เม็ดเงินโฆษณาลดลงต่อเนื่อง 4 ปี และปีนี้มูลค่างบโฆษณาต่ำสุดในรอบประมาณ 10 ปี ส่วนปีหน้าคาดกันว่าธุรกิจต่าง ๆ จะฟื้นตัวและใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 10.3% ตัวเลขสะพัดไปถึง 94,588 ล้านบาท
จากการเปิดเผยของ ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ–สายงานการวางแผนและกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดียอินไซต์ จำกัด เปิดเผยว่าตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาที่เอ็มไอรวบรวมจากท่ี่มีการใช้งบจริง หลังหักส่วนลด และแถมเวลาโฆษณาแล้ว พบว่าเม็ดเงินที่แบรนด์ และบริษัทต่าง ๆ ซื้อโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 78,755 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีเม็ดเงิน 91,451 หรือคิดเป็นลดลง 13.9%
ส่วนตลอดทั้งปี 2560 หรือ 12 เดือน คาดว่าจะมีเม็ดเงิน 85,755 ล้านบาท (ขณะที่นีลเส็นรายงานข้อมูลตามเรตการ์ดมีเม็ดเงินอยู่ที่ 92,673 ล้านบาท) ลดลงจากปี 2559 ที่มีเม็ดเงิน 100,352 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 14.5% ซึ่งถือว่าลดลงมากที่สุดในรอบประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา
โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นับจากปี 2556 ที่เม็ดเงินสูงถึง 120,570 ล้านบาท แต่ปี 2557 เม็ดเงินเหลือ 114,497 ล้านบาท ลดลง 5% จากนั้นปี 2558 มีเม็ดเงิน 113,439 ล้านบาท ลดลง 0.9% และปี 2559 มีเม็ดเงิน ลดลง 11.5%
สำหรับปี 2561 คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะมีมูลค่า 94,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 คิดเป็น 10.3%
ตัวเลขนี้จะมาจากอุตสาหกรรมที่เป็นดาวรุ่งในปีหน้า คือรถยนต์ ที่คนที่ซื้อรถยนต์ในโครงการรถคันแรกครบกำหนดถือครอง 5 ปีก็จะมองหารถใหม่ และค่ายรถยนต์ต่างมีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมากระตุ้นตลาดด้วย
ส่วนอุตสาหกรรมอื่นที่เติบโต ยังมีสื่อสาร ที่มีการรุกบริการใหม่ ๆ อย่างอินเทอร์เน็ต อุตสาหกรรมมือถือที่แบรนด์ใหญ่เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้ง ไอโฟน ซัมซุง และแบรนด์จากจีน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบริการ เช่น ช้อปปิ้งออนไลน์ โมบาย หรืออินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง กลุ่มบริการสินเชื่อส่วนบุคคล
***ออนไลน์ทะลุหมื่นล้าน
ส่วนเม็ดเงินจะไปที่สื่อใดบ้างนั้น สื่อทีวี ออนไลน์ และสื่อนอกบ้าน รวมกันได้เม็ดเงินไปกว่า 80% เช่นเดียวกับปี 2560 ที่รวมกันได้ไปประมาณ 83%
ปี 2560 สื่อทีวีได้ 57% ประมาณ 49,097 ล้านบาท ปี 2561 คาดสัดส่วนอยู่ที่ 55-60% เม็ดเงิน 53,929 ล้านบาท
ขณะที่สื่ออินเทอร์เน็ต ทะลุหมื่นล้านเป็นครั้งแรก โดยปี 2560 มีเม็ดเงิน 12,811 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 14% ส่วนปี 2561 จะมีเม็ดเงิน 14,338 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีสื่อนอกบ้านที่เติบโต โดยปี 2560 มีสัดส่วน 13% เม็ดเงิน 9,103 ล้านบาท ปีหน้าคาดเม็ดเงินทะลุไป 10,900 ล้านบาท โดยปีนี้เฟซบุ๊กได้เม็ดเงินไป 28% กลุ่มกูเกิลรวมยูทูป 25% แบนเนอร์ 10-15% และอินฟลูเอนเซอร์ 10%
สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น และดูทีวีลดลง ข้อมูลจาก We are Social พบว่าปีนี้คนไทยดูทีวีเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 26 นาทีต่อวัน ขณะที่ใช้เวลาในออนไลน์ อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 4 ชั่วโมง 14 นาทีต่อวัน ผ่านพีซี 8 ชั่วโมง 49 นาที
***6 ปี เม็ดเงินโฆษณานิตยสาร สิ่งพิมพ์ วูบหมื่นล้าน
ภวัต เปิดเผยถึงกลุ่มสื่อนิตยสารที่ปิดตัวกันมาก เพราะคนอ่านลดลง ทำให้โฆษณาหันไปซื้อสื่ออื่น โดยเฉพาะออนไลน์มากขึ้น โดยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา นิตยสารปิดตัวไปจำนวนมาก หากดูจากที่นีลเส็นได้เก็บตัวเลขการซื้อโฆษณาในสื่อนิตยสารพบว่าปี 2554 เก็บข้อมูลจากนิตยสาร 183 หัว แต่ในปี 2560 นี้เหลือเก็บตัวเลขเพียง 129 หัว
สำหรับเม็ดเงิน กลุ่มนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ ที่เอ็มไอเก็บข้อมูลตัวเลขซื้อโฆษณาจริง ที่หักส่วนลดและแถมจากตัวเลขของนีลเส็นประมาณ 12-15% นั้น พบว่าในปี 2554 มีเม็ดเงินรวม 20,365 ล้านบาท แต่ในปี 2560 เหลือเพียง 8,809 ล้านบาท แต่ปี 2561 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 9,163 ล้านบาท ตามอัตราการเติบโตของเม็ดเงินโฆษณารวม
สำหรับเหตุผลที่เม็ดเงินโฆษณาในสื่อนิตยสารสิ่งพิมพ์ลดลงต่อเนื่อง เพราะเนื้อหาโดยทั่วไปอ่านในออนไลน์ได้เช่นกัน ส่วสนนิตยสารที่จะอยู่รอดได้ จะมีเนื้อหาเฉพาะเจาะจง และผู้อ่านยังชอบอ่านในกระดาษ หรือในเล่มมากกว่า เช่น เรื่องราวของนาฬิกา บ้าน ท่องเที่ยว
สำหรับกระแสข่าวลือเรื่องนิตยสารคู่สร้างคู่สมปิดตัวนั้น ในฐานะเอเจนซี่ที่วางแผนโฆษณาให้นั้น ยังไม่ได้รับการแจ้งใด ๆ จากทางนิตยสาร แต่ยอมรับว่าปีนี้มีลูกค้าซื้อโฆษณาลดลงบ้าง.
