กูเกิล (Google) ออกมายอมรับแล้วว่า บริษัทมีการลงทุนในธุรกิจของโก-เจ็ก (Go-Jek) สตาร์ทอัปด้านบริการร่วมเดินทางของอินโดนีเซีย โดยถือเป็นครั้งแรกของกูเกิลที่ได้ลงทุนในธุรกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขในการลงทุนแต่อย่างใด มีเพียงรายงานจากรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ว่าอาจมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,145 ล้านบาทเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้ธุรกิจร่วมเดินทางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ดีเลยทีเดียว เพราะคู่แข่งอย่างแกร็บ (Grab) และอูเบอร์ (Uber) ต่างก็มีนายทุนให้การสนับสนุนแล้ว นั่นก็คือ ค่ายซอฟท์แบงค์ (Softbank) ส่วนโก-เจ็กนั้น ก่อนหน้านี้ก็มีนายทุนอย่างเท็นเซนต์ (Tencent) และ JD.com เป็นแบ็กให้เช่นกัน
แต่การประกาศอย่างเป็นทางการของกูเกิลในครั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าที่ได้ลงทุนอย่างเป็นทางการ มีเพียงสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า มีมูลค่าที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้น
การลงทุนรอบนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ร่วมลงทุนกับโก-เจ็ก ทั้งสิ้นสามบริษัท ได้แก่ เทมาเส็ก (Temasek) จากสิงคโปร์ Meituan-Dianping จากจีนแผ่นดินใหญ่ และกูเกิล จากสหรัฐอเมริกา ทำให้มูลค่าของโก-เจ็ก พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับตลาดอินโดนีเซีย ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า 133 ล้านคน และถือเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของโลกในแง่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต แต่ที่น่าสนใจ คือ ตัวเลข 133 ล้านคนนี้ เป็นตัวเลขแค่ครึ่งประเทศเท่านั้น ยังมีอีกครึ่งประเทศที่ประชากรยังไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ และหากทำได้ก็หมายความถึงตัวเลขมหาศาล
บริการของโก-เจ็กนั้น มีตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง บริการด้านเดลิเวอรีอาหาร ไปจนถึงการให้บริการนวด ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดสามารถเรียกใช้ได้ผ่านแอปพลิเคชันทั้งสิ้น
สำหรับจุดเด่นของโก-เจ็ก ตามการวิเคราะห์ของกูเกิล พบว่ามีหลายด้าน ตั้งแต่ทีมบริหารที่แข็งแกร่ง และตัวแอปพลิเคชันที่พบว่าสามารถช่วยให้ชีวิตของคนอินโดนีเซียสะดวกสบายได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้เคยมีซีอีโอของอูเบอร์ อย่าง Dara Khosrowshahi ออกมากล่าวว่า ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เป็นตลาดที่ไม่สามารถทำกำไรได้ แต่ก็น่าประหลาดใจที่ภูมิภาคนี้เป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายด้าน รวมถึงเรื่องของการลงทุนด้วย เฉพาะบริการร่วมเดินทางนั้น ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ว่าจะมูลค่าถึง 20,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2025 และตลาดที่ใหญ่ที่สุดก็คือ อินโดนีเซีย นี่เอง.
ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000009569