ถึงแม้ FaceBook จะใช้ได้แค่ภาษาอังกฤษ สเปนและเยอรมัน แต่แสนสิริ อสังหาริมทรัพย์ของไทย ก็เลือกลงโฆษณาในเว็บไซต์นี้แทนที่จะเป็น hi5
แบรนด์ผู้กล้าลองของใหม่คือ “แสนสิริ” หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ของไทย ที่เปิดตัว “Hive” โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด เลือกลงโฆษณาโครงการดังกล่าวในเว็บ FaceBook เป็นครั้งแรก พร้อมกับมีหน้าเว็บโปรโมตโครงการโดยเฉพาะ
แสนสิริมั่นใจว่าเว็บ Social Networking จะเป็นเทรนด์ซูเปอร์ฮอตและต่อยอดไปสู่กลยุทธ์ Word of Mouth อย่างได้ผล ด้วยฟังก์ชันที่เชื่อมโยงคนทุกระดับเสมือนจริง กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่ขาดไม่ได้ จนสมาชิกอย่างน้อย “ครึ่งหนึ่ง” ต้องเข้ามาใช้ทุกวัน
แล้วทำไมถึงไม่เป็น hi5? ทั้งๆ ที่มียอดคนไทยใช้มากกว่า FaceBook เป็นหลักล้าน
“นั่นเป็นเพราะโปรไฟล์สมาชิกของ FaceBook ตอบโจทย์การตลาดของแสนสิริ ส่วน hi5 ก็เด็กไป และเราเชื่อว่าปัจจุบันมีคนไทยใช้ FaceBook กันเยอะ” สมัชชา พรหมศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานการตลาดของแสนสิริกล่าว
นอกเหนือจากชาวต่างชาติ ผู้สนใจหอบเงินมาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยแล้ว FaceBook ครอบคลุมคนไทยรุ่นใหม่ ที่มีรายได้ การศึกษาและกำลังซื้อโดยเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่ม hi5 ซึ่งจากการประเมินของแสนสิริ พบว่า ปัจจุบันมีคนไทยไม่ต่ำกว่า 70,000 รายที่เป็นสมาชิก “เครือข่ายไทยแลนด์” ของ FaceBook จึงเป็น “เครื่องมือ” ที่เหมาะกับการโปรโมตสินค้าระดับกลางและบนขึ้นไป ลงล็อกพอดีกับโครงการ Hive ที่ตั้งเป้าเจาะลูกค้าระดับกลางเพิ่มขึ้น เป็นกลุ่มที่มักสนใจคอนโด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบบแสนสิริ
แม้จะไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขค่าโฆษณา แต่แสนสิริมองว่า FaceBook “คุ้มค่า” นอกจากช่วย “เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่” แล้ว ยังมีข้อดีที่สามารถสร้างโฆษณาได้เอง ไม่ต้องผ่านเอเยนซี่หรือ Media Planner “ขั้นตอนการลงโฆษณาไม่ยุ่งยาก ทั้งยืดหยุ่นเรื่องการคัดกรองกลุ่มบุคคลให้เห็นตัวโฆษณา ปรับเปลี่ยนเนื้อหาโฆษณารวมถึงกลุ่มคนได้ง่ายและรวดเร็ว” รวมทั้งสามารถวัดความสำเร็จได้ด้วยตัวเองจากหน้า Statistics “ดูได้ว่ามีการเห็น (impression) กี่ครั้ง มี Click กี่ครั้ง และคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไร (Clicks through rate)”
วันเปิดตัวโครงการจริงเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อาจชี้ชัดไม่ได้ว่าเป็นผลจากโฆษณาใน FaceBook มากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับนักการตลาดแล้ว “โอกาส” สำคัญเสมอ เมื่อดูจากแนวโน้มผู้ใช้ Social Networking ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ย่อมพลาดไม่ได้
อย่างน้อยนี่ก็เป็น “เครื่องมือทางการตลาด” ใหม่น่าตื่นเต้น ชวนทดลองใช้ เพื่อเข้าถึง “กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ“ และโอกาสต่อยอดกลยุทธ์ “ปากต่อปาก” ที่พิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้ว
“แฟน” ของแสนสิริ
หากสังเกตด้านขวาของ FaceBook จะพบกลุ่ม “แฟน”(Fans) หรือสมาชิกที่ “เป็นปลื้ม” มาขอแอด แสนสิริเองก็มีอยู่ 11 คน ถือเป็น “ออฟชั่น”สร้างสีสัน กระตุ้นให้สาธารณชนสนใจได้ เพราะยิ่งมี “แฟน” มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดูดี โอกาสกระจายข่าวไปยังเพื่อนที่แอดกันและกันต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ก็มีไม่น้อย