ศูนย์การค้าเอาไม่อยู่ ! เมกาบางนา ต้องสร้างเมืองตรึงขาช้อป ยกธีมปาร์คฮีโร่มาร์เวล ผุด รร.นานาชาติ-คอนโด มาไว้ในที่เดียว

ยึดทำเลในย่านบางนามา 6 ปีเต็ม เป้าหมายต่อไปของ “เมกา บางนา” ต้องยกเครื่องจาก “ศูนย์การค้า” ให้เป็นอาณาจักร มิกซ์ยูส ภายใต้ชื่อ เมกกาซิตี้ ที่มีทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน โรงเรียน และความบันเทิง เรียกว่า เป็นเมืองขนาดย่อมๆ บนเนื้อที่ 400 ไร่ ใช้เงินลงทุน 67,000 ล้านบาท เพื่อทำโปรเจกต์เมืองให้เกิดขึ้นจริงๆ ในระยะเวลา 14 ปี  

การขยับขยายครั้งนี้ ยังเป็นการรับมือกับสมรภูมิค้าปลีกบนถนนบางนาตราดที่กำลังจ่อคิวผุดโปรเจกต์กันคึกคัก เช่น ศูนย์การค้าแบงค็อกมอลล์ ของกลุ่มเดอะมอลล์ทรัส ซิตี้ เมืองการค้าและศูนย์การแสดงสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ของกลุ่มไฮดูเบสท์กรุ๊ป และเจ้าตลาดในพื้นที่อย่างเซ็นทรัลพลาซา

เมกาบางนาตั้งอยู่ทำเลที่มีศักยภาพสูง จึงมีคู่แข่งมากมายรายล้อม ในฐานะที่เราให้บริการแก่ลูกค้ามานาน จึงรู้ว่าลูกค้ามีความต้องการเพิ่มขึ้น คนออกจากบ้านไม่อยากมาห้างอย่างเดียวแล้ว แต่ต้องการประสบการณ์ที่ดี ทำกิจกรรมอื่น เราจึงเริ่มพัฒนาส่วนต่อขยายศูนย์การค้าส่วนต่างๆ เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้นคริสเตียน โอลอฟสัน ผู้อำนวยการศูนย์การค้าและโครงการมิกซ์ยูสอิเกียเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

“ศูนย์การค้า” ยุคนี้จะมีแค่แหล่งช้อป ชิม ใช้ชีวิตชิลล์ๆ คงไม่พออีกแล้ว เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคต้องการมากกว่านั้น คือไปที่เดียวต้องได้ประสบการณ์ครบทุกอย่าง เลยทำให้ “เมกาบางนา” ซึ่งยึดทำเลยุทธศาสตร์บนถนนเทพรัตน หรือเดิมบางนา-ตราด เข้าปีที่ ต้องยกเครื่องศูนย์การค้าบนเนื้อที่ใหญ่โต 400 ไร่ใหม่ ให้เป็น “อาณาจักรมิกซ์ยูส” มีครบทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน โรงเรียน และความบันเทิงแบบใหม่ให้เป็นเมืองขนาดย่อมๆ และปีที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ประกาศลงทุน 67,000 ล้านบาท เพื่อทำโปรเจกต์เมืองให้เกิดขึ้นจริงๆในระยะเวลา 14 ปี

เมกกาบางนาได้ทยอยปรับโฉมศูนย์การค้าเพิ่มแบรนด์แฟชั่น เครื่องสำอาง ร้านอาหาร สวนน้ำ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเป้าหมายไม่ให้ไปช้อป ชิมที่อื่น

หลังจากทุ่มเม็ดเงิน 2,000 ล้านบาท ขยายเมกา ฟู้ดวอล์คเนื้อที่ 10,000 ตารางมตร (ตร..) ดึงร้านอาหาร 29 แบรนด์ดัง คอนเซ็ปต์ใหม่ๆ มาให้บริการ เช่นสตาร์บัคส์สูง 3 ชั้น และเป็นร้านแรกที่มีการใช้กลยุทธ์ Co-Creation กับแบรนด์อาฟเตอร์ยูนำเมนูฮิตมาเสิร์ฟที่ร้านกาแฟ ร้านอาหารญี่ปุ่นมากุโระ โออิชิ อีทเทอเรียม ปัจจุบันศูนย์มีร้านอาหารให้บริการทั้งสิ้น 166 ร้าน

แม่เหล็กของปีนี้ คือ ธีมปาร์ค เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์ (The Marvel Experience Thailand) เป็นของ บริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เช่าพื้นที่สร้างโดม 7 อาคาร เนื้อที่ 8,000 ตร.. เพื่อยกทัพฮีโร่จากจอเงินกว่า 20 ตัว ไม่ว่าจะเป็น Spider-Man, Iron Man, Hulk, Thor, Captain America ฯลฯ  เป็นรูปแบบบันเทิงแบบอินเตอร์แอคทีฟในประเทศไทย และเป็นครั้งแรกที่มาร์เวลยักษ์ใหญ่ของโลกการ์ตูนคอมิคยอมจัดการแสดงดังกล่าวนอกสหรัฐฯ ด้วย

งานนี้คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์การค้าเมกาบางนาเพิ่มขึ้น 5% เพราะผู้จัดได้เดินสายโรดโชว์และทำตลาดร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศ (ททท.) เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติ 70% จากที่คาดการณ์ตัวเลขจะมีคนเข้ามาชมการแสดงกว่า 1 ล้านคน

โปรเจกต์ที่จะเปิดไล่เลี่ยกันเดือนพฤษภาคมนี้คือ โรงเรียนนานาชาติดิษยะศรินกรุงเทพ เนื้อที่ 2,000 ตร.. เพื่อรองรับผู้อาศัยในอนาคต

ก่อนหน้านี้ ก็ได้พันธมิตรอารียา พร็อพเพอร์ตี้มาสร้างคอนโดมิเนียมไฮไรซ์แบรนด์ “A SPACE MEGA” 2 อาคาร จำนวน 1,300 ยูนิต ราคาขาย 1 ล้านบาทต้นๆ เพื่อจับกลุ่มกลุ่มเป้าหมายที่ทำงานและอาศัยอยู่บริเวณรอบศูนย์การค้า

เราเลือกอารียาฯ เพราะมองในเรื่องของแบรนด์ และราคาของที่อยู่อาศัย (Price Point) มีความเหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้า แต่ในอนาคตก็จะมองหาแบรนด์ที่พักอาศัยที่มี Positioning ระดับสูงขึ้น

คอนโด A SPACE MEGA

ในอนาคตยังมีโปรเจกต์ใหม่ที่เตรียมเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ขยายพื้นที่กิจกรรมให้ความบันเทิงกึ่งการเรียนรู้ (Indoor Family Entertainment Complex) เนื้อที่ 10,000 ตร.เชื่อมต่อกับเมกาคิดส์ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายเด็กและครอบครัวเพิ่ม โดยโครงการดังกล่าวบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเองและหาพันธมิตรมาเช่าพื้นที่จัดกิจกรรม ซึ่งจะเปิดให้บริการไตรมาส 2 ปีหน้า

สำหรับการยกระดับห้างค้าปลีก สู่อาณาจักรเมืองย่อมๆเมกาซิตี้จะใช้เวลาทั้งโปรเจกต์ 14 ปี จึงจะมีครบทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน เพราะต้องรอความพร้อมการคมนาคมขนส่ง ทั้งรถไฟ MRT รถโมโนเรล ให้เป็นรูปธรรมก่อน รวมถึงจับทิศทางเศรษฐกิจว่าจะเอื้อต่อการลงทุนหรือไม่

แต่จากบันไดขั้นแรกของการขยายอาณาจักร ก็คาดว่าจะดึงคนเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเติบโตขึ้น 10% จากปัจจุบันคนเข้ามาช้อปปิ้ง ชิม ชิลล์ 42 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นคนไทย 95% และต่างชาติ 5% ช่วยสร้างการเติบโตรายได้และกำไร 30%