมาณ 2 – 5,000 บาท
อีกทั้งช่วยเน้นย้ำอิมเมจ “เดินไม่ตรงแถว” (Do the J-Walk) ที่เพิ่งเปลี่ยนจาก “การเดินทางอันยิ่งใหญ่ของชีวิต” (Life’s great journey) เมื่อปีที่แล้ว สะท้อนโพสิชันนิ่งของ J-Shoes ที่ไม่ต้องการเป็นเพียงแบรนด์รองเท้าที่เชื่อมโยงกับการเดินทาง แต่เน้นความทันสมัยและเป็นแฟชั่นมากขึ้น เพื่อให้ “ลงตัว” กับลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อในปัจจุบัน ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ใช้ชีวิตไม่หยุดนิ่ง แต่ยังคงต้องเปี่ยมไปด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ยังเป็นกลยุทธ์ช่วยสร้าง “สีสัน” ให้กับสินค้าหลัก (Main Line) และเพิ่ม Brand Awareness เนื่องจาก J-Shoes เป็นแบรนด์รองเท้าใหม่อายุเพียง 10 ปี สำหรับตลาดเมืองไทยก็เน้นขายเฉพาะรองเท้าผู้ชายตามมุมรองเท้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำเท่านั้น ไม่มีร้าน Stand Alone ของตัวเอง ทำให้เดอะ ชู ช็อพ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของ J-shoes ต้องหันมาเร่งโปรโมตแบรนด์เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว โดยโปรโมตร่วมกับห้างสรรพสินค้าตามเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีลูกค้าไทยเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% เป็น 40% ในปีที่ผ่านมา และจะทำตลาดรองเท้าผู้หญิงร่วมด้วยในไม่ช้า
Did you know?
นักวิทยาศาสตร์คำนวณจากกระดูกมนุษย์ เชื่อกันว่ารองเท้าคู่แรกเกิดขึ้นระหว่าง 40,000 – 26,000 ปีที่แล้ว (ข้อมูลจาก BBC)