สำหรับผู้ ประกอบการคนไทยแล้ว Airbnb อาจจ ะไม่ใช่แพลตฟอร์มยอดฮิตเบอร์ต้นๆ ในการหาที่พักในประเทศไทย แต่สำหรับออสเตรเลีย Airbnb กำลังถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุ หนึ่งของการทำให้บ้านเช่ าของชาวเมืองท้องถิ่นมี จำนวนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ กำลังกลายเป็นกรณีศึกษาถึงด้ านมืดของ Sharing Economy ที่ชาวเมืองออสเตรเลียกำลั งประสบ
ออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่อ้ าแขนต้อนรับ Airbnb ด้วยความยินดี สำนักข่าว ABC ระบุว่ามีที่พักในออสเตรเลี ยปรากฏอยู่บน Airbnb แล้วกว่า 115,000 แห่ง ทั้งแบบบ้านหลัง หรือห้องเช่า ในจำนวนนี้รวมไปถึงเมืองที่มี ชายหาดสวยงามเช่น Byron Bay และ Hobart ก็มีการนำห้องพักหรือบ้านพักมาเปิดให้บริการบน Airbnb เพิ่มมากขึ้นด้วย
Byron Bay
อย่างไรก็ดี ผลของความนิยมนั้น ส่งผลให้ชาวเมืองท้องถิ่นที่ไม่ มีบ้านเป็นของตนเองประสบปั ญหาเรื่องที่พักมากขึ้นทุกที
มีการสำรวจโดยมหาวิทยาลั ยนิวเซาท์เวลส์ (The University of New South Wales) พบว่าในบรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่ เปิดให้เช่าประมาณ 20,000 หลังของเมืองซิดนีย์นั้น มีถึง 12,000 แห่ง หรือเกินครึ่งที่เป็นการให้เช่าแบบทั้งหลัง
ศาสตราจารย์คริส เพททิต (Chris Pettit) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกล่าวว่า ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความกังวลที่ ว่า “เทคโนโลยีแห่งการทำลายล้าง (Disruptive Technology) นั้นมีด้านดีก็จริง แต่ก็มีด้านมืดด้วยเช่นกัน ตอนนี้ออสเตรเลียกำลังมีปัญหา คนท้องถิ่นไม่สามารถหาบ้านเช่ าได้ในราคาที่เหมาะสม และมองว่าการออกกฎหมายมาควบคุมแพลตฟอร์ม Airbnb อาจเป็นทางหนึ่งในการช่วยสร้ างสมดุลให้เกิดขึ้นได้
ด้านนักวิเคราะห์ Murray Cox เผยว่า การมาถึงของ Airbnb น่าจะกระทบต่อความเป็นอยู่ของชุ มชน เพราะที่พักในย่าน Byron Shire บน Airbnb นั้นเพิ่มจาก 300 แห่งเป็น 1,794 แห่งภายในปีเดียว
เมือง Byron Bay ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะเมืองนี้ นอกจากจะมีชายหาดที่สวยงาม แต่ยังมีป่าฝนขนาดใหญ่ และมีความหลากหลายทางวั ฒนธรรมของผู้คนที่อาศัยอยู่ร่ วมด้วย แต่ทุกวันนี้เป็นเรื่องยากที่ ชาวเมืองจะหาบ้านเช่าระยะยาว 12 เดือนได้จากเมืองดังกล่าว ในขณะที่ผู้อยู่อาศัยเดิมในเมื องนี้บางคนก็หันไปอาศัยอยู่ ในรถแทนเพื่อแก้ปัญหา
การทำให้คนท้องถิ่นที่ เคยทำมาหากินและมีห้องเช่าอยู่ ใน Byron Bay ไม่มีที่พักอาศัยนั้น ก็กำลังทำให้ความหลากหลายทางวั ฒนธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดขายของเมื องต้องสลายไปด้วย เมื่อจุดขายไม่มี สุดท้ายผู้คนก็อาจไม่มาที่ Byron Bay อีก
นอกจากนั้นยังมีกรณีของ ไอโลนา ฮาร์กเกอร์นักดนตรีรายหนึ่งที่ถูกไล่ ออกจากห้องพัก ก่อนเทศกาลคริสต์มาส เนื่องจากเจ้าของหอพักต้องการนำห้องไปให้ บริการบนแพลตฟอร์ม Airbnb แทน และยังมีอีกครอบครัวหนึ่งที่ถู กไล่ออกจากห้องเช่า และไม่สามารถหาที่พักได้ในช่ วงคริสต์มาสเช่นกัน การที่มีคนถูกไล่ออกจากห้องเช่ าก่อนที่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ ยวจะมาถึงกำลังเป็นเรื่องปกติ ของที่นี่ โดยไม่มีใครออกมาพูดเพราะไม่ต้ องการถูกมองเป็นตัวปัญหา และไม่ต้องการติดอยู่ในแบล็คลิ สต์นั่นเอง
ในย่าน Gumtree ก็เป็นอีกย่านหนึ่งที่มีปัญหา โดยพบว่ามีบ้านเช่ าระยะยาวประมาณ 24 แห่งเท่านั้น แต่หากเป็นบ้านเช่าบนแพลตฟอร์ม Airbnb แล้วพบว่าในย่านนี้มีมากกว่า 300 แห่งเลยทีเดียว
ด้าน Brent Thomas จาก Airbnb กล่าวปฏิเสธความรับผิดชอบว่าปั ญหาดังกล่าวไม่ได้มาจากแพลตฟอร์ ม หรือแนวคิดของ Sharing Economy โดยเขาให้เหตุผลว่า มันเป็นเรื่องดีออกที่มีห้องว่ างแล้วสามารถนำมาแชร์กันเพื่ อเป็นรายได้ขึ้นมา
“หากคุณเป็นชาว Baby Boomer ที่ลูกย้ายไปสร้างครอบครัวใหม่ แล้ว คุณจะมีห้องว่างเหลือแน่นอน ซึ่งการนำห้องว่างนั้ นมาหารายได้เพื่อจ่ายค่าบั ตรเครดิต หรือจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้านจะเป็นสิ่งที่พบเห็ นได้มากขึ้น เช่นเดียวกัน ถ้าคุณเป็นครอบครัวเหมือนผม และคุณอยากจะไปเที่ยวที่ไหนสั กพัก คุณอาจจะอยากให้บ้านของคุณทำเงิ นไปด้วยในขณะที่คุณไปเที่ยวก็ ได้” Brent กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : https://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000062097
Related