ทัวร์ยกแก๊งไปกับป๋า"ตัน"โออิชิ

หากจะบอกว่า “รวยฟ้าผ่า” เป็นแคมเปญลุ้นโชคที่สร้างเสียงฮือฮามากที่สุดก็คงจะไม่ผิดนัก และส่งผลให้ Instant Win กลายเป็นของต้องห้ามไปแล้ว

3 ปีผ่านไป มาคราวนี้ โออิชิ หวังสร้างกระแสอีกครั้ง ท่ามกลางตลาดชาเขียวเริ่มอิ่มตัวและไร้สีสัน กับแคมเปญกระแทกใจ “ไปแต่ตัว…ทัวร์ยกแก๊งกับโออิชิ”

ต่างกันที่ว่าครั้งนี้เป็น Coporate Campaign เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของ “ญี่ปุ่น” ไว้ให้เหนียวแน่นและมั่นคงขึ้น ซึ่งตันมองว่า นี่คือมูลค่าที่แท้จริงของแบรนด์โออิชิ ที่แม้แต่คู่แข่งที่มาจากญี่ปุ่นแท้ๆ ก็ยังสู้ไม่ได้

“ความเป็นญี่ปุ่นมีค่ามากๆ เพราะญี่ปุ่นสื่อความหมายเท่ากับพรีเมียมและดีต่อสุขภาพ ซึ่งโออิชิพูดเรื่องนี้ก่อนเป็นรายแรก เราได้ภาพลักษณ์นี้ไปแล้ว แม้จะมีแบรนด์ญี่ปุ่นแท้ๆ มาพูดซ้ำ ก็กลายเป็นตัวปลอมไป” ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าถึงที่มา

ตันยังพบอีกว่า ท่ามกลางแคมเปญลุ้นโชค ประเภทติดเครื่องหมายดอกจันห้อยท้าย ข้อแม้อีกเป็นหางว่าว ให้ผู้ชนะรางวัลต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย โออิชิขอแหกกฎด้วยการใช้ Sincere Marketing ทำให้แคมเปญชิงโชครายอื่นแทบจะไร้ความน่าสนใจไปในบัดดล

“แคมเปญชิงโชคเหมือนกัน แต่ต่างกันนิดเดียว ผลต่างกันมหาศาลเลยนะ” ตันบอกด้วยความมั่นใจว่าแคมเปญชิ้นนี้จะได้รับการตอบรับอย่างดี จากจุดขาย “เที่ยวญี่ปุ่นแบบฟรีๆ”

“คนอยากลุ้นโชคกันมาก แต่ต้องเสียภาษีเยอะถ้าเกิดโชคดีได้รางวัลใหญ่ ได้มาต้องเป็นทุกข์ เผลอๆ ไม่ไปรับเพราะหาเงินไม่ทัน”

ด้วยข้อความเชิญชวนข้างขวดของโออิชิ อะมิโนโอเค เซกิ สุดยั่วใจว่า “ลุ้นทัวร์ญี่ปุ่น 30 รางวัล ชวนเพื่อนได้อีก 3 คน ฟรี! ทุกคนไม่ต้องเสียซักบาท ตั้งแต่เริ่มทำหนังสือเดินทาง” นอกจากนี้ยังได้พ็อกเกตมันนี่อีกคนละ 20,000 บาท น่าจะทำให้บรรดานักเดินทาง ขาเที่ยวทั้งหลายตาลุกวาวไม่น้อย

แคมเปญระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มีนาคม – 28 พฤษภาคมนี้ ใช้งบ 100 ล้านบาท (ว่ากันถึงเฉพาะของรางวัลคิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท) เป็นส่วนหนึ่งของการใช้งบการตลาด 600 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบการตลาดที่สูงที่สุดของบริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เคยใช้มา ทั้งยังหวังผลักดันยอดขายของทั้งบริษัทให้เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากแคมเปญนี้

งานนี้ ให้ได้ใจลูกค้าทั้งที นอกจากเที่ยวฟรีแล้ว “ตัน” เป็นไกด์นำทัวร์สุขภาพครั้งนี้ด้วยตัวเอง

โออิชิในสถานะผู้นำด้วยส่วนแบ่งการตลาด 75% ในตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพียง 5% ขณะที่โออิชิเติบโต 20% ตันตัดสินใจท้าทายด้วยการรุกตลาดอย่างหนักเพื่อวัดผลว่า ภายใต้ตลาดที่เหลือผู้นำแข็งแกร่งเพียงรายเดียวการอัดงบประมาณจัดแคมเปญโปรโมชั่นอย่างเต็มที่จะสามารถทำให้ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือไม่

Did you know?
สิงคโปร์ แอร์ไลน์ ใช้ Sincere Marketing เช่นเดียวกัน ด้วยการประกาศปรับแผนราคาจำหน่ายบัตรโดยสารเป็นรูปแบบเดียวกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมาด้วยการทำการตลาด ประชาสัมพันธ์ ราคาที่ผู้โดยสารต้องจ่ายแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งค่าตั๋ว ค่าภาษีสนามบิน ค่าน้ำมัน ฯลฯ หรือ Inclusive Ticket ซึ่งเป็นสายการบินแห่งแรกในเอเชียที่ใช้กลยุทธ์นี้