เอสเอ็มอียุคประหยัด ไลน์ดึง 7 เอเจนซี่ ร่วมปั้นยอด LINE@

คนไทย 44 ล้านคนใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ละวันอยู่หน้าจอกัน 230 นาที และใช้ไลน์ 70 นาที นี่คือตัวเลขที่ไลน์มองเห็นว่าธุรกิจขายสินค้าบริการต่าง ๆ ควรใช้ไลน์ในการเข้าหาลูกค้า

แต่เอสเอ็มอีในไทยที่มี 2.8 ล้านราย มี 1.8 ล้านรายที่ใช้บริการไลน์แอด (LINE@) จากปีที่แล้วที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านราย โอกาสของเอสเอ็มอีที่จะจ่ายเงินใช้บริการ LINE@ ควรจะมากกว่านี้ แต่เพราะมีโจทย์คือ เอสเอ็มอีไม่อยากเสียค่าบริการ ในยุคที่ธุรกิจต้องใช้จ่ายประหยัด ลงทุนต้องคุ้มค่า และได้ผล

นี่คือโจทย์หนึ่งที่ไลน์ต้องเร่งหาตัวช่วย

สกุลรัตน์ ตันยงศิริ หัวหน้าธุรกิจ LINE@ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีการเปิดตัว LINE@ โซลูชั่นสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีเมื่อเดือน ก.. 2558 ก็มีเอสเอ็มอีใช้บริการแล้ว 1.8 ล้านราย ตอบโจทย์ผู้ที่ทำธุรกิจ หรือขายสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่บริการนี้เปิดให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายตามแบรนด์ธุรกิจนั้น ๆ ไม่เกิน 3 แสนคน โดยเจ้าของธุรกิจจะสื่อสาร พูดคุยกับกลุ่มเป้าหมาย หรือบรอดคาสท์ได้ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการส่งโปรโมโชั่น การดึงลูกค้าเข้ามายังเว็บไซต์ของแบรนด์นั้น ๆ เอง

ปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจที่ใช้บริการ 3 อันดับแรกที่มีจำนวนมากที่สุด คือ

  1. แฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ
  2. สินค้าความงาม สุขภาพ ครีมสปา
  3. ร้านอาหาร เครื่องดื่ม

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มการศึกษา อสังหาริมทรัพย์ ไอที รถยนต์  

แพ็กเกจที่ให้บริการ  LINE@ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มฟรีแพ็กเกจ ที่ให้ทดลองใช้ กลุ่มราคา 998 บาท กลุ่ม 1,998 บาท และ กลุ่ม 6,888 บาท ต่อเดือน ราคาต่างกันตามข้อมูลที่ไลน์วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของลูกค้าเพื่อให้บริการแต่ละแบรนด์ ปัจจุบันกลุ่มที่ใช้บริการ 1,988 บาทมีมากที่สุด ส่วนกลุ่มฟรีแพ็กเกจเมื่อได้ทดลองใช้แล้ว มีการสมัครจ่ายค่าบริการรายเดือนเท่าไหร่นั้น ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ 

ปัจจุบันมีทั้งลูกค้าที่สมัครใช้บริการเอง กับลูกค้าที่ใช้บริการผ่านเอเจนซี่ ที่เป็น LINE@ Partnership Program ที่ต่างกันคือสมัครกับเอเจนซี่จะมีการอบรมความรู้ให้ลูกค้าในการใช้งานด้วย 

ในโครงการ LINE@ Partneship Program มีทั้งหมด 7 ราย

คือ 1.Egg Digital  2.GMOz  3.Itopplus 4.Kidwadee  5.Ready Planet  6.Sellsuki  และ 7.Webnetics โดยแต่ละเอเจนซี่จะมี Certified trainer อย่างน้อย 1 คนให้ความรู้เกี่ยวกับ LINE@

บุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทมีลูกค้าอยู่กว่า 17,000 รายที่ใช้บริการการตลาดดิจิทัล ในจำนวนนี้มีเพียงประมาณ 10% ที่ใช้บริการ LINE@ แต่แนวโน้มจะมีลูกค้าใช้เพิ่มขึ้น เพราะโอกาสที่จะใช้  LINE@ เพื่อปิดการขายสินค้า และบริการของลูกค้ามีสูง เมื่อเทียบกับการใช้โซเชียลมีเดียอื่น  โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่มีอยู่คือกลุ่มร้านอาหาร กาแฟ 

ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะทำสัญญากับลูกค้าในการใช้บริการการตลาดดิจิทัลอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อรอเวลาในการสร้างฐานในโซเชียลมีเดีย และเห็นผลได้ในที่สุด ซึ่งในยุคปัจจุบันกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี หนีไม่พ้นต้องให้ความสำคัญกับการทำตลาดดิจิทัล เพราะสามารถปิดการขายได้ เพิ่มยอดขายได้ชัดเจน โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจที่เอสเอ็มอียังคงต้องใช้งบอย่างคุ้มค่า