เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถมีมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งทางการตลาดสูง แต่เบอร์เกอร์ คิง ก็ไม่หวั่น เดินหน้ารุกขยายไดร์ฟทรูเต็มที่ หวังเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้ได้ 30%
หลังจากที่ เบอร์เกอร์ คิง แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดจากอเมริกา ได้จับมือร่วมกันกับปั๊มน้ำมันเอสโซ่เปิดสาขาในโมเดลไดร์ฟทรูในปั๊มน้ำมัน จนขยายได้ครบ 10 สาขาโดยพบว่ามียอดขายโตขึ้นกว่า 28% ทำให้เบอร์เกอร์ คิงเตรียมทุ่มงบอีกกว่า 500 ล้านบาท เดินหน้าขยายสาขาไดร์ฟทรูเพิ่มอีก 20 สาขาในปีหน้า (2561) ภายใต้งบการลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 25 ล้านบาท เพื่อหวังสร้างฐานลูกค้าใหม่เพิ่มจากเดิมอีก 30% โดยจะเน้นเปิดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก
ประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไมเนอร์ฟู้ด กล่าวว่า หลังจากที่ใช้กลยุทธ์ในการขยายสาขาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละทำเล ทำให้ยอดขายแข็งแกร่งและมีจำนวนลูกค้าเติบโตมากขึ้นชัดเจน สามารถเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากไดร์ฟทรูถึง 28% ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าลูกค้าชอบความสะดวกสบายมากขึ้น แม้ว่าจะมีคู่แข่งทางการตลาดสูง แต่เบอร์เกอร์ คิงยังคงมีจุดแข็ง โดยเน้นการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในราคาที่จับต้องได้
โดยหลังจากที่เปิดไดร์ฟทรูมาได้ 4 ปี เบอร์เกอร์ คิงได้มีลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นคือกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการปั๊มน้ำมัน และเดินทางสัญจร ทางรถยนต์ จากเดิมที่มีเพียงฐานลูกค้าต่างชาติและกลุ่มคนทำงานเท่านั้น
ในขณะที่การขยายสาขาของ เบอร์เกอร์ คิง นั้นยังคงจับมือพันธมิตรกับเอสโซ่ต่อ แต่ก็ไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ในปั๊มเอสโซ่เท่านั้น เพราะถ้าหากมีปั๊มน้ำมันอื่น เช่น ปตท เชลล์ บางจาก หรือคาลเท็กซ์ สนใจ ก็สามารถติดต่อร่วมกันได้
ปัจจุบัน เบอร์เกอร์ คิง มีสาขา 80 แห่ง ในประเทศไทย และ อีก 6 สาขาในอีก 3 ประเทศ โดยในไทยแบ่งเป็นสาขาในสนามบิน 13 สาขา ร้านไดร์ฟทรู 19 สาขา และที่เหลือเป็นร้านนั่งรับประทาน และจะขายเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 20 สาขา ภายในปี 2561