เมื่อปัญหาสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว (วัยรุ่น) กว่าที่คิด

โฆษณา 3 เรื่องของบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (เอ็กโก) ทั้งชุดรถติด ผมเสียทรง และเป็นสิว ล้วนเป็นเรื่องที่ใครเห็นโฆษณาช่วงต้นก็คงคิดไม่ถึงว่าปัญหาเสื้อผ้าหน้าผมของวัยรุ่น จะถูกหักมุมไปสู่ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหาระดับโลกไปได้ แต่ด้วยเหตุผลที่นำเสนอในภาพยนตร์โฆษณา ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นเหตุเป็นผลกันได้จริงๆ และที่แน่นอนกว่า คือการเป็นเหตุผลที่กลุ่มเป้าหมายอย่างเด็กนักเรียน ม.ปลาย ถึงเด็กมหาวิทยาลัย ยอมรับฟังอย่างเต็มใจ

ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ว่า เมื่อธรรมชาติเสียสมดุล…อากาศแปรปรวนทำให้ผลเสียทรง เกิดมลพิษทำให้เป็นสิว หรือป่าถูกทำลายคนย้ายเข้าเมืองจนเป็นสาเหตุให้รถติด มุมมองขำๆ เชิงเสียดสีกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อปัญหาในชีวิตประจำวันของวัยรุ่น เลยกลายเป็นโฆษณาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงกลางปีนี้

เอ็กโก กรุ๊ป เจ้าของโฆษณาชุดนี้ มีวัตถุประสงค์ต้องการหาหนังโฆษณาที่สื่อถึงเด็กวัยรุ่นโดยตรง เพื่อให้ล้อไปกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่กำหนดไว้ตามความเชื่อที่ว่า “ต้นทางดี จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี” และหากจะเริ่มต้นสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเปลี่ยนแปลงให้คนหันมาตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก็ควรจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งก็คือกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต

งานนี้ตกเป็นหน้าที่ของบริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ต้องรับหน้าที่ไปหาวิธีการเพื่อให้การสื่อสารถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

ภาพยนตร์โฆษณาทั้ง 3 เรื่อง ไม่ได้เน้นให้แค่ดูแล้วขำ แต่เป็นโฆษณาที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มเป้าหมายจดจำได้ว่าต้นเหตุของปัญหาในชีวิตประจำแต่ละเรื่องที่พวกเขามองว่าเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่สำหรับตัวเองนั้น มีต้นตอมาจากปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่กว่า ที่สำคัญเป็นปัญหาที่พวกเขาอาจจะไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลย ไม่ว่าการเกิดสิวบนใบหน้าของเด็กสาว ผมที่ใช้เวลาเซตเป็นวันๆ ต้องเสียทรงในพริบตา หรือแฟนสาวที่นัดไว้มาสายเกินไป

จุดที่ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดของโฆษณาชุดนี้ คือการกระตุกให้เกิดการฉุกคิดและหันมาตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในวงกว้างได้ตามโจทย์ที่ตั้งไว้ในหมู่เด็กวัยรุ่น

“มีคนพูดเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมมาเยอะ แต่ไม่เคยมีใครพูดกับเด็กตรงๆ จากโจทย์ของเอ็กโกที่ต้องการกระตุ้นจิตสำนึกเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมในกลุ่มเด็กวัยรุ่น จึงมีความยากตรงที่ จะทำอย่างไรให้เด็กรุ่นใหม่ที่ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมเท่าไร มีสำนึกและมุ่งไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามที่ตั้งเป้าหมาย หัวใจคือต้องให้เข้ารู้สึกเป็นมิตร ก็คือเราต้องพูดภาษาเดียวกับเขา”

ต่อ สันติศิริ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงความคิดในการสร้างสรรค์งาน
โฆษณาล้อโฆษณา=ได้กับได้

จุดเด่นของโฆษณาชุดนี้อยู่ที่การเป็นโฆษณาล้อโฆษณาที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนักในเมืองไทย ซึ่ง ต่อ บอกว่า วิธีนี้เป็นเรื่องปกติที่ทำกันในเมืองนอก และให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยเฉพาะกับงานชุดนี้แม้ไม่ได้ตั้งใจจะใช้วิธีล้อโฆษณาตั้งแต่แรก

“มันเริ่มจากกลุ่มเป้าหมาย เราต้องพูดกับคนที่ไม่สนใจเลย เดินอยู่ในห้าง ประเภทเรื่องป่าไม่เกี่ยวกับผม เพราะฉะนั้นวิธีการต้องให้เขาสะดุดจริงๆ ด้วยภาษาของเขา วัตถุประสงค์หลักเราต้องการให้เด็กรับ งานก็เลยต้องออกมาในแนวตลก ฉีก แซว แบบที่เราเซอร์เวย์มาแล้วว่าเป็นแนวที่เด็กกลุ่มนี้ชอบที่สุด เพื่อให้เขารู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน พอพูดอะไรเขาจะฟังมากขึ้น และผมว่างานนี้สำเร็จเพราะเด็กเข้าใจว่าเรากำลังพูดกับเขา เพราะอย่างนั้นจะมีเสียงติบ้างก็ไม่เป็นไร”

จุดที่ยากอีกจุด ก็คือ จะเอาปัญหาอะไรมาพูดกับวัยรุ่น เพื่อจะโยงไปเรื่องสิ่งแวดล้อม ถ้าจะให้เสนอปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวบอกเล่าต้นเหตุผลลัพธ์แบบเดิมๆ คงไม่มีวัยรุ่นที่ไหนให้ความสนใจ

ปัญหาของวัยรุ่น ที่พบกันบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม จากการทำสกอร์บอร์ดของทีบีดับบลิวเอเรื่องสิวมาเป็นอันดับหนึ่ง และเป็นที่มาที่ทำให้หมัดเด็ดของโฆษณาชิ้นนี้ไม่ได้จบแค่เนื้อหา แต่ถูกเสริมด้วยเทคนิคการล้อโฆษณาดังของสินค้าวัยรุ่นที่ฮือฮามาก่อนหน้านั้นมาเป็นแรงดึงดูดเพิ่มขึ้น

“ล้อโฆษณาเมืองนอกทำเยอะ มันสนุก แล้วได้ทั้งสองฝ่าย ก็เหมือนกับแซวกัน เห็นแล้วหัวเราะ ก็ได้บวกได้ สังเกตเลยว่าปีหนึ่งคุณดูโฆษณากี่ร้อยเรื่อง มีกี่เรื่องที่เอามานั่งคุยบนโต๊ะกินข้าว หรือทำให้คนมี Engage Conversation หนังโฆษณาที่หยิบมาพูดก็จะถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว ทุกคนได้หมดถ้าทำให้น่าสนใจขึ้น”

หมออ้อย หมอสิวขวัญใจวัยรุ่นจากโฆษณาสมูธอี จึงถูกเชิญตัวมาแสดงในโฆษณาของเอ็กโกเรื่องเป็นสิว

“โฆษณาเก่าเขาป๊อปปูล่าอยู่แล้ว จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจจะล้อหรอก ปัญหาสิวมาเด่น ก็หาว่าใครเด่นเรื่องสิว ใครที่เด็กๆ นึกถึง จุดประสงค์ต้องการสื่อสารกับเด็กให้ได้ผลที่สุด ก็ต้องเลือกอะไรที่เด็กจะรู้สึกมีส่วนร่วมที่สุด” ต่อ เล่าถึงที่มาของโฆษณาเรื่องเป็นสิว
งานนี้นอกจากเอ็กโกจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มวัยรุ่น หมออ้อย หมอสิวชื่อดังจากโลกโฆษณาก็ย่อมทำให้คนนึกถึงสินค้าแบรนด์เดิมที่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์มาก่อนด้วยเช่นกัน และนี่คือคำว่าได้กับได้นั่นเอง

ส่วนโฆษณาที่ให้ผลตามวัตถุประสงค์เกินร้อยเช่นนี้ แม้จะฉายแค่ช่วงสั้นๆ ในฟรีทีวี แต่คนสำหรับคนที่พลาดไปก็มีโอกาสหาดูซ้ำได้เพราะทั้ง 3 เรื่อง จะนำไปฉายซ้ำในทีวีที่ติดตั้งในรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นสื่อหลักที่กลุ่มเป้าหมายของโฆษณาชิ้นนี้ใช้บริการเป็นประจำเช่นกัน

เฟสที่ 1
วัตถุประสงค์ กระตุก
กิจกรรม ภาพยนตร์โฆษณาชุดแรก 20 พ.ค. – กลาง มิ.ย. 51 ชุดที่ 2 กลาง ส.ค. – ก.ย. 51 และโฆษณาทางหนังสือพิมพ์

เฟสที่ 2
วัตถุประสงค์ กระตุ้น
กิจกรรม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมโครงการรักษ์ต้นน้ำด้วยผืนป่า (30 ก.ค. – 3 ส.ค. 51) และกิจกรรมพิเศษ “เพาะความคิด ปลูกจิตอนุรักษ์” สำหรับเด็กประถม ค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ห่า สำหรับเด็กมัธยม และ ลดโลกร้อนด้วยวิถีพอเพียง สำหรับสถาบันการศึกษาครูและนักเรียนสำหรับเด็ก ม.ปลาย และอุดมศึกษา

เฟสที่ 3
วัตถุประสงค์ ส่งเสริมและสนับสนุน
กิจกรรม ผ่านเครือข่าย EGCO Group Green Blood

Credit
Title รถติด/ผมเสียทรง/เป็นสิว
Advertiser เอ็กโก กรุ๊ป
Agency บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด
Executive Creative Director ต่อ สันติศิริ, ม.ร.ว.ธีรเดช รัชนี
Copy Writer จารุนันทน์ ทรัพย์สารสิน, อภิรักษ์ แพงศรีภิรมย์
Art Director บุญช่วย ติรวิบูลสิน
Production House MUM Film
Film Director สุธน เพ็ชรสุวรรณ