สตาร์ตอัพเป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ และเหมือนจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เสียด้วย แต่อุปสรรคใหญ่ของเหล่าสตาร์ตอัพไทยก็คือ ไม่สามารถประคองตัวเองให้อู่รอด เพราะขาดเงินทุน ขาดการสนับสนุน จนล้มหายตายจากไป เหลือเพียง 1% เท่านั้นที่สามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ เพราะมีเงินลงทุนจาก VC ที่จะทำธุรกิจอย่างเพียงพอในแต่ละรอบของการหาเงินทุน ดังนั้นการที่สตาร์ตอัพจะอยู่รอดและเติบโตได้ ต้องเข้าใจกองทุน หรือ VC ว่ามองหาอะไรในตัวสตาร์ตอัพไทย
ดีแทค แอคเซอเลอเรท ซึ่งเป็นโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพ จึงได้เชิญ เจฟฟรี เพย์น ผู้ร่วมก่อตั้งและนักลงทุนชื่อดังของ Golden Gate Ventures ซึ่งลงทุนในสตาร์ตอัพทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาถ่ายทอดในหัวข้อ “VC ต่างชาติมองหาอะไร…ในสตาร์ตอัพไทย”
6 ปัจจัยที่ VC ต่างชาติมองหาสตาร์ตอัพเพื่อลงทุน คือ
- Team (การทำงานเป็นทีม) – การมีทีมงานที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเปิดใจพร้อมที่จะถูกเทรนหรือโค้ชตลอดเวลา และมีความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจและมีความโฟกัสในการทำธุรกิจของตัวเอง
- Market Opportunity (โอกาสการทำธุรกิจหรือตลาดใหม่) – เงินทุนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงและต้องดู ยอดขายของธุรกิจว่ามีอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน รวมถึงเข้าใจมูลค่าทางธุรกิจของตนเอง
- Defensibility (การป้องกันธุรกิจของตน) – ต้องตรวจสอบว่าธุรกิจของเราง่ายที่จะถูกคัดลอกไหม เพื่อป้องกันคู่แข่งไม่ให้ลอกเลียนแบบธุรกิจและต้องสร้างความแตกต่าง
- Capital/Margins (เงินทุน) – ความคุ้มค่าของการลงทุนในธุรกิจและต้องคำนวณเรื่องการใช้เงินว่าต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหนกว่าจะคืนทุน
- Country For Follow On (ประเทศหรือผู้ลงทุนต่อเนื่อง) – มีผู้ลงทุนในตลาดเพียงพอหรือไม่เพื่อที่จะให้สตาร์ตอัพไต่ไประดับที่สูงกว่า
- Exit Potential (จุดหมายสำคัญของธุรกิจ) – เป้าหมายของสตาร์ตอัพว่า ในที่สุดแล้วจะขายกิจการ หรือเอากิจการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
3 เคล็ดลับในการทำสตาร์ตอัพให้มัดใจ VC
- Be Yourself (เป็นตัวของตัวเอง) – โชว์ศักยภาพของสตาร์ตอัพให้เยอะที่สุด บอกจุดแข็งของตัวเองและความจริงใจต่อผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ
- Family Oriented (การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน) – เป็นจุดแข็งที่สตาร์ตอัพควรรักษาเอาไว้ ความเป็นครอบครัวเดียวกัน ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างสตาร์ตอัพกันเอง
- Understanding Cultural Differences (ความแตกต่างทางสังคมและวัฒนธรรม) – สตาร์ตอัพจะไปไกลได้ถ้าพัฒนาในเรื่องของภาษาและเดินทางออกไปต่างประเทศ เพื่อหามุมมองในการทำธุรกิจที่กว้างมากขึ้นหรือมองเห็นภาพใหญ่มากขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าในระดับสากลหรือในภูมิภาค
สตาร์ตอัพรุ่นพี่ แชร์เคล็ดลับ
ทางด้าน กิตตินันท์ อนุพันธ์ ผู้ก่อตั้ง Claim Di บริการเคลมประกันภัยรถยนต์ได้ทุกประเภท และเป็นสตาร์ตอัพที่ Golden Gate Venture ลงทุนในระดับ Seed และ Series A อย่างต่อเนื่อง กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติต้องการในตัวสตาร์ตอัพไทย คือ Visibility หรือ การทำให้นักลงทุนต่างชาติมองเห็นศักยภาพของสตาร์ตอัพ เช่น การไป pitch บนเวทีต่างๆ ทำตัวให้นักลงทุนมองเห็น ทำให้นักลงทุนสนใจและอยากร่วมลงทุนด้วย
ข้อสองคือ ความเติบโตทางธุรกิจ ที่สามารถวัดได้ในระยะเวลาเป็นวัน สัปดาห์ หรือเดือน เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะมัดใจ VC และทำให้เกิดความแตกต่างจากคู่แข่ง และสุดท้ายคือ การประเมินมูลค่าบริษัทตนเองได้ตรงตามที่ VC ต่างชาติมองหาและต้องการในทิศทางเดียวกันและทำให้นักลงทุนต่างชาติเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และเข้าใจในมูลค่าของบริษัทที่ตรงกัน”
