บริษัทโตชิบา ประกาศว่าจะปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่ที่สุด โดยแยกออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ส่งผลให้พนักงาน 30,000 คนจะถูกโบกย้ายไปยังบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่
โตชิบาประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งประวัติศาสตร์ โดยจะแยกธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่ม คือ โครงสร้างพื้นฐาน, พลังงาน, ไอที (เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร) และเครื่องใช้ไฟฟ้า การปรับโครงสร้างนี้จะมีการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ โดยพนักงานราว 24,000 ถึง 30,000 คนจะถูกปรับย้าย โดยมีเพียงพนักงานแผนกวิจัยและพัฒนา และงานบริหารจัดการที่จะยังคงอยู่กับบริษัทโตชิบา
โตชิบาเผชิญผลขาดทุนมหาศาลจาการลงทุนในธุรกิจพลังงานนิวเคีลยร์ในสหรัฐฯ ทำให้สัดส่วนหนี้สินมีมากกว่าสินทรัพย์ ส่งผลให้ไม่เพียงแต่มีความเสี่ยงที่หุ้นของโตชิบาจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์กรุงโตเกียว แต่ยังส่งผลต่อการเข้าร่วมประมูลงานต่างๆ ของรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย
รัฐบาลญี่ปุ่นมีกฎระเบียบว่า งานประมูลของรัฐจะถูกยกเลิกได้ หากบริษัทที่ชนะประมูลไม่สามารถรักษาสัดส่วนสินทรัพย์ที่มั่นคง หรือรักษาข้อกำหนดทางการเงินต่างๆ ได้ ดังนั้นโตชิบาจึงจำต้องแยกธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและธุรกิจพลังงานออกจากบริษัทแม่ เพื่อรักษางานประมูลต่างๆ ไว้
งานชิ้นใหญ่ที่ทางโตชิบาคาดหวัง คือ โครงการปลดระวางโครงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ที่เสียหายยับเยินจากคลื่นสึนามิถล่มเมื่อ 6 ปีก่อน ผู้บริหารโตชิบาจะขออนุมัติการปรับโครงสร้างใหญ่จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนมิถุนายนนี้ และจะเริ่มแยกธุรกิจทั้ง 4 ประเภทในเดือนกรกฎาคมจนเดือนตุลาคม
ก่อนหน้านี้โตชิบาได้ขายธุรกิจทางการแพทย์ออกไป และกำลังขายหุ้นในธุรกิจผลิตหน่วยความจำ โดยคาดว่าการประมูลซื้อหุ้นรอบที่ 2 จะแข่งขันกันดุเดือดระหว่างกลุ่มทุนสหรัฐฯ ที่รัฐบาลญี่ปุ่นให้การหนุนหลัง กับกลุ่มของบริษัทหงไห่ พริซิชั่น จากไต้หวัน ซึ่งร่วมมือกับบริษัทแอปเปิล และซอฟแบงค์ ผู้ให้บริการเครือข่ายการสื่อสารของญี่ปุ่น
โตชิบาประกาศว่าในปีงบประมาณที่แล้ว ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม มีผลขาดทุนถึง 1 ล้านล้านเยน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทของญี่ปุ่นทั้งหมด และเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่มีอยู่ ก็ยังขาดทุนมากกว่า 620,000 ล้านเยน.
ที่มา : http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000041787