สติกเกอร์ ถือเป็น “อาวุธ” สำคัญที่ทำให้แชทแอปพลิเคชั่น LINE แจ้งเกิดในไทย และกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับไลน์อย่างเป็นกอบเป็นกำ
ผ่านมา 7 ปี สติกเกอร์ก็ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ยิ่งช่วงต้นปี ธุรกิจจำหน่ายสติกเกอร์ในประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด สร้างสถิติใหม่ให้กับประเทศไทย ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมายอดดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์เติบโตสูงถึง 52% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีจำนวนผู้ซื้อสติกเกอร์ไลน์เพิ่มสูงขึ้นถึง 28% ให้ประเทศไทยขึ้นแท่นเป็นตลาดอันดับ 1 ของ LINE ทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่าสติกเกอร์ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือในการสื่อสารที่เป็นเทรนด์นิยมจนถึงปัจจุบัน
กณพ ศุภมานพ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจสติกเกอร์ไลน์ ประเทศไทย เชื่อว่า ส่วนหนึ่งมาจากการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่มากขึ้น อย่าง Line Store, Line Prepaid Card ผ่านร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วประเทศ การชำระเงินผ่านทางเครือข่าย AIS และ Dtac และการเปิดให้ซื้อสติกเกอร์ไลน์ด้วยเงินสดเป็นครั้งแรกของโลกผ่านตู้บุญเติมและตู้เติมสบายพลัสที่มีมากกว่า 170,000 ตู้ทั่วประเทศ
สติกเกอร์ไลน์ มี 3 รูปแบบ 1. Official Sticker (ต้องซื้อ) 2.Creators Sticker (ต้องซื้อ) และ 3. Sponsored Sticker (ฟรี) ซึ่งแบบที่หนึ่งและแบบที่สามจะมีพาร์ตเนอร์หรือพันธมิตรที่ร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ ช่อง 3, แกรมมี่ และแบรนด์ชื่อดังต่าง ๆ
ไลน์ให้น้ำหนักกับ Creators Sticker MARKET ค่อนข้างมาก เพราะมีจำนวนครีเอเตอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 200% จากปีที่ผ่านมา รวมแล้วมีครีเอเตอร์สติกเกอร์คนไทย 340,000 คน อัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนไลน์สติกเกอร์ในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 7 เท่าจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปัจจุบันการออกแบบสติกเกอร์หรือครีเอเตอร์กลายเป็นอาชีพที่มั่นคงอาชีพหนึ่งไปแล้ว โดยครีเอเตอร์บางรายสามารถมีรายได้จากที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดถึงหลักหลายแสนบาทต่อเดือน
ยิ่งมีครีเอเตอร์มากก็ยิ่งเพิ่มความหลากหลายของสติกเกอร์ ไลน์ ประเทศไทย จึงเปิดให้คนทั่วไปมาออกแบบและขายสติกเกอร์ได้ฟรี ผ่านแอปพลิเคชั่น Line Creators Studio ควบคู่เดินหน้าจัดโครงการประกวดสติกเกอร์ไลน์ Line Creators Market Sticker Contest 2018 ปีที่ 4 ภายใต้หัวข้อ “ชีวิตประจำวันครบรส แบบโหด มันส์ ฮา!” ชิงรางวัลไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่น
ตอนนี้มีผู้ลงทะเบียนเป็นครีเอเตอร์กับไลน์แล้วประมาณ 1.5 ล้านคน และมีสติกเกอร์กว่า 1.3 ล้านสติกเกอร์ให้เลือกใช้ ซึ่งเทรนด์หลัก ๆ ที่ทางครีเอเตอร์ใช้ในการผลิตสติกเกอร์ไลน์ออกมาก็คือ ความน่ารัก (Cute) และง่ายต่อการใช้งาน (Easy to use)
สำหรับเทรนด์สติกเกอร์ที่เป็นที่นิยม นอกจากจะต้องเป็นสติกเกอร์ที่ดูน่ารักแล้ว จะต้องเป็นสติกเกอร์ที่สื่อสารง่าย และแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ชัดเจน
เทรนด์ที่กำลังมาแรงในตลาดไทย คือ “สติกเกอร์ชื่อ” (Name Sticker) คนไทยชื่นชอบมาก เพราะสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างชัดเจน ทำให้แทนตัวเองในบทสนทนาได้ เมื่อสติกเกอร์แทนตัวเองได้ก็ทำให้รู้สึกถึงความใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้น
สติกเกอร์ตามเทรนด์จากละคร เช่น ตัวสติกเกอร์บุพเพสันนิวาส ที่ทำให้ตัวการ์ตูนสติกเกอร์ใส่ชุดไทยเป็นที่นิยมไปด้วย รวมถึง BNK48 ที่มีกระแสและเป็นที่นิยมมากในไทย
ส่วนเทรนด์สติกเกอร์ ในประเทศญี่ปุ่นเทรนด์ที่พบมาก ได้แก่ Girly Sticker, Characters from Social Media Content Providers และ Overacting Stickers ไต้หวัน จะเป็นเทรนด์สัตว์ต่าง ๆ ซึ่งในปีนี้เป็นกระต่าย
พร้อมกันนี้ภายในงาน LINE ได้จัดงานมอบรางวัล “LINE STICKERS AWARDS 2018” เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ครีเอเตอร์ที่สร้างผลงานสติกเกอร์ที่มีความโดดเด่นสูงสุดใน 7 สาขา ได้แก่
1. รางวัลสุดยอดความร่วมมือแห่งปี (Best Collaboration Sticker Award) ได้แก่ สติกเกอร์ Jumbooka x GMM
2. รางวัลสติกเกอร์หน้าใหม่ยอดนิยมแห่งปี 2017/2018 (New Face Best Seller 2017/2018 Award) ได้แก่ สติกเกอร์ ขิง ขิง &หมูเด้ง
3. รางวัลสติกเกอร์ขวัญใจมหาชน (People’s Choice Sticker Award) ได้แก่ สติกเกอร์จากละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส”
4. รางวัลสติกเกอร์สุดล้ำแห่งปี (Most Trendy Sticker Award) ได้แก่ สติกเกอร์ชื่อ หรือ Name Sticker โดยผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ ได้แก่ ณัฐกิตติ์ ประกอบกิจ ครีเอเตอร์ผู้สร้างสรรค์สติกเกอร์ชื่อทั้งหมดกว่า 800 ชุด
5. รางวัลสติกเกอร์สายฮา (Funniest Sticker Award) ได้แก่ ดึ้บดึ้บ
6. รางวัลครีเอเตอร์ดาวเด่น (Top Rising Star Award) ได้แก่ มหันห์ตชัย ไพรสินธิ์ (ต้นไม้) เจ้าของคาแร็กเตอร์สุดฮิตมากมาย อย่าง นายต้นไม้ ส้มเช้ง ตัวหมี และ ตัวหมู เป็นต้น
7. รางวัลสติกเกอร์ดารายอดนิยมแห่งปี (Best Celebrity Sticker Award) ได้แก่ สติกเกอร์จากวง BNK48