เรื่องราวระหว่างพรีเซ็นเตอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ กับเจ้าของสินค้ามีทั้งหวานชื่นและขมขื่น เพราะธุรกิจนี้จ่ายแพงค่าตัวดี แต่ขณะเดียวความอิสระส่วนตัวอาจหายไป
2 กรณีเกิดขึ้นกับ 2 ดารานางแบบที่สะท้อนความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี
กรณีแรก “ห้ามใช้ของคู่แข่ง” เกิดขึ้นแล้วกับ “ชาร์ลิซ เธอรอน” นักแสดงสาวเชื้อสายแอฟริกาใต้ ฝีมือระดับรางวัลออสการ์เมื่อปี 2003 จากเรื่อง Monster ซึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้ามากมาย รวมทั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับนาฬิกาหรู “Raymond Weil” ของสวิตเซอร์แลนด์
ความเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ “Raymond Weil” กำลังจบอย่างไม่สวยงาม เพราะ “เธอรอน” ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหาย 20 ล้านดอลลาร์ฯ หลังจากที่เธอใส่นาฬิกาของ “Christian Dior” ทั้งที่เมื่อครั้งที่เธอเซ็นสัญญากับ “Raymond Weil” เมื่อปี 2005 สัญญาได้กำหนดไว้ว่าเธอต้องใส่นาฬิกาของ “Raymond Weil” เท่านั้นเมื่อเธอปรากฏตัวในที่ หรือในงานสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ที่มีปาปารัชซี่
แต่ในปี 2006 ระหว่างเทศกาลภาพยนตร์ที่ ออสติน เท็กซัส “เธอรอน” ใส่นาฬิกาของ “Christian Dior” และแน่นอนภาพนั้นก็ถูกบันทึกระหว่างแถลงข่าว และลงตีพิมพ์ไปทั่วประเทศในวันรุ่งขึ้น
อีกกรณีหนึ่งคือ “ลดอ้วนซะ” หรือไม่ก็ “เลิกสัญญา”
เคธี กรีน นางสาวของอังกฤษ ถูกบอกเลิกสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ “วันเดอร์บรา” ด้วยเหตุผลที่ว่าถูกบอกว่าเธออ้วนเกินไปและต้องไปลดน้ำหนัก เพราะเธอไม่เหมาะกับ “วันเดอร์บรา” สำหรับสาวผอมเพรียว
แต่ความอวบอ้วนของเธอก็ยังมีประโยชน์ เพราะหลังเลิกสัญญาแล้ว แบรนด์ “อัลติโม” ที่เน้นคอนเซ็ปต์โลกของความเป็นจริงที่หญิงชาวอังกฤษล้วนแต่ร่างใหญ่ ก็คว้า “เคธี กรีน”มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพิ่มเข้ามาในทีมนางแบบบิ๊กไซส์ที่มีอยู่แล้ว อย่าง เมลินดา เมสเซนเตอร์ และเมเลนี บี อดีตสมาชิกสไปซ์เกิร์ล