ไม่มีใครยอมใคร ระหว่าง 2 ค่ายเครื่องดื่ม “สิงห์ และช้าง” ที่เปิดศึกทั้งในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยังมาชิงความเป็นผู้นำในตลาด “น้ำดื่ม” มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท จนกลายเป็น “ทะเลเดือด” กันเลยทีเดียว
“คริสตัล” ของค่ายไทยเบฟฯ ออกมาระบุในงานแถลงผลวิจัยและจัดอันดับแบรนด์ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสูงสุดประจำปี 2559” ในกลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภคที่มีอัตราการบริโภคสูงหรือ FMCG ซึ่งคริสตัลได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ของแบรนด์ดาวรุ่งแห่งปี
“คริสตัล” ได้ออกมาระบุล้มแชมป์ “น้ำสิงห์” ได้แล้ว ด้วยส่วนแบ่งตลาด 21.5% เบียดสิงห์แชมป์เก่าหล่นไปอยู่ที่ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 19.9% ตามมาด้วยเนสท์เล่เพียวไลฟ์ 12.1%
เลสเตอร์ เต็ก ชวน ตัน รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ไทยดริ้งค์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข กล่าวว่า ถึงแม้ภาพรวมในตลาดน้ำดื่มทั้งหมดจะติดลบ 4% แต่คริสตัลยังคงเติบโตสวนกระแสตลาดได้ 10% ทั้งนี้เป็นเพราะการบุกตลาดอย่างหนักในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งการขยายสายการผลิตสินค้า การโฆษณา และการจัดทำแคมเปญต่างๆ ทำให้คริสตันสามารถแย่งแชร์ส่วนแบ่งตลาดในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้มาได้ 21.5% จากเดิมที่มี 19.6% ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในตลาดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีของคริสตัล
กลยุทธิ์หลักของน้ำดื่มคริสตัล เริ่มตั้งแต่ การวาง Positioning ในตลาดน้ำดื่ม ที่มีคู่แข่งมาก แต่ละแบรนด์จะนำเสนอในมุมคล้ายกันคือ “น้ำดื่มใสสะอาด คริสตัล จึงสร้างความแตกต่างว่า “น้ำดื่มไมได้เหมือนกันหมด” ด้วยการวางจุดขายว่า เป็นน้ำดื่มคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตราฐาน NSF จากสหรัฐอเมริกา เป็น Key สื่อสารจากแบรนด์ไปถึงผู้บริโภคผ่านการโฆษณาทั้งออนไลน์ออฟไลน์และแคมเปญต่างๆ ให้เป็นที่จดจำของผู้บริโภค
ขยายฐานการผลิตสินค้าให้เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 13 แห่งเป็น 15 แห่ง ทั้งของเสริมสุขและโรงงานในเครือไทยเบฟฯ เพื่อรองรับดีมานด์ในตลาดน้ำดื่มที่มีสูงขึ้น เนื่องจากกระแสรักสุขภาพที่มาแรง ซึ่งการขยายการผลิตนั้นจะช่วยให้คริสตัลได้กระจายสินค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น
ก่อนหน้านี้บริษัทได้ลงทุน 350 ล้านบาท ขยายสายการผลิตน้ำดื่มคริสตัลแห่งใหม่ที่โรงงานในอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งโรงงานใหม่นี้ถือเป็นแห่งที่สองที่สุราษฎร์ธานี และได้เริ่มเดินสายการผลิตไปแล้วตั้งแต่ต้นปี กำลังการผลิต 3.6 หมื่นขวดต่อชั่วโมง หรือ 1.2 ล้านลังต่อเดือน
ในปี 2561 คริสตัลจะขยายไลน์การผลิตน้ำดื่มคริสตัลเพิ่มที่โรงงานปทุมธานี เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และอยู่ระหว่างสร้างเพิ่มอีกแห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 12 แห่ง
การออกไลน์สินค้า ด้วยขนาดแพ็กเกจจิ้งหลากหลาย โดยมีทั้งหมด 5 ไซส์และไซส์ที่ขายดีสุดคือขนาด 600 มิลลิลิตร และขนาด1 ลิตร
ช่องทางการจัดจำหน่าย ช่องทางการขายของเสริมสุขที่บวกกับไทยเบฟฯ ส่งผลให้คริสตัลสามารถเข้าถึงร้านค้าได้หลากหลายทั้งร้านเล็กร้านใหญ่รวมไปถึงโมเดิร์นเทรดต่างๆ ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
รวมไปถึงการใช้พรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการจดจำ ทำให้แบรนด์มีความน่าสนใจขึ้นเพราะเป็นคนดังสุขภาพดี เช่น น้ำตาล-วิจักขณา, อเล็ก-ธีรเดช เป็นพรีเซ็นเตอร์ และล่าสุดคือ นาย–ณภัทร เสียงสมบุญ ในปัจจุบัน
สำหรับแผนการทำตลาดช่วงครึ่งปีหลัง 2560 นี้ ยังคงเน้นกิจกรรมส่งเสริมการขายและโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง โดยมี “นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ” เป็นพรีเซ็นเตอร์เช่นเดิม พร้อมกับการขยายกำลังการผลิต
ทำให้มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้ คริสตัลจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 22% และคาดว่าภายในปี 2562 จะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 25% ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดน้ำดื่ม ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท
“สิงห์” ยัน แชมป์แชร์ 23% ครึ่งปีแรก
ในขณะที่ค่ายน้ำดื่ม “สิงห์” ยืนยันว่า เป็นฝ่ายครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 23% ครึ่งปีแรก ในตลาดน้ำดื่มมูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำดื่มตราสิงห์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจน้ำดื่มตราสิงห์ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.60) โตตามเป้าหมาย ซัมเมอร์ยอดขายโต 12%
เป็นผลมาจากการเปิดตัวแคมเปญ “A PART OF YOU น้ำดื่มสิงห์เท่านั้นที่เราเลือก” ด้วยการดึงตัวแทนของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันเข้ามาเป็นอินฟูลเอ็นเซอร์ 5 คน ส่งผลให้แบรนด์เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ดีขึ้น
ขณะเดียวกันได้เพิ่มการผลิตน้ำดื่ม 1 สายการผลิต ที่อยุธยา เพิ่ม 20% จากปัจจุบันมี 8 โรงงาน ครอบคลุมทุกภูมิภาค อาทิ จ.เชียงใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม และ จ.สุราษฎร์ธานี รองรับกับช่วงซัมเมอร์ซึ่งตลาดน้ำดื่มเติบโต 50%
ส่วนดิสทริบิวเตอร์ของกลุ่มบุญรอดฯ มีบรรจุภัณฑ์หลากหลาย และทำกิจกรรมการตลาดต่างๆ และฉลากลิมิเต็ด เอดิชั่นที่มีรูป influencer ออกจำหน่าย การสื่อสารผ่านทางดิจิทัลมีเดีย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ด้วยโรดโชว์ และทำฉลากพิเศษ Tailor Made ด้วยการนำรูปของผู้บริโภคลงบนฉลากน้ำดื่มสิงห์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เพียงขวดเดียวในโลกสำหรับคุณเท่านั้น”
ทั้งหมดนี้ น้ำดื่มสิงห์ครองส่วนแบ่ง 23% ครึ่งปีแรก เป็นผู้นำตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดนาน 25 ปี
สำหรับแผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัวแคมเปญต่อเนื่อง มุ่งขยายฐานและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยครี่งปีแรก ตลาดน้ำดื่มมูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท หรือในเชิงปริมาณ 4,000 ล้านลิตร เติบโตมากที่สุดในกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ คาดว่าทั้งปีตลาดจะเติบโต 10-12% เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพยิ่งขึ้น และจากการทำตลาดในเชิงรุก น้ำดื่มสิงห์มั่นใจว่าครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 23% เป็น 25% ด้วยการมีรายได้เติบโต 16%