จากกรณีที่ปรากฏข่าวบนเว็บไซต์ว่า ทรูมูฟ เอชทำข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้าหลุดจำนวนมาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสทช.). แจ้งว่า จะเรียกทรูชี้แจงข้อเท็จจริงในวันที่ 17 เม.ย. 61 เวลา 9.30
ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 กำหนดไว้ว่า ผู้กระทำผิดมีโทษตามกฎหมาย หากผู้ประกอบการมีส่วนในความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาต โดย กสทช.เป็นผู้เสียหายตามกฎหมายด้วย
“ในกรณีนี้ หากเป็นการกระทำโดยเจตนา ทรูมูฟ เอชมีความผิดแน่นอน แต่ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช.ต้องเรียกทรูมูฟ เอชมาให้ข้อมูลก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สำนักงาน กสทช.ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงในแน่นอนก่อน จึงจะดำเนินการต่อไป
ฐากร กล่าวด้วยว่า สำนักงาน กสทช. ให้ความสำคัญต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนผู้ใช้บริการ สำนักงานฯ จะรีบดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อคุ้มครองประชาชนผู้ใช้บริการ
ไอทรูมาร์ท แจงถูกแฮกจริง เป็นลูกค้าลงทะเบียนซิมออนไลน์
ทางด้าน iTrueMart ไอทรูมาร์ท ในเครือทรู ได้ชี้แจงว่า รู้สึกเสียใจและขออภัยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทันทีที่ทราบเรื่องดังกล่าว บริษัทฯ ก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดทันที
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับการ hack ข้อมูลลูกค้าที่ได้ซื้อมือถือพร้อมแพ็กเกจบริการทรูมูฟ เอช โดยมีการลงทะเบียนซิมผ่านช่องทาง itruemart
ล่าสุดทีมงานไอทรูมาร์ท ได้แก้ไขเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าแล้ว พร้อมทั้งจะมีการส่งแจ้งเตือนไปยังลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เพื่อให้ทราบถึงมาตรการของบริษัทที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า หากถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง
ทีมงานไอทรูมาร์ท ขอยืนยันว่า บริษัทให้ความสำคัญสูงสุด เรื่องการปกป้องและรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาโดยตลอด และสำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ บริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจ โดยกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ระดับโลก รวมถึงการดำเนินการทางกฎหมายเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ข้อมูลของลูกค้าจะได้รับการดูแลปกป้อง ด้วยมาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านเทคโนโลยีและทางกฎหมาย
สำหรับไอทรูมาร์ทนั้น เป็นเว็บช้อปปิ้งออนไลน์ กลุ่มทรู ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2556 หวังจะสร้างให้เป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ที่มีสินค้าแบรนด์เนมจากไทย และทั่วโลกมาขาย ทั้งสินค้าความงาม เครื่อใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์สื่อสาร ต่อมาในปี 2559 เมื่อทรูเป็นพันธมิตรกับบริษัท แอสเซนด์ ในเครืออาลีบาบา เพื่อเชื่อมโยงต่อระบบการชำระเงินระหว่างทรูมันนี่ และอาลีเพย์ จากนั้นเมื่อแอสเซนต์ กรุ๊ป ได้เปิดเว็บอีคอมเมิร์ซ วีมอลล์ (WeMall) เป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์และให้บริการครบวงจร ทรูได้นำ ไอทรูมาร์ท เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ WeMall อีกที และให้บริการจนถึงปัจจุบัน.