ตลาดทีวี ยังคงดีกรีการแข่งดุเดือดต่อเนื่อง เป็นโจทย์ให้กับผู้เล่นในตลาด ที่ต้องพยายามหากลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ มาสร้างความแตกต่าง เพื่อดึงความสนใจจากผู้บริโภค
เมื่อผู้บริโภคมองหาทีวีที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ หน้าจอใหญ่ขึ้น คมชัดขึ้น ผู้ผลิตทุกรายจึงต้องพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง รองรับ 4K มีหน้าจอใหญ่ หน้าจอโค้ง สมาร์ททีวี อินเทอร์เน็ตทีวี
เมื่อดูตัวเลขภาพรวมตลาดทีวีในปี 2559 มียอดขายราว 3 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นมูลค่าราว 32,000 ล้านบาท โดยมี ซัมซุง จากเกาหลี ครองตลาดส่วนใหญ่
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เทรนด์ของนวัตกรรม OLED TV (โอแอลอีดี ทีวี) มีการเติบโตอย่างมาก ผู้เล่นทีวีต่างลงมาจับจองตลาด เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีจุดเด่นที่เรื่องสีที่สมจริง และภาพลื่นไหล “แอลจี” เป็นผู้ผลิตหน้าจอโอแอลอีดีรายใหญ่ของโลก จึงตีตื้นขึ้นมา แย่งชิงความโดดเด่นในตลาด แต่ผู้เล่นรายอื่นก็เร่งมือพัฒนาเข้าสู่ตลาดไม่แพ้กัน
สำหรับในประเทศไทย แอลจีรุกตลาดอย่างดุดันไม่แพ้กัน แอลจีจึงต้องตอกหมุดย้ำจุดแข็งในเรื่องของ LG OLED TV ให้มากขึ้น ด้วยการหันไปจับมือกับ “ต้นทาง” ของการผลิตคอนเทนต์ในวงการภาพยนตร์ไทย ชูเรื่องนวัตกรรมการกำกับหนัง และการดูหนังผ่าน LG OLED TV เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค
แอลจีได้เลือกจับมือกับ “เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์” ผู้กำกับหนังอินดี้ขวัญใจเด็กแนว ด้วยการสนับสนุนให้เต๋อได้ใช้ LG OLED TV ในการกำกับหนัง ใช้เป็นจอมอนิเตอร์ ได้เห็นมุมมองการถ่ายหนัง กับโปรเจกต์ใหม่ของเต๋ออย่าง Die Tomorrow ภาพยนตร์ขนาดยาวลำดับที่ 5
ได้ร่วมทำคลิปวิดีโอออนไลน์จำนวน 2 คลิปบนเว็บไซต์ยูทิวบ์ ได้แก่ “คู่กรรม Nawapol x LG OLED TV” และ “เรื่องมืดๆ นอกโรงของเต๋อ นวพล by LG OLED TV” เนื้อหาในคลิปจะมีทั้งเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ของเต๋อที่มีทีวีเป็นจอมอนิเตอร์ และพูดถึงเรื่องราวการทำหนัง
ทั้งนี้ แคมเปญนี้มีเฉพาะในประเทศไทย อาจจะเป็นเพราะว่าคนไทยชอบดูวิดีโอคอนเทนต์ และชอบติดตามอินฟลูเอ็นเซอร์คนดังบนโลกออนไลน์ ทางแอลจีจึงจับจริตคนไทยด้วยการทำแคมเปญออนไลน์ออกมา เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภค โดยใช้เบื้องหลังของหนังเป็นตัวจุดประกายความสนใจ