แจ็ค ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) คนดังแห่งวงการเทคโนโลยีและซีอีโอทวิตเตอร์ (Twitter) กลายเป็นเหยื่อของกลุ่มแฮกเกอร์ OurMine รายล่าสุด ตามหลังมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟซบุ๊ก (Facebook) และ ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอกูเกิล (Google) โดยทางกลุ่ม OurMine สามารถเจาะเข้าแอคเคาน์ทวิตเตอร์และไวน์ (Vine) ของแจ็ค ดอร์ซีย์ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย
โดยเมื่อเจาะระบบได้ ทางกลุ่มแฮกเกอร์ก็ได้โพสต์ข้อความสูตรสำเร็จของทางกลุ่มว่า “Testing your security” เอาไว้ทันที อย่างไรก็ดี กรณีของแจ็ค ดอร์ซีย์นั้นค่อนข้างเสียหายมากกว่าใครเพื่อน เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ถูกเจาะได้เสียเอง (ทั้ง Vine และ Twitter) ขณะที่กรณีของมาร์ค ซักเคอร์เบิร์กนั้นเป็นการเจาะผ่านแอคเคาน์ LinkedIn ส่วนแอคเคาน์ทวิตเตอร์นั้น เจ้าตัวก็เลิกเล่นมานานแล้ว
ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงการใช้งานโซเชียลมีเดียทั้งสองยี่ห้อในปัจจุบันก็พบว่า ผู้ใช้งาน Vine นั้นสามารถล็อกอินเข้าใช้ Vine ได้ผ่านแอคเคาน์ทวิตเตอร์ จะมีก็แต่ผู้ใช้งาน Vine รุ่นแรกๆ ที่มียูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ดแยกต่างหากกัน ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งว่า ทำไมแอคเคาน์ของแจ็ค ดอร์ซีย์ถูกเจาะเข้าใช้งานได้
นอกจากนี้ ทวิตเตอร์เองได้เคยให้คำแนะนำในการปกป้องแอคเคาน์ของผู้ใช้กับสื่อต่าง ๆ มากมายหลายสำนัก การที่ซีอีโอของบริษัทตกเป็นเหยื่อของกลุ่มแฮกเกอร์จึงทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ซีอีโอคนดังไม่ปฏิบัติตามนโยบายขององค์กรเอง หรือเพราะคำแนะนำดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะต่อกรกับกลุ่มแฮกเกอร์ได้กันแน่
สำหรับ Vine เป็นโซเชียลมีเดียสำหรับแชร์คลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่เล่นแบบวนลูปได้ ความยาวไม่เกิน 6 วินาที โดยปัจจุบัน Vine มีอัตราการเติบโตค่อนข้างรวดเร็ว อ้างอิงจากข้อมูลล่าสุดเมื่อปลายปี 2015 พบว่ามีผู้ใช้งานเป็นประจำแล้วถึง 200 ล้านคน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2012 เท่านั้น
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000069306