ช่วงหลังเทศกาลเติ๊ด (TET) หรือปีใหม่ของชาวเวียดปีนี้ คนเวียดนามเตรียมยิ้มต้อนรับพร้อมเทกระเป๋าช้อปให้กับห้างค้าปลีกอินเตอร์ยักษ์ใหญ่หลายค่าย ที่จะบุกเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังพร้อมกันในปีนี้ เนื่องจากตามสัญญาใน WTO ที่เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกก่อนหน้านี้ เวียดนามมีเงื่อนไขยินยอมให้ประเทศต่างๆ เข้ามาแข่งขันค้าปลีกได้อย่างเสรีตั้งแต่ 1 มกราคม 2009
จะว่าไปแล้วเวียดนามยังเป็นที่หมายปองของนักลงทุนหน้าใหม่ๆ ด้วยความดึงดูดของประชากรราว 70% ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี ผู้คนที่กล้าจับจ่ายใช้สอยแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังถดถอยทั่วโลก คนที่นี่ชอบเปลี่ยนสินค้าใหม่ๆ ให้ดูทันสมัยเสมอ จริงจังกับการทำงาน และมีความหวังในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้า
ปัจจุบันค่ายค้าปลีกเรียงแถวเข้ามาลงทุนในเวียดนามมากมาย เช่น Wal-Mart, Best Buy และ Circuit City ของพี่ใหญ่จากอเมริกา, Tesco จากอังกฤษ, Carefour จากฝรั่งเศส และกลุ่มธุรกิจในเอเชีย อย่าง Dairy Farm จากฮ่องกง, South Asia Investment จากสิงคโปร์ รวมถึง Lotte Mart และ GS Retail ซึ่งเป็นกลุ่มค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดจากเกาหลี
นอกจากนี้แล้ว ในปี 2008 เวียดนามยังมีการเติบโตในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเป็นอันดับ 1 ของโลกแซงหน้าจีน อินเดียและรัสเซีย หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดค้าปลีกในปี 2008 ที่ราว 54,300 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี การเติบโตที่รวดเร็วทำให้ค่ายค้าปลีกรายใหญ่ของเวียดนามเอง เช่น Coop Mart, Maxi Mart, Vina Conex และ Hanoi Supermarket ต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ด้วยการมาร่วมมือกันในแง่ของเงินลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบร้าน บริการ และการขยายสาขาให้สู้ศึกค้าปลีกอินเตอร์ให้ได้