เมื่อตลาดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซองอยู่ในภาวะ “อิ่มตัว” ทำให้ผู้ผลิตอย่าง “ไวไว” จึงต้องแก้โจทย์ ด้วยการส่ง “ควิก” ลงตลาด “พรีเมียม”
“ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะต้องแข่งกันที่นวัตกรรมและรสชาติ และการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง เพราะตลาดเดิมที่เป็นซองราคา 6 บาทนั้นเริ่มอิ่มตัวแล้ว รวมทั้งยังต้องมีการแข่งขันกันรุนแรงทั้งด้านราคาและโปรโมชั่นด้วย” ยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “ไวไว” หรือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ที่จะออกใหม่เพื่อเป็นการขยายตลาดและสร้างการเติบโต
ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปี 2559 มูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท พบว่าในช่วงสามไตรมาสแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพียง 2% เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่เติบโตมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซอง ยังคงสัดส่วนตามปริมาณสูงสุด 80% แต่เติบโตช้า ส่วนอีก 20% เป็นแบบถ้วย หรือคัพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูง
“ควิก” ชิงส่วนแบ่งตลาด 23%
นอกจากนี้ เมื่อดูผลประกอบการในปี 2559 บริษัทฯ มีอัตราการเติบโต 3% แต่หากแยกเป็นแบรนด์ “ควิก” แล้วเติบโตมากถึง 8% ส่งผลให้มีส่วนแบ่งการตลาดเป็น 23% เพิ่มจากเดิม 1% เป็นการเติบโตในทุกช่องทางการจำหน่าย ทั้งโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรด
โดยสาเหตุที่แบรนด์ “ควิก” มีการเติบโตมากเป็นเพราะการจัดกิจกรรมตลาดอย่างต่อเนื่องและได้รับผลตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค โดยเฉพาะแคมเปญ “ควิกแสบ ปั่นสุด TEEN” และการแจกจักรยานฟิกเกียร์ควิกแสบรุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน จำนวน 500 คัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่เคยมีการทำมาก่อน และจักรยานก็เป็นอะไรที่อยู่ในกระแสความสนใจของตลาดด้วย
ส่ง “ควิก 15 บาท” จับตลาดพรีเมียม
ดังนั้น แผนเบื้องต้นไตรมาสแรกปี 2560 ไวไวจะวางตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “ควิก” แบบถ้วย ราคา 15 บาท เพื่อจับตลาดพรีเมียมขึ้นมาอีก จากเดิมที่มี “ควิก” ถ้วยราคา 13 บาทอยู่แล้ว จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีแบรนด์ “ไวไว” และ “ควิก” แบบซอง จำนวนรวม 21 เอสเคยู และแบบถ้วย หรือคัพ 2 เอสเคยูเท่านั้น ขณะที่ในปีนี้ไม่ได้มีการวางตลาดรสชาติใหม่เลย
ยศสรัล ประเมินว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2560 น่าจะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นกว่าในปี 2559 หลังจากที่อยู่ในภาวะชะลอตัวมาแล้วหลายปี โดยคาดว่าทุกแบรนด์ในตลาดจะกลับมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกันมากขึ้นและเต็มที่ หลังจากที่ปลายปีนี้บริษัทฯ ก็ต้องยกเลิกกิจกรรม หรืออีเวนต์ต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นบันเทิงอย่างคอนเสิร์ตออกไป ส่งผลให้งบประมาณด้านการตลาดที่ตั้งไว้ทั้งปีนี้ที่ 300 ล้านบาทจึงใช้ไม่หมด แต่ไม่ได้โยกไปใช้ปีหน้า แต่กำลังอยู่ระหว่างการวางแผนธุรกิจและจัดสรรงบประมาณ
เลื่อนเปิดร้าน ควิก เทอเรซ สาขาแรกปี 60
ในปี 2560 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่คือร้านอาหารแบรนด์ “ควิก เทอเรซ” อย่างเป็นทางการ จากเดิมที่จะเปิดตัวปลายปีนี้สาขาแรก แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปเพราะอยู่ในช่วงเวลาของการแสดงความอาลัย
ที่มา : http://astv.mobi/A9UVCDa