“โตชิบา” ผ่าทางตัน ขายธุรกิจชิปให้บริษัทร่วมทุนญี่ปุ่น-สหรัฐฯ-เกาหลี เมินจีน

โตชิบา บริษัทญี่ปุ่นผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังประสบปัญหาผลการดำเนินงานขาดทุนอย่างหนัก จากการขาดทุนยับเยินของธุรกิจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในสหรัฐฯ จนต้องขายหุ้นในธุรกิจชิปหน่วยความจำ ที่เป็น “ห่านทองคำ” ออกไปเพื่อกอบกู้ธุรกิจให้อยู่รอด และได้ตัดสินใจเลือกกลุ่มบริษัทที่นำโดยรัฐบาลญี่ปุ่น ให้เป็นผู้ได้ประมูลในการเจรจาเพื่อซื้อธุรกิจชิปหน่วยความจำของโตชิบา เพื่อปกป้องเทคโนโลยีไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของต่างชาติ

โตชิบามีมติในการการประชุมกรรมการของบริษัทในวันพุธที่ 21 มิถุนายน ให้เจรจาเรื่องการซื้อหุ้นในธุรกิจชิปหน่วยความจำกับกลุ่มบริษัทร่วมทุน ซึ่งประกอบด้วยบริษัทจากหลายชาติ โดยมีแกนนำคือ องค์การความร่วมมือเครือข่ายนวัตกรรมแห่งญี่ปุ่น (Innovation Network Corp) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีรัฐบาลเป็นหุ้นส่วน, ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่น, เบน แคปิตอล บริษัทลงทุนจากสหรัฐฯ และบริษัทเอสเค ไฮนิกซ์ ผู้ผลิตชิปของเกาหลี

โตชิบาออกแถลงการณ์ระบุว่า กลุ่มบริษัทดังกล่าวยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดทั้งในด้านการประเมินมูลค่าธุรกิจ, การคงไว้ซึ่งพนักงานเดิมและการป้องกันเทคโนโลยีไม่ให้รั่วไหลออกนอกญี่ปุ่น

เงื่อนไขหลักที่ทางโตชิบาเสนอต่อผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้น คือ ฝ่ายญี่ปุ่นจะต้องถือหุ้นมากกว่าครึ่งหนึ่งของหน่วยผลิตชิปหน่วยความจำ เพื่อให้บริษัทสามารถรักษาค่านิยมองค์กร, การจ้างงาน รวมทั้งการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีให้ยังอยู่ในประเทศญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญที่ฝ่ายผู้ที่จะซื้อหุ้นต้องคิดหนักคือ มูลค่ากิจการที่ทางโตชิบาเสนอไว้ที่ 2 ล้านล้านเยน ซึ่งขณะนี้ยังตกลงกันไม่ได้ แต่ทางโตชิบาตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มบริษัทดังกล่าวที่การประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 มิถุนายน

หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ขายให้กลุ่มทุนจีน

ในการเจรจารอบแรก บริษัทที่เสนอราคาสูงที่สุด คือ หงไห่ พริซิชั่น ยักษ์ใหญ่จากไต้หวัน ผู้รับจ้างผลิตไอโฟนและมีฐานการผลิตใหญ่ในประเทศจีน หากแต่สมาคมธุรกิจและรัฐบาลญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงอย่างเต็มที่ โดยอ้างว่าหากขายหุ้นให้กับหงไห่ พริซิชั่นจะทำให้สุดยอดเทคโนโลยีของญี่ปุ่นตกไปอยู่ในมือของจีน

รัฐบาลญี่ปุ่นกระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะให้บริษัทญี่ปุ่นต่างๆ ลงขันกันซื้อหุ้นของโตชิบา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนทำให้กองทุนของรัฐบาลและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งญี่ปุ่นต้องจับมือกับกองทุนของสหรัฐฯ และบริษัทของเกาหลี เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ หงไห่ พริซิชั่น ซึ่งซื้อกิจการของบริษัทชาร์ปไปก่อนหน้านี้ ครอบครองกิจการของโตชิบาได้อีก

หากการเจรจาซื้อหุ้นบรรลุผล ทางโตชิบาจะต้องทำเรื่องขออนุมัติจากคณะกรรมการป้องกันการผูกขาดของรัฐบาล จากนั้นต้องนำเงินทุนที่ได้ไปฟื้นฟูกิจการของบริษัทเพื่อไม่ให้มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนติดลบ ซึ่งจะเป็นเหตุให้หุ้นของโตชิบาถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียวได้

ทั้งนี้ โตชิบา เป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก เป็นรองจากบริษัทของเกาหลีเท่านั้น


ที่มา : https://www.manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9600000063518