ทดลองตลาดมาร่วมปีแล้วสำหรับเมนู The Signature Collection ของแมคโดนัลด์ แม้ดูเป็นชื่อเมนูใหม่ แต่ที่จริงแล้วก็คือเมนู My Burger ที่ได้เคยทดลองตลาด 37 สาขาเพื่อทำการศึกษา ในตอนนั้นสามารถปรับเพิ่มส่วนผสมได้ตามใจชอบ ก่อนที่จะมั่นใจแล้วจึงปรับเป็นเมนูถาวร และจำหน่ายทุกสาขา โดยที่ได้วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา
แมคโดนัลด์ได้วางจุดยืนให้ The Signature Collection เป็นเมนูระดับพรีเมี่ยมที่ราคาอยู่ที่ 199-209 บาท/ชุด เพื่อตอบรับกับการแข่งขันในตลาดที่มีร้านเบอร์เกอร์เกิดขึ้นมากมายทั้งในรูปแบบของฟูดทรัก หรือร้านอาหารทั่วไปที่เพิ่มเมนูไลน์เบอร์เกอร์เข้ามาเพิ่มมากขึ้น ทำให้แมคโดนัลด์เองก็ต้องปรับตัวในในเรื่องเมนูที่มีความพรีเมียมเพื่อยกระดับแบรนด์ และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค
ด้วยร้านเบอร์เกอร์ที่มีมากขึ้น และพฤติกรรมการบริโภคที่สูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดเบอร์เกอร์ในปี 2558 ที่ผ่านมาเติบโตถึง 14% มีมูลค่า 7,362 ล้านบาท จากตลาดรวมร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR ที่มีมูลค่า 37,000 ล้านบาท มีการเติบโต 10%
เพชรัตน์ อุทัยสาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท แมคไทย จำกัด “เมนูนี้เป็นเมนูพรีเมียมที่สุดของแมคโดนัลด์ที่เคยทำมา ความสำคัญก็คือต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการทาน ช่วยกระตุ้นเทรนด์การทานเบอร์เกอร์ให้กลับมาคึกคัก และปรับภาพลักษณ์ให้แมคโดนัลด์ดูพรีเมียม และดูอินเทรนด์มากขึ้น”
The Signature Collection จะมี 2 เมนูด้วยกันก็คือ เนื้อแองกัส และหมูคุโรบูตะ ในชุดจะมีเฟรนช์ฟรายส์ และน้ำอัดลมรีฟิว โดยที่แพ็กเกจจะไม่แตกต่างจากตอนเมนู My Burger มากนัก เสิร์ฟบนถาดไม้ และแพ็กเกจใช้สีดำ พร้อมตัวอักษรสีทองเพื่อให้ดูพรีเมียม
ปัจจุบันแมคโดนัลด์มีสาขารวมทั้งหมด 231 สาขา ในปีนี้เปิดเพิ่มทั้งหมด 17 สาขา เปิดไปแล้ว 10 สาขา อีกช่วง 1-2 เดือนนี้จะเปิดเพิ่มอีก 7 สาขา เป็นแบบไดร์ฟทรู 2 สาขา และแบบร้านปกติ 5 สาขา ซึ่งทางแมคโดนัลด์เองยังไม่มีนโยบายหาพันธมิตรเพิ่มเพื่อเพิ่มสปีดในการขยายสาขา
เจาะเบื้องหลัง เมนู The Signature Collection
กว่าจะมาเป็นเมนูที่พรีเมียมที่สุดของแมคโดนัลด์ ทางแบรนด์ได้ศึกษาและพัฒนาเมนูอยู่ 2 ปี โดยได้คอนเซ็ปต์จากเมนู Create Your Taste ในประเทศออสเตรเลีย อเมริกา และสิงคโปร์ ที่สามารถดีไซน์เบอร์เกอร์ของตนเองได้ตามใจชอบ ปรับเพิ่มหรือลดส่วนผสมเบอร์เกอร์ได้
แต่ทว่าติดข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาในการทำเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นอยู่ที่ราว 30 นาที และพอมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมคนไทยแล้วจึงไม่เหมาะกันเท่าไหร่ เพราะคนไทยไม่ชอบเปลี่ยนแปลงส่วนผสมอะไรมากมาย ทางแมคโดนัลด์จึงปรับให้เป็นเมนู My Burger ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ Personalize อยู่ แต่มีท็อปปิ้งในเลือกเพิ่มอยู่อย่างเบคอน ชีส เห็ด เป็นต้น
My Burger ได้เริ่มวางจำหน่ายพร้อมกับการเปิดป็อปอัพสโตร์ใจกลางเมืองแห่งแรกของแมคโดนัลด์เมื่อเดือนธันวาคม 2558 และนำเมนูนี้จำหน่ายอยู่ 37 สาขา
เมื่อแมคโดนัลด์มีความมั่นใจว่าเมนูนี้สามารถไปต่อได้ จึงยกระดับขึ้นเป็นเมนูถาวรที่จำหน่ายทุกสาขา 231 สาขา จะมีเพียงบางสาขาราว 10 สาขาเท่านั้นที่ไม่ได้จำหน่าย เพราะอาจจะไม่ได้เปิดทำการทุกวัน หรือเป็นร้านขนาดเล็ก
หลังจากที่ได้ทดลองตลาดมาเกือบ 1 ปีนั้น มียอดขายจากการจำหน่ายเมนู My Burger กว่า 5,000 ชุด แบ่งเป็นเมนูเนื้อแองกัส 62% และเมนูหมูคุโรบูตะ 38% ส่งผลให้ยอดขายรวมเติบโต 10% ในปีนี้ทางแมคโดนัลด์ก็ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขาย 10% จากเมนู The Signature Collection ด้วยเช่นกัน