เดมเลอร์ เปิดตัวต้นแบบ รถไฟฟ้าอัตโนมัติแห่งอนาคต

สมาร์ท วิชัน อีคิว ฟอร์ทู ต้นแบบรถไฟฟ้าอัตโนมัติระดับ 5 จากเดมเลอร์ (ภาพจากเดมเลอร์)

เดมเลอร์ได้ฤกษ์เบิกชัยเปิดตัวต้นแบบรถไฟฟ้าอัตโนมัติระดับ 5 “สมาร์ท วิชัน อีคิว ฟอร์ทู” ครั้งแรกในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์ โชว์ที่จะเริ่มต้นกลางเดือนนี้ เล็งส่งร่วมฟลีตธุรกิจไรด์แชริ่ง “คาร์2โก” ภายในปี 2030

ต้นแบบสมาร์ทล่าสุดสะท้อนกลยุทธ์ “CASE” ของเดมเลอร์ที่ย่อมาจาก “Connected, Autonomous, Shared, Electric” ซึ่งมองไกลถึงอนาคตการเดินทางหลังปี 2030 ที่รถจะสามารถสื่อสารกันได้

อีคิว ฟอร์ทู เป็นสมาร์ทรุ่นแรกที่ใช้แบรนด์อีคิวของเดมเลอร์ โดยพัฒนาต่อยอดจากสมาร์ทรุ่นเดิม แต่เปลี่ยนประตูเป็นจอขนาดใหญ่ เพิ่มจอดิจิตอลที่กระจังหน้า และถอดพวงมาลัยและคันเร่ง/เบรกออก

แอนเน็ตต์ วิงค์เลอร์ ประธานบริหารสมาร์ท บอกว่า อีคิว ฟอร์ทูคือวิสัยทัศน์การเดินทางในเมืองในอนาคต เป็นคอนเซ็ปต์คาร์สำหรับไรด์แชริ่งที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติและไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ มีความสามารถในการสื่อสารและการเชื่อมต่อระดับสูงสุด ใช้งานง่าย และปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล

กระจังหน้าถูกแทนที่ด้วยจอแสดงผล (ภาพจากเดมเลอร์)

การออกแบบอีคิว ฟอร์ทูเริ่มต้นจากไอเดียลูกแก้วติดล้อเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในให้มากที่สุด ภายนอกใช้ตัวถังสีขาว กระจังหน้าถูกแทนที่ด้วยแผงหน้าจอสีดำขนาด 105 x 40 เซนติเมตร สามารถแสดงข้อความทักทายเพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่าเป็นรถที่เรียกไว้ เหมือนกับที่อูเบอร์แจ้งเลขทะเบียนรถที่จะไปรับผ่านแอปบนมือถือ หน้าจอนี้ยังระบุจำนวนผู้โดยสารบนรถเหมือนป้ายไฟหน้ากระจกแท็กซี่ว่ารถว่างหรือไม่ หรือบอกคนเดินถนนให้ข้ามได้

เช่นเดียวกับกระจังหน้า กระจกด้านข้างเป็นจอดิจิตอลที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้โดยสาร และหากไม่มีผู้โดยสารบนรถ หน้าจอนี้จะแสดงข่าว สภาพอากาศ และเวลาสำหรับคนที่ผ่านมาผ่านไป

ห้องโดยสารขนาด 2 ที่นั่งใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากรถอัตโนมัติระดับ 5 รุ่นนี้ไม่มีแป้นคันเร่ง/เบรกและพวงมาลัย ตลอดจนถึงส่วนควบคุมต่างๆ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลใดๆ นอกจากจุดหมายปลายทางโดยใช้สมาร์ทโฟนหรือหน้าจอทัชสกรีนขนาด 24 นิ้วใต้กระจกหน้า

สมาร์ทเลือกใช้หนังสังเคราะห์สีขาวตกแต่งในห้องโดยสารเพื่อให้ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับบริการรถร่วมเดินทาง (Ride-sharing)

ขณะเดียวกัน ความปลอดภัยไม่ใช่เป้าหมายสำคัญอันดับต้นๆ ของอีคิว ฟอร์ทู เนื่องจากในอนาคตจะไม่มีแรงกระแทกจากอุบัติเหตุรถชนกัน ดังนั้น ภายในรถจึงต้องการเพียงเข็มขัดนิรภัยรัดหน้าตักเพื่อลดการกระแทกกระทั้นจากถนนที่ขรุขระเท่านั้น

ตรงกลางระหว่างเบาะนั่งสองที่มีที่วางแขนที่สามารถยกขึ้น-ลงได้ตามใจคนนั่งว่า ต้องการใกล้ชิดสนิทสนมกันหรือไม่

สมาร์ทรุ่นต้นแบบล่าสุดมีความยาวเพียง 2.6 เมตร กว้าง 1.7 เมตร และสูง 1.5 เมตร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางในเมืองที่การจราจรหนาแน่น ประตูแบบเลื่อนขึ้นด้านหลังทำให้เข้า-ออกจากตัวรถในพื้นที่แคบได้ง่ายขึ้น

อีคิว ฟอร์ทูติดตั้งมอเตอร์ไว้ท้ายรถ ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 30 กิโลวัตต์-ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ที่สำคัญรถอัจฉริยะรุ่นนี้สามารถชาร์จไฟอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือเมื่อไม่มีผู้โดยสาร รถจะขับไปยังสถานีชาร์จที่ใช้หลักการเหนี่ยวนำของกระแสแม่เหล็กทำให้ชาร์จไฟได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก

ไฟหน้าและไฟท้ายเป็นไฟ LED แบบปรับแต่งได้ เช่น กราฟิกในไฟหน้าเลียนแบบการหลิ่วตาของคนเพื่อทักทายผู้โดยสารที่กำลังเดินมาขึ้นรถ ขณะที่ไฟท้ายอาจให้ข้อมูลสภาพการจราจรเบื้องหน้าแก่รถคันหลัง

อีคิว ฟอร์ทูออกแบบมาเพื่อให้ใช้ในเมืองเป็นหลัก โดยรถสามารถไปหาที่จอดเองเมื่อส่งคุณลงไปช้อปปิ้ง หรือไปรับลูกจากโรงเรียนแทนคุณ ฯลฯ

ส่วนที่น่าทึ่งที่สุดของอีคิว ฟอร์ทูคือ จุดประสงค์ในการใช้เป็นรถอัตโนมัติสำหรับไรด์แชริ่ง

หากคุณเป็นเจ้าของและอยากแชร์รถใช้ เพียงเลือกฟังก์ชัน 1+1 คาร์-แชริ่ง และเลือกตอบรับหรือปฏิเสธเพื่อนร่วมทางโดยดูจากโปรไฟล์และแผนการเดินทางปัจจุบันของผู้ที่ต้องการร่วมเดินทางด้วย

เช่นเดียวกัน หากคุณไม่ใช่เจ้าของรถ แต่เป็นผู้โดยสารคนแรก คุณจะมีสิทธิ์ตอบรับหรือปฏิเสธผู้ที่จะร่วมเดินทางได้

ดังนั้น ขั้นตอนแรกของผู้ที่ต้องการใช้บริการไรด์แชริ่งของอีคิว ฟอร์ทูก็คือการกรอกโปรไฟล์ของตัวเองในแอป เพื่อให้ระบบจับคู่ผู้ใช้ที่เข้ากันได้จากโปรไฟล์และแผนการเดินทางปัจจุบัน

เมื่อผู้โดยสารทั้งสองคนขึ้นรถ จอขนาดใหญ่ในห้องโดยสารจะแสดงภาพหรือข้อมูลที่ทั้งคู่สนใจเหมือนกัน เช่นคอนเสิร์ตที่เพิ่งดูมาหรือกีฬาที่ชื่นชอบ เพราะจุดประสงค์ของอีคิว ฟอร์ทูคือการเป็นสื่อกลางสร้างมิตรภาพ

เดมเลอร์ดูเหมือนมั่นใจในอนาคตรถไฟฟ้าอย่างมาก โดยบอกว่า ในปี 2022 บริษัทจะผลิตรถไฟฟ้าออกมามากกว่า 10 ล้านคัน ทั้งแบรนด์สมาร์ทและเมอร์เซเดส-เบนซ์

ขณะเดียวกัน ระบบไรด์แชริ่งของอีคิว ฟอร์ทูสอดคล้องต้องกันอย่างยิ่งกับกลยุทธ์ของเมอร์เซเดสที่เป็นเจ้าของบริษัทเช่ารถและไรด์แชริ่ง “คาร์2โก” ที่ทุก 1.4 วินาทีจะมีลูกค้าจากฐานลูกค้าทั่วโลก 2.6 ล้านคน เรียกใช้บริการ และเมอร์เซเดสคาดว่า ฐานลูกค้านี้จะเพิ่มขึ้น 5 เท่าเป็น 36.7 ล้านคนในปี 2025 โดยวิงค์เลอร์สำทับว่า อีคิว ฟอร์ทูพัฒนาขึ้นมาเพื่อรวมเข้ากับฟลีตคาร์2โกภายในปี 2030

ด้วยเทคโนโลยี Swarm ฟลีตรถของคาร์2โกจะให้บริการอย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการคาดการณ์ความเป็นไปได้ของดีมานด์ในช่วงเวลานั้นๆ ผลลัพธ์คือในอนาคตอันใกล้ลูกค้าจะไม่จำเป็นต้องค้นหารถคันต่อไปที่ว่าง แต่รถจะเป็นฝ่ายค้นหาเองและไปรับลูกค้าโดยตรงจากสถานที่ที่ลูกค้าให้ข้อมูลทิ้งไว้


ที่มา : mgronline.com/motoring/detail/9600000091882