ยุบ Men’s Fitness แต่แมส กรุ๊ป ยังขอโต เปลี่ยน L’Optimum เป็น L’Officiel Hommes เปิดลิสต์ท็อป 15 ธุรกิจ-แบรนด์ยังซื้อโฆษณาสิ่งพิมพ์

 “ไม่ได้ขาดทุน ไม่ได้วิกฤต แถมยังไปได้ดี ด้วยรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 20-25% แต่ก็ต้องปิด และยุบนิตยสารในเครือ 1 เล่ม และเปลี่ยนชื่อ 1 เล่ม นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดกับบริษัท แมส คอนเน็ค จำกัด ค่ายหนังสือหัวนอกระดับไฮเอนด์หลายฉบับ

พรวิภา เธียรธนวาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี บริษัทแมส คอนเน็ค จำกัด เปิดแถลงข่าว หลังมีข่าวลือว่าจะมีการปิดตัวนิตยสารบางเล่มในเครือ ที่ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ

เล่มแรก “เมนส์ ฟิตเนส (Men’s Fitness)” บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์คือ อเมริกัน มีเดีย ได้แจ้งยุติการพิมพ์ทั่วโลก ดังนั้น นิตยสาร เมนส์ ฟิตเนส ประเทศไทย ฉบับเดือนธันวาคมนี้ จึงเป็นฉบับสุดท้าย หลังจากเพิ่งเริ่มพิมพ์เล่มแรก เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 รวม 8 ฉบับเท่านั้น

จริง ๆ แล้ว เมนส์ ฟิตเนส ยังไปได้ดีและมีรายได้ตามเทรนด์ของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และตัวเองยังได้บินไปเพื่อเจรจาอยากให้พิมพ์ต่อในเมืองไทย แต่สไตล์ของอเมริกาเมื่อตัดสินใจคือชัดเจนว่าปิด และทางเจ้าของลิขสิทธิ์เองก็ไม่อยากให้มีชื่อนิตยสารนี้อีกแล้ว พรวิภา กล่าว

เล่มที่สอง คือจะไม่มีชื่อนิตยสาร ลอปติมัม อีกต่อไป แต่จะรวมจุดแข็งของเนื้อหาเล่มที่เจาะกลุ่มผู้ชายไปอยู่ในนิตยสาร ชื่อ ลอฟฟีเซียล ออมส์ (L’Officiel Hommes) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 ตามนโยบายของเจ้าของลิขสิทธิ์ คือสำนักพิมพ์ฌาลู เจ้าของและผู้ผลิต นิตยสารลอฟฟีเชียล และลอปติมัม ฝรั่งเศส

ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่มีผลกับพนักงาน อย่างพนักงาน เมนส์ ฟิตเนสประมาณ 5 คนยังมีหน้าที่ทำนิตยสารให้ในเครือต่อไป

**แมส กรุ๊ป รุกขายแพ็กเกจสิ่งพิมพ์ ออนไลน์ดันรายได้

นับตั้งแต่ปีหน้า แมส กรุ๊ป มีนิตยสารรายเดือนในเครือดังนี้

L’Officiel ,  L’Officiel Hommes

กลุ่มราย 2 เดือน L’Officel wedding , L’officiel watches and jewelry และ L’Oficiel art  design and decors , นิตยสารนาฬิการาย 3 เดือน Wow Thailand  นอกจากนี้ยังรับจ้างผลิตนิตยสารรายเดือนบนเครื่องบิน We smile

พรวิภา เปิดเผยว่า ความเปลี่ยนแปลงนิตยสารสองเล่มในเครือดังกล่าว เป็นไปตามแผนของต่างประเทศ ที่ผ่านมาแมสกรุ๊ปปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยีมาตลอด นับตั้งแต่ปีแรกที่เปิดตัว ลอฟฟีเชียล ไทยแลนด์ ในปี 2555 โดยมีช่องทางโซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย และทีมงานของแมสกรุ๊ป ก็ปรับตัวได้ตามเทรนด์ รวมถึงยังมีทีมงานกลุ่มใหม่ ๆ ทั้งครีเอทีฟ ตัดต่อ ภาพวิดีโอ เพื่อตอบสนองผู้บริโภคทางออนไลน์ด้วย

โมเดลธุรกิจของนิตยสารในเครือที่ใช้แพลตฟอร์ม “ออนไลน์” ด้วย จึงมีรายได้เติบโตปีละประมาณ 20-25% และปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 25% เพราะมีการขายโฆษณาเป็นแพ็กเกจ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การลงโฆษณาในนิตยสารอย่างเดียว แต่ถ้าลูกค้าต้องการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไอจี ก็มีรูปแบบให้ลูกค้าเลือก

นอกจากนี้ยังมีอินฟลูเอ็นเซอร์ อย่างที่มีแคมเปญชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ร่วมกับแมสกรุ๊ปทำ และยังมีอีกหลายคนสำหรับหลายเซ็กเมนต์ รวมถึงยังมี เคโอแอล ในสังกัด บริษัทเคโอแอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด ที่ อาลี ซีอานี หนึ่งในผู้ถือหุ้นของแมสกรุ๊ป ร่วมถือหุ้นกับชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต ด้วย

***เปิดลิสต์ 15 ธุรกิจ-แบรนด์ ซื้อโฆษณาสิ่งพิมพ์

บริษัทมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ หนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการซื้อ – ขาย สื่อโฆษณา และวางกลยุทธ์สื่อสารทางการตลาดในประเทศไทย เปิดเผยว่างบของสื่อสิ่งพิมพ์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี (ม.ค.-พ.ย.) เปรียบเทียบปี 2559-2560 นั้น ชัดเจนว่าลดลง

แต่ที่ตอกย้ำว่านิตยสารแนวใดจะอยู่รอดนั้น เห็นได้ว่า ธุรกิจ และแบรนด์ที่ลงโฆษณานั้น จะเลือกเล่มที่มีเนื้อหาเฉพาะเจาะจง มีกลุ่มผู้อ่านแฟนประจำ โดยในกลุ่มธุรกิจ อันดับ 1 ยังเป็นนาฬิกา ใน 15 อันดับสูงสุด แสดงถึงสินค้าที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ เช่น รถยนต์ เสื้อผ้า กระเป๋า ความงาม ตกแต่งบ้าน ท่องเที่ยว ที่หลายคนชอบดู อ่านทางเล่มนิตยสารมากกว่า

สอดคล้องกับข้อมูลที่พรวิภาเปิดเผยว่า กลุ่มสินค้าที่ยังคงลงโฆษณาในนิตยสารเป็นกลุ่มดังกล่าว

สำหรับแบรนด์หรูยังคงเห็นลงโฆษณาในนิตยสารไฮเอนด์เป็นหลักเพราะหลายแบรนด์ยังไม่กล้าเสี่ยงกับโซเชียลมีเดีย เพราะกลัวการถูก คอมเมนต์” ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ไม่ตรงกับที่วางไว้

ขณะที่ธุรกิจหนังสือพิมพ์ ชัดเจนว่าธุรกิจกลุ่มแมสยังซื้อโฆษณาเป็นหลัก เช่น เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ที่มีคูปองให้ตัดจากหนังสือพิมพ์ มีธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยว ธนาคาร เครื่องดื่มกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ

ทั้งนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ บางเซ็กเมนต์ ยังคงมีกลุ่มราชการ รัฐวิสาหกิจ ซื้อโฆษณาอีกด้วย.