พูดถึงเทรนด์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเช่นกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะธุรกิจรีเทล ในหลายปีก่อนได้แจ้งเกิดคอมมูนิตี้มอลล์ แต่ทุกวันนี้มีการพูดถึงอาคารแบบ “มิกซ์ยูส” กันหมด หรือเป็นอาคารที่รวบรวมทั้งที่อยู่อาศัย สำนักงาน และค้าปลีกไว้ด้วยกัน ผู้เล่นรายใหญ่ต่างลงมาเล่นในตลาดนี้หมด
โกลเด้นแลนด์ หรือบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือของ “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” ยังต้องลงมาเล่นตลาดนี้ เพราะประเมินแล้วว่ามีการเติบโต และพฤติกรรมผู้บริโภคตอบรับกับอาคารมิกซ์ยูสมากขึ้น
ได้ประเดิมด้วยโครงการ “สามย่านมิตรทาวน์” เป็นมิกซ์ยูสโครงการแรกของบริษัท หลังจากที่อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มา 39 ปี โครงการนี้รวมคอนโด โรงแรม อาคารสำนักงาน และรีเทล ที่ตั้งอยู่แยกสามย่าน ตรงข้ามกับจามจุรีสแควร์ ด้วยพื้นที่รวม 14 ไร่ ใช้งบลงทุนกว่า 8,500 ล้านบาท ได้สัญญาเช่าที่จากทางจุฬาฯ เป็นเวลา 30 ปี
โครงการของโกลเด้นแลนด์ส่วนใหญ่จะเป็นบ้าน ที่อยู่อาศัย คอนโด ภายหลังได้เริ่มพัฒนาอาคารสำนักงานมากขึ้น รายได้จะมาจากการขาย 80% และการเช่า 20% จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โกลเด้นแลนด์ต้องรุกตลาดโครงการสำหรับเช่าให้มากขึ้นเพราะโครงการที่ขายขาดเมื่อขายแล้วก็หมดไปแต่โครงการสำหรับเช่ายั่งยืนกว่า
การเพิ่มรีเทลเข้าไปเป็นอาคารมิกซ์ยูสจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด และได้เลือกทำเลสามย่านเพราะมองว่าเป็นพื้นที่มีศักยภาพ อยู่ใกล้สถานศึกษา แหล่งช้อปปิ้ง สถานที่ทำงาน และเมืองเก่า มีสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเดินทางง่าย งานนี้ได้ลงทุนเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มด้วยงบ 300 ล้านบาท เพื่อเชื่อมทางเดินจากสถานีเข้ามายังโครงการเลย
ธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า “ก่อนที่จะเปิดตัวโครงการนี้ได้ศึกษาตลาดมิกซ์ยูส 2-3 ปี ตลาดนี้มีความไดนามิกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก แต่พฤติกรรมคนไทยยุคนี้ชอบโครงการแบบมิกซ์ยูสเพราะสามารถใช้ชีวิตได้ กินอยู่ได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะคนเมือง ได้วางจุดยืนให้สามย่านมิตรทาวน์แล้วว่าจะเน้นเรื่องอาหาร และไลฟ์สไตล์ สร้างความแตกต่างในตลาด ไม่ทำห้างแฟชั่น หรือลักชัวรี่ เพราะตลาดมันเต็มแล้ว”
ธนพลเสริมต่อถึงความสำคัญของโครงการมิกซ์ยูสว่า บริษัททำโครงการคอนโด โรงแรม ออฟฟิศมาหมดแล้ว การที่เอารีเทลเข้ามาช่วยเติมเต็มให้มากขึ้น และจะมีรายได้จากการเช่าเข้ามา จะเป็นรายได้ที่ยั่งยืนกว่าแบบขายขาด
จุดยืนของสามย่านมิตรทาวน์เป็นคอนเซ็ปต์ Urban Life Library เน้นเรื่องอาหารการกินเป็นหลัก เพราะสามย่านเป็นแหล่งขึ้นชื่อเรื่องของกินมาเป็นแม็กเน็ตสำคัญดึงดูดผู้บริโภค พื้นที่รีเทลภายในจะประกอบไปด้วยโซนอาหาร 43% โซนการเรียนรู้ 29% และไลฟ์สไตล์ 28%
อาคารมีพื้นที่รวม 222,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 3 โซนหลักด้วยกัน ได้แก่
- โซนรีเทล พื้นที่ 36,000 ตารางเมตร สูง 6 ชั้น คิดเป็น 30% ของโครงการ และมีพื้นที่ฮอลล์อเนกประสงค์ และสวนดาดฟ้าขนาดใหญ่
- โซนอาคารสำนักงาน สูง 32 ชั้น จะเริ่มต้นที่ชั้น 7 มีพื้นที่รวม 48,000 ตารางเมตร คิดเป็น 30% ของโครงการ
- โซนที่พักอาศัย มีดรงแรม และคอนโด สูง 33 ชั้น คิดเป็น 15% ของโครงการ คอนโดจะมี 554 ยูนิต และโรงแรมมี 104 ยูนิต
โซนอื่นๆ 25% ที่จอดรถจำนวน 1,578 คัน
ทางโกลเด้นแลนด์ได้ประเมินศักยภาพของคนในพื้นที่โดยรอบมีมากกว่า 200,000 คน กลุ่มเป้าหมายหลักของสามย่านมิตรทาวน์จะเป็นบุคลากร/นิสิตจุฬาฯ คนในสามย่าน พนักงานออฟฟิศ นักท่องเที่ยว และฟรีแลนซ์ที่ทำงานนอกสถานที่
ตั้งเป้าว่าโครงการจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 คาดมีผู้ใช้บริการ 25,000 คนในวันธรรมดา และ 20,000 คนในวันเสาร์อาทิตย์เนื่องจากใกล้สถานศึกษาเลยมองว่าวันธรรมดาคนน่าจะเยอะกว่า
