ในปีที่ผ่านมา LINE ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจบริการ ขยาย LINE Consumer Business ซึ่งประกอบด้วย LINE STICKERS, LINE MELODY และ LINE ดูดวง มาปี 2565 นี้ ภายใต้การดำเนินงานของ นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร ที่เพิ่งขึ้นเป็น รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Office) หมาด ๆ ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงทิศทางและบริการใหม่ ๆ ในฝั่ง Consumer Business ว่าปีนี้จะมีอะไรบ้าง
ดันครีเอเตอร์สติกเกอร์สู่ตลาด NFT
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่อยู่คู่กับไลน์มาตลอด 10 ปี ก็คือ สติกเกอร์ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งาน LINE กว่า 50 ล้านคน มีผู้ใช้งานสติกเกอร์ประมาณ 35 ล้านราย/เดือน แม้จะดูเป็นจำนวนที่สูง แต่ นรสิทธิ์ ยอมรับว่าการเติบโตในแง่ของจำนวนนั้นเริ่ม อิ่มตัวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลาดครีเอเตอร์ไทยค่อนข้างแข็งแรง เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยชื่นชอบครีเอเตอร์ไทย เพราะสามารถผลิตสติกเกอร์ได้ตอบโจทย์การใช้งานและเข้ากับสถานการณ์ ทำให้จากนี้ LINE ประเทศไทยจะไม่เน้น Global Licensing มาเน้นครีเอเตอร์ไทยเป็นหลักซึ่งปัจจุบันมีกว่า 1 ล้านราย เติบโต 35% และมีสติกเกอร์วางจำหน่ายในตลาดของประเทศไทยกว่า 5.3 ล้านชุด
โดยปีนี้ LINE จะดันครีเอเตอร์ไทยต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่ผลิตผลงานสติกเกอร์ แต่ต่อยอดไปสู่ Commercial Arts ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ Licensing IP Business หรือการขายสินค้าต่าง ๆ (Merchandising) โดยที่ผ่านมา มีครีเอเตอร์ชาวไทยมากกว่า 28 รายที่กลายเป็นผู้เล่นธุรกิจ IP ผ่านการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Uniqlo และ AIS สำหรับปีนี้ LINE ก็มีแผนจะจะเปิดตัว Line Valley สำหรับการขายสินค้าให้กับเหล่าครีเอเตอร์ด้วย
นอกจากนี้ LINE ก็พยายามผลักดันให้ครีเอเตอร์ไปสู่ตลาด NFT (Non-Fungible Token) โดยเตรียมจัดตั้ง LINE CREATORS Academy เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ที่ข้องเกี่ยวกับ NFT ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูงให้แก่ครีเอเตอร์และบุคคลที่สนใจ ซึ่งปัจจุบัน LINE ประเทศไทยได้เป็นพันธมิตรกับตลาด NFT (NFT Marketplace) ชั้นนำ อาทิ EAST NFT, Bitkub NFT, Coral by KASIKORN X และ Zixel by Zipmex NFT
ต่อยอดบริการดูดวงด้วย VDO Call
เป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เมื่อ LINE เพิ่มบริการสายมูไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่แค่ดูดวง แต่ยังรับ ขอพรแก้บน ตักบาตร ถวายผ้าไตร ทำสังฆทาน แก้ชง และอื่น ๆ ทำให้ปัจจุบัน LINE ดูดวง มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านคนต่อวัน และมีผู้ใช้บริการขอพร แก้บนมากกว่า 3,500 คน
โดยบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ การขอพร-แก้บนจากหลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ และการแก้ชงในช่วงตรุษจีน ซึ่งตัวเลขผู้ใช้งานจะมีมากขึ้นในช่วงกลางเดือนและปลายเดือนของแต่ละเดือนซึ่งเป็นช่วงการประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึงมีการใช้งานมากขึ้นในช่วงเทศกาลสำคัญทางศาสนา ช่วงปีใหม่ และตรุษจีน
ด้วยความนิยมของการใช้งาน Line Video Call ที่เติบโตถึง 30% มีผู้ใช้ 22 ล้านคน ในขณะที่ Line Call มีผู้ใช้ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20% LINE จึงต่อยอดสู่บริการใหม่ ‘ดูดวงออนไลน์’ โดยเปิดให้ผู้ใช้จองเวลากับหมอดูเพื่อ ดูดวงผ่าน LINE Video Call โดยบิสซิเนสโมเดลจะเป็นการแบ่งรายได้จากหมอดู รวมถึงการโฆษณาอีกด้วย
MELODY ยังกระจุกแค่ในวัยรุ่น
ด้าน LINE MELODY เสียงเรียกเข้าและเสียงรอสายเมื่อโทรผ่าน LINE Call ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยในปี 2564 มีผู้ใช้งาน LINE MOLODY ต่อเดือนกว่า 2.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปี 2563 กว่า 600% โดยปัจจุบันมีคลังเพลงทั้งสิ้นกว่า 38,000 เพลงจากกว่า 43 พันธมิตรค่ายเพลง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่อายุ 20-34 ปี เป็นผู้หญิง 69% ผู้ชาย 31% ซึ่งเมื่อเทียบจำนวนผู้ใช้ LINE ทั้งหมดถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยอยู่มาก ดังนั้น นี่จึงเป็นการบ้านของทีมงานว่าจะสามารถดันให้เกิดดีมานด์ใน LINE MELODY ได้อย่างไร
“หากพูดถึงเทรนด์ที่จะเห็นปีนี้คงบอกยาก อะไรที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คนไทยเอาหมด ไม่ว่าจะเพลง ละคร NFT รวมไปถึงความเชื่อ ดังนั้น เราจึงพยายามดัน 3 ส่วนนี้ และก็ช่วยกระจายรายได้สู่รายย่อยได้ด้วย”