แหล่งรายได้ใหม่

ตั้งแต่ปีใหม่ผ่านพ้น ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของไทยก็เปิดแถลงข่าวถึงทิศทางธุรกิจชนิดที่ไล่ตามกันมาติดๆ เริ่มจากค่ายอาร์เอส ที่นำทัพโดย สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ หรือ “เฮียฮ้อ” ถัดมาไม่ถึงสัปดาห์ดี ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ภายใต้การนำของ “อากู๋” ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ออกมาบอกถึงเป้าหมายธุรกิจในปีนี้เช่นกัน

ทั้งสองค่ายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แหล่งที่มาของรายได้ในปีนี้ต้องเปลี่ยนไป เนื่องจากรายได้หลักจากการขายซีดีตกลงต่อเนื่องปีละ 1-2% เพราะปัญหาเทปผีซีดีเถื่อนที่แก้ไม่ตก ภาวะเศรษฐกิจปีนี้ก็ซบเซา ต้องทำธุรกิจด้วยความรัดกุมมากขึ้น ไม่เน้นการขยายธุรกิจ ยุบบริษัทไม่ทำกำไร และหาแหล่งรายได้ใหม่ที่แน่ใจแล้วว่ามีโอกาสเติบโต เช่น “ดิจิทัล ดาว์นโหลด” ถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่ทั้งสองค่ายเชื่อว่าจะมีบทบาทมากขึ้น

ค่ายอาร์เอสนั้น เตรียมควักงบกว่า 20 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาระบบของ “เว็บไซต์ชีซ่าดอทคอม” ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิก 2 ล้านคน และกำลังมีอายุครบ 2 ปีแล้ว โดยได้เพิ่มคอนเทนต์หลากหลายเพื่อให้มีความถี่ในการดาวน์มากขึ้น หรือ Ready To Download (RTD) กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มวัยรุ่นตอนต้น

ขาที่สอง คือ “ธุรกิจบริหารสื่อใน Modern Trade” ทั้ง 5 ราย คือ บิ๊กซี, คาร์ฟูร์, โลตัสเอ็กซ์เพรส, เทสโก้ โลตัส และท็อปส์ ในรูปแบบ TV ที่ลงทุนถึง 60 ล้านบาท และ “ธุรกิจสนามฟุตบอล S-One” ที่สร้างสนามใหม่อีก 2 แห่ง ด้วยเม็ดเงิน 90 ล้านบาท

ฟาก “อากู๋” จะหันมาสร้าง Digital Platform ใช้เป็นช่องทางใหม่ให้กับธุรกิจเพลง เพื่อสร้างรายได้ในรูปแบบ Subscription Model มากขึ้น โดยร่วมกับ ดีแทค ทำแคมเปญ Happy Vampire ดาวน์โหลดเพลงแบบไม่อั้น และปีนี้มีแผนจะขยายความร่วมมือกับ เอไอเอส และทรูมูฟ ผลักดันจำนวนสมาชิกจากทุกเครือข่าย 3-4 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้

อากู๋ ยังบอกชัดเจนว่า ไม่ยอมพลาดรถไฟสายด่วนในโลกดิจิตอล โดยเฉพาะจากการมาของไอโฟน 3 จี และไวแมกซ์ โดยจะพัฒนาระบบให้รองรับกับเทคโนโลยีใหม่

ส่วน New Business ที่แกรมมี่จะขยับลงทุนอย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง คือ ทีวีดาวเทียม หรือ Fan TV โดยใช้งบ 500 ล้านบาท เพิ่มเป็น 5 ช่องในปีนี้ เพื่อให้ครอบคลุมทุก Segment และให้เข้าถึง Lifestyle ผู้บริโภคมากที่สุด

ธุรกิจโชว์บิซ ทั้งสองฝั่งชะลอการนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อลดความเสี่ยง โดยฝั่งอาร์เอสใช้กลยุทธ์จัดคอนเสิร์ตใหญ่ตามฤดูกาล ไม่เน้นแบบดาวกระจาย ด้านแกรมมี่เพิ่มการทำ CRM เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น จัดแล้วต้องมีคนซื้อบัตร เอาชัวร์ไว้ก่อน

“เฮียฮ้อ” เชื่อว่า จากการวางแผนดำเนินงานที่วางไว้อย่างรัดกุมตลอดทั้งปีนี้จะมีการเติบโตขึ้น 10% และรายได้รวม 2,600 ล้านบาท ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาจะขาดทุน 300 ล้านบาทก็ตาม

ส่วน “อากู๋” แม้เป้าปีนี้ไม่โต แต่ต้องพัฒนาดิจิทัล คอนเทนต์ เพราะเป็นตัวสร้างรายได้หลัก ที่มีอัตราการเติบโตถึง 70% และลงทุนกับทีวีดาวเทียม เชื่อว่าเป็นธุรกิจที่จะช่วยสร้างรายได้อีก 3-5 ปีข้างหน้า

RS
กลยุทธ์
– บุกสื่อทางเลือกมากขึ้น In-Store Media, Digital Download และสื่อออนไลน์
– โละทิ้งอาร์เอส ไอ-ดรีม, ธุรกิจรับจ้างผลิตละคร ที่ไม่สร้างกำไร
– เน้นปรับโครงสร้างองค์กร Lay off 5-10% จากพนักงาน 1,200 คน
สัดส่วนรายได้
ธุรกิจคอนเทนต์ – (มิวสิก ดิจิตัล โชว์บิซ และฟิล์ม) 66%
ธุรกิจมีเดีย – (ทีวี วิทยุ สื่ออินสโตร์) 34%
ตั้งเป้ารายได้รวม 2,610 ล้านบาท คาดโต 10%
รายการโทรทัศน์ 8 รายการ/อาทิตย์
ภาพยนตร์ 4 เรื่อง (ต้นทุนเรื่องละ 20 ล้านบาท)เปลี่ยนค่ายหนังอาวองให้เหมือนสตูดิโอต่างประเทศ
สื่อสิ่งพิมพ์ ลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 25% จากเดิม 100%
ทีวีดาวเทียม
รายการวิทยุ Cool 93, Max 103.5

GMM-Grammy
กลยุทธ์
– พัฒนาคอนเทนต์ที่มีในแต่ละเซ็กเมนต์ เพื่อต่อยอดเข้าสู่ Digital Download โดยร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย ทุ่มงบพัฒนาระบบ 100 ล้านบาท
– ธุรกิจดาวเทียมทีวี การผลิตทั้งหมด 5 ช่องรายการภายในปีนี้
– ค้นหาศิลปินหน้าใหม่ และศิลปินเดิม เพื่อบุกตลาดต่างประเทศ
สัดส่วนรายได้ แกรมมี่-เพลง, หนัง, ทีวี 60% จีเอ็มเอ็ม มีเดีย – วิทยุ, อีเวนต์ 40%
ตั้งเป้ารายได้รวม 7,500 ล้านบาท คาดโต 2-3%
รายการโทรทัศน์ 28 รายการ (On Air 40 ชั่วโมง/อาทิตย์
ภาพยนตร์ 4 เรื่อง (ต้นทุนเรื่องละ 20 ล้านบาท)
สื่อสิ่งพิมพ์
ทีวีดาวเทียม 5 ช่อง 1.Fan TV 2.Bang Channel 3.Green Channel 4. Acts Channel 5.Bird Channel
– ลงทุน 500 ล้านบาท
รายการวิทยุ Chill 89.0 (Banana), Hot 91.5 (Hot Wave), EFM 94.0Green, Wave 106.5