ธุรกิจรถทัวร์เป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรอบด้านมาตลอด 2-3 ปีมานี้ ตั้งแต่โครงการรถคันแรก ความนิยมของรถตู้ต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น และสายการบินโลว์คอส ทำให้ธุรกิจคมนาคมมีการแข่งขัดกันดุเดือด ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น หลายคนก็เปลี่ยนใจจากรถทัวร์ไปใช้บริการอย่างอื่นแทน มีการประเมินว่าธุรกิจรถทัวร์มีการเติบโตลดลงเฉลี่ยถึง 30% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ทำให้ในช่วง 3 ปีหลังของ “นครชัยแอร์” ต้องดิ้นเพื่อหาทางออกใหม่ๆ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็น “ประชาสัมพันธ์” เพื่อให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้นครชัยแอร์ไม่เคยใช้งบในการทำ PR มาก่อน รวมทั้งก็ต้องชะลอแผน “การเข้าตลาดหลักทรัพย์” ซึ่งมีแผนจะเข้าตลาดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
“เครือวัลย์ วงศ์รักมิตร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด บอกว่าโดยปกติแล้วแผนธุรกิจของนครชัยแอร์จะอยู่เพียงแค่แตกเส้นทางโดยสารให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร รวมถึงปรับลดราคาค่าโดยสารตามสภาวะราคาของน้ำมันในตลาด ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการปรับราคาค่าโดยสารถึง 3 ครั้ง เฉลี่ย 11%
แต่แค่แตกไลน์เส้นทางใหม่คงไม่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจอีกต่อไปแล้ว ทำให้ความท้าทายของนครชัยแอร์ในตอนนี้ต้อง “แตกไลน์ธุรกิจใหม่” เพิ่มเติม เพิ่มปั๊มรายได้จากช่องทางใหม่ให้เพิ่มขึ้น และเป็นรายได้ที่เสถียรมากกว่าธุรกิจรถทัวร์ แต่ยังคงควบคู่กันไปได้
“ในช่วง 3 ปีหลังมานี้เป็นช่วงขาลงของธุรกิจรถทัวร์ ปี 58-59 เป็นปีที่ต้องดิ้นรนหนักมาก ทั้งเรื่องเศรษฐกิจไม่ดี ธุรกิจมีการแข่งขันสูง และลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น แต่ก็เชื่อว่าธุรกิจรถทัวร์ก็ยังไม่ตาย ยังสำคัญกับคนมีรายได้น้อยอยู่ นครชัยแอร์จึงต้องรักษามาตรฐาน และมีบริการใหม่ๆ ออกมาอยู่เสมอ รวมถึงแตกธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มด้วย” เครือวัลย์กล่าว
ตอนนี้นครชัยแอร์ได้แตกไลน์ธุรกิจมาแล้ว 3 ธุรกิจ ได้แก่ ออลไทย แท็กซี่, สินค้าของที่ระลึก และโลจิสติกส์ ธุรกิจสินค้าของที่ระลึกและโลจิสติกส์เป็นการเสริมธุรกิจรถทัวร์อยู่แล้วแต่เสริมบริการให้มากขึ้น โดยสินค้าของที่ระลึกจะเป็นแบรนด์นครชัยแอร์
ก่อนหน้านี้ใช้สำหรับให้ลูกค้าที่เป็นสมาชิกแลกรับของเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้ผลิตสินค้าเพิ่มเติมสำหรับคนเดินทาง เพื่อให้ใช้ประโยชน์ตอนเดินทางได้ ส่วนโลจิสติกส์เป็นการส่งพัสดุด่วน ทั้งอาหาร หรือสินค้า รับส่งสินค้าข้ามจังหวัดไปกับรถทัวร์ได้ ต่อไปจะเพิ่มสถานที่สำหรับรับ–ส่งพัสดุตามแหล่งชุมชน และห้างสรรพสินค้า ตั้งเป้าเติบโต 50%
รวมถึงธุรกิจล่าสุดนครชัยแอร์เริ่มแตกออกมาก็คือ “ออลไทย แท็กซี่” การเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่น โดยอยู่ในกระแสการเข้ามาทำตลาดของ Uber และ Grab ด้วยพอดี ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 60 ก็จะมีอายุครบ 2 ปีแล้วยังคงมีบริการใหม่ๆ เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าพิเศษ
ในแผนของนครชัยแอร์ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจก็คือ “โรงแรม” ที่ตอนแรกจะลงเสาเข็มในปี 2559 แต่ว่าติดเรื่องกฎหมายต่างๆ ที่ต้องใช้เวลาศึกษาเพิ่มเติม
โรงแรมที่นครชัยแอร์ต้องการสร้างขึ้นนั้นเป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีประมาณ 20-30 ห้อง จะใช้ชื่อว่านครชัยแอร์ โดยลูกค้าหลักมาจากผู้ใช้รถทัวร์ของนครชัยแอร์เอง ดังนั้นทำเลจะตั้งอยู่ใกล้ๆ สถานีเดินรถ 3 จังหวัดแรกที่มองในการเปิด แห่งแรกก็คือขอนแก่น อุบลราชธานี และเชียงใหม่
แต่โปรเจกต์ที่ยังไม่เดินหน้าเพราะติดปัญหาเรื่องกฎหมาย ที่ยังคงต้องใช้เวลาศึกษาอีกสักพัก ภายในปีหน้าอาจจะได้เห็นโรงแรมนครชัยแอร์เป็นรูปเป็นร่าง
ปัจจุบันนครชัยแอร์มีการเดินรถครอบคลุม 38 เส้นทาง ในปีหน้าจะขยายเพิ่ม 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ–อำนาจเจริญ–อ.เขมราฐ (จ.อุบลราชธานี) และกรุงเทพฯ–ยโสธร–อ.ป้าติ้ว (จ.ยโสธร) เฉลี่ยเที่ยววิ่งวันละ 350 เที่ยว มีรถบริการ 400 คัน
ปี 2559 นครชัยแอร์มีรายได้รวม 1,750 ล้านบาท ลดลง 2-3% จำนวนผู้โดยสารเติบโต 7-8% จำนวน 3.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 3.5 ล้านคนในปี 2558 ในปี 2560 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5%