จากเวทีสัมมนาหัวข้อ “STARTUP จับต้องได้ : เจาะลึกธุรกิจ สร้างสังคมแห่งสตาร์ทอัพ” ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ จัดโดย Positioningmag.com ในเครือผู้จัดการ ร่วมกับองค์กรพันธมิตร มาฟังไอเดียเด็ดๆ ของเหล่าสตาร์ทอัพ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งธุรกิจที่เป็นคนรุ่นใหม่ ได้นำแนวคิดไปดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มจาก ‘สแนปอาส์ค’ เป็นแอปพลิเคชั่นที่พัฒนามาจากทางเทคโนโลยีด้วย Machine Learning และ AI ที่สร้างมาเพื่อให้บริการสำหรับนักเรียนที่ต้องการแลกเปลี่ยนความรู้กับติวเตอร์ เริ่มต้นมาจากฮ่องกง และสามารถขยายสาขาไปถึง 7 ประเทศในเอเชีย และประเทศไทยเป็นแห่งที่ 8 วางเป้าหมายเป็นทั้งติวเตอร์ และยังเป็นที่ปรึกษา เสมือน ครู พี่ น้อง หรือแม้กระทั่งเพื่อน ให้นักเรียนทุกคน
ชวัล เจียรวนนท์ ซีอีโอ บริษัท สแนปอาส์ค (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มด้วยการฝากข้อคิดว่า การเป็นสตาร์ทอัพจะต้องมี H.A.P. (Have a Purpose) ต้องชัดเจนในสิ่งที่ต้องทำ อย่างการมาเปิดตลาดที่ประเทศไทย สแนปอาส์ค วางเป้าหมายไว้เลยว่า ต้องเปิดตัวให้เร็วในเวลาที่กำหนด และเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันให้น้อยที่สุด
การทำสตาร์ทอัพต้องเจอกับอุปสรรคเยอะมาก มีหลายอย่างที่ไม่เคยเจอ ต้องเรียนรู้หาประสบการณ์ตลอดเวลา และทุ่มเทกับการทำงานอย่างมาก ต้องเริ่มทุกอย่างจากศูนย์ ยุ่งเหยิงมาก
แต่ถ้าเรามีเป้าหมายชัด โฟกัสไปที่มิชชั่น โดยเฉพาะเด็กที่มาใช้บริการแล้วได้ประโยชน์ก็รู้สึกว่าคุ้มค่า เป็นแรงผลักให้เราไปข้างหน้าให้ผ่านอุปสรรคนั้นๆ มาได้
เราอยากให้สแนปอาส์คเป็นบริษัทที่เติบโต และประสบความสำเร็จเหมือนกับหลายบริษัท อย่าง Grab หรือUber ซึ่งการจะไปสู่จุดนั้นได้ ต้องมีมิชชั่นในการสร้าง Product Market Fit ให้ตอบโจทย์ลูกค้าให้เขามารักโปรดักต์ของคุณ
สำหรับสแนปอาส์คการหา Product Market Fit หายังไง ก็คือการเข้าไปอ่านสนทนาทั้งหมดของเด็กนักเรียนของเรา เพื่อติดตามว่า เด็กเขาต้องการอะไร มีอะไรที่เป็นเทรนด์ใหม่ๆ ที่เราสามารถแก้ปัญหาให้กับพวกเขาได้
ถึงแม้เราจะเป็นแพลตฟอร์มช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับการเรียน การสอน แม้จะเป็นแอป ที่ผู้เรียนไม่เห็นหน้าผู้สอน แต่เด็กกลับมีคำถามมาขอคำแนะนำในหลายๆ เรื่อง ที่เขาไม่กล้าถามเพื่อน เช่น ผมไม่เก่งเลข จะทำยังไงดี
นอกจากนี้ ‘สแนปอาส์ค’ ได้ใช้วิธีสุ่มโทรสัมภาษณ์นักเรียนทั้งหมด 230 คนที่ใช้แอปสแนปอาส์ค พบว่า มีเด็กชาย อายุ 12 ปี ได้เล่าถึงตัวเองว่า มีเรื่องที่ทำให้เครียดอยู่หนึ่งอย่างคือ ตนเองอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่พ่อไม่เห็นด้วยเพราะอยากให้ตนเป็นทหาร แต่น้องคนนี้ได้บอกว่า จริงๆ แล้ว เขามีเป้าหมายของเขาเอง เขาอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำคือ ขยันมากขึ้น เก่งมากขึ้น เพื่อให้พ่อของเขายอมรับในอาชีพที่เขาอยากเป็น
และเด็กได้ถามกลับมายัง ‘สแนปอาส์ค’ ว่า ที่ทำแอปพลิเคชั่นนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร Mission ของพี่คืออะไร
ด้วยคำถามนี้ จึงได้เกิดเป็น Mission ขึ้นมา 2 ข้อ คือ
ภารกิจแรก คือ Empower Student หรือการให้พลังแก่เด็กให้ผ่านอุปสรรคด้านการศึกษาไปได้ ส่วนภารกิจที่ 2 คือ การสร้างแรงบันดาลใจ คือการสนับสนุนให้เด็กไปสู่สิ่งที่จะทำอย่างแท้จริง และ Mission ทั้ง 2 ข้อนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้สแนปอาส์คจะก้าวต่อไปได้ในอนาคต
การทำ Start Up เป็นอะไรที่แปลกใหม่ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการมี Purpose จุดมุ่งหมาย แล้วการตอบ Why ทำไมผมถึงอยากทำมัน ขอบคุณมากครับ
