(ภาพจาก Rolling Stone)
ค่ำคืนของวันประกาศผลออสการ์ ที่คนส่วนใหญ่ต่างจดจ้องไปกับผลว่าภาพยนตร์เรื่องไหน หรือดาราคนใดจะคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปได้ แต่พื้นที่สื่อส่วนหนึ่งกลับพร้อมใจกันรายงานข่าวการเสียชีวิตของ Russ Solomon ชายชราวัย 92 ปี ที่เสียชีวิตหน้าจอโทรทัศน์ด้วยอาการหัวใจวายขณะที่กำลังดื่มวิสกี้พร้อมกับชมการประกาศผลรางวัลออสการ์
Russ Solomon ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับออสการ์แม้แต่น้อย แต่เหตุผลที่สื่อส่วนใหญ่ต่างพร้อมใจกันลงข่าว เพราะเขาคือบุคคลในตำนานแห่งวงการเพลงระดับโลก กับการสร้างอาณาจักรที่เป็นจักรวาลของศิลปินและคนฟังเพลงในชื่อ Tower Records ตัวแทนจำหน่ายแผ่นเสียง ซีดี และคาสเซตต์ ที่ครั้งหนึ่งเคยยิ่งใหญ่สามารถสร้างรายได้สูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
Solomon ในวัยรุ่น ความมุ่งมั่นของเขาไม่ได้อยู่ที่ดนตรีแม้แต่น้อย เขาสนใจและศึกษาอย่างจริงจังในเรื่องการถ่ายภาพ แม้กระทั่งตอนที่เข้าร่วมกับกองทัพอากาศของสหรัฐอเมริกาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เขายังคาดหวังในตำแหน่งช่างภาพประจำกองทัพ แต่เขากลับได้ไปทำงานในส่วนของช่างเทคนิคเรดาร์แทน
ในปี 1960 ด้วยเงินที่ยืมมาจากพ่อของเขาจำนวน 5000 เหรียญสหรัฐ Solomon ได้ก่อตั้ง Tower Records ขึ้นในบ้านเกิดของเขาที่ซาคราเมนโต แคลิฟอร์เนีย ถึงแม้จะเป็นรายขายแผ่นเสียง แต่ Solomon ก็ได้ทำสิ่งที่แตกต่าง ด้วยการนำโมเดลซูเปอร์มาร์เก็ตมาปรับใช้ โดยรวบรวมดนตรีทุกรูปแบบมาไว้ด้วยกัน และจัดวางสินค้าบนเชลฟ์ และขยายเวลาปิดร้านถึงเที่ยงคืน เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงดนตรีให้ได้มากที่สุด และที่สำคัญ คือ พนักงานที่เป็นคนรักดนตรี การมาที่ Tower Records จึงเหมือนกับเป็นการมาเจอเพื่อนที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน
และนี่กลายเป็นกุญแจที่เปิดประตูสู่ความสำเร็จ และ Tower Records ก็กลายเป็นอาณาจักรที่ทรงอำนาจ พร้อมขยายสาขาไปทั่วสหรัฐอเมริกา รวมถึงสาขาในซานฟรานซิสโก ซึ่งได้รับการจดบันทึกว่าเป็นร้านขายแผ่นเสียงที่ใหญ่ที่สุดด้วยพื้นที่ 6000 ตารางฟุต ก่อนจะเปิดสาขาแรกในต่างประเทศเมื่อปี 1980 ที่ลอนดอน ในช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด Tower Records มีสาขาทั่วโลก 271 สาขา และรายได้สูงสุดอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
แต่เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิตอล พฤติกรรมการฟังเพลงเปลี่ยน จากแผ่นเสียง คาสเซตต์ และซีดี กลายเป็นรูปแบบของไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดลงอุปกรณ์ จนในที่สุด Tower Records ก็ไม่สามารถปรับตัวไปกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเพลงได้ ก่อนที่จะเริ่มล้มละลายในปี 2004 และปิดตัวในปี 2006
หลังธุรกิจได้ปิดตัวลง Solomon หันกลับมาหาการถ่ายภาพ อีกหนึ่งสิ่งที่เขาชื่นชอบ แต่ทิ้งมันไปนับตั้งแต่ไฮสคูลอีกครั้ง เขาได้ร่วมกับเมืองซาคราเมนโต้ในการจัดงานแสดงภาพถ่ายที่บอกเล่าถึงผู้คนที่เป็นตำนานของเมือง และยังสะสมงานศิลปะจำนวนมากในบ้านขนาด 2 ห้องนอน แต่มีพื้นที่มากถึง 4,000 ตารางฟุตนั่นเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านเป็นผนังโล่งๆ ไว้สำหรับจัดแสดงงานศิลปะก่อนที่เขาจะจากไปอย่างสงบในบ้านหลังนี้.