The IKEA Effect

เป็นอีกแบรนด์ดังระดับโลกที่ตัดสินใจเปิดสาขาในในไทย “หลังจากใช้เวลาถึง 8 ปีเต็มเพื่อทำดีลลงทุนกับกลุ่มสยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ไอเกียจะเป็น “ปรากฏการณ์” เหมือนกับที่เคยทำสำเร็จมาแล้วทั่วโลกหรือไม่ อีก 3 ปีรู้ผล แต่การมาของไอเกียก็ทำให้แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไทย สะท้านทีเดียว

ไอเกีย จัดเป็นแบรนด์ที่สร้างความนิยมไปทั่วโลก ถึงกับถูกยกย่องว่าเป็นปรากฏการณ์ มาแทนที่วงดนตรี ABBA และรถยนต์วอลโว่ ในฐานะสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของสวีเดน โดยมีสาขาอยู่ทั่วโลก ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย

กลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับไอเกีย คือ การสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า นอกจากสาขาจะอยู่ห่างไกลแถบชานเมืองแล้ว เฟอร์นิเจอร์ของไอเกียหาซื้อไม่ได้ง่ายๆ แล้ว เฟอร์นิเจอร์ออกแบบให้เป็นระบบน็อกดาวน์ นอกจากประหยัดในการขนส่งแล้ว การที่ลูกค้าต้องประกอบเฟอร์นิเจอร์ด้วยตัวเอง ทำให้ใกล้ชิด และมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์

ด้วยโมเดลธุรกิจแบบแหวกแนว สร้างการเรียนรู้ให้กับลูกค้า โดยไม่สนความต้องการของลูกค้านี้เอง ทำให้ ไอเกีย กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุด ที่สามารถขยายเข้าไปยังตลาดสำคัญๆ

ส่วนการเปิดสาขาในไทย เป็นการลงทุนระหว่างไอเกีย และบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ เอสเอฟ เชี่ยวชาญและเด่นชัดในเรื่องศูนย์การค้าแนวไลฟ์สไตล์ เข้าถึงลูกค้าประเภทเทรนดี้ และตลาดรีเทล ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกับไอเกีย

สาขาในไทยนั้น จะใช้เนื้อที่ขนาดใหญ่ ในรูปแบบที่เรียกว่า Power Center ซึ่งเป็นส่วนผสมของไอเกียสโตร์ และช้อปปิ้งพลาซ่า ใช้เนื้อที่ 4 แสนตารางเมตร ตั้งอยู่พื้นที่ขนาด 290 ไร่ บนถนนบางนาตราด กิโลเมตรที่ 9 ด้วยมูลค่าลงทุน 1 หมื่นล้านบาท

ในรายละเอียดของการลงทุนนั้น สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะถือหุ้น 49% ร่วมกับ IKANO Group ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ของไอเกีย ที่บริหารงานโดยคนในตระกูล Kampard ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก Ingvar Kampard ผู้ก่อตั้ง (ดูรายละเอียดในล้อมกรอบ “เจาะโครงสร้าง IKEA”) 49% และงานนี้ไอเกีย ยังเปิดให้ เอสพีเอส โกลบอล เทรด ซัพพลายเออร์ไทย เจ้าประจำของIKEA ถือหุ้นอีก 2%

ทอม ฮูเซล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิคาโน่ จำกัด บอกว่า การเลือกเปิดสาขาในกรุงเทพฯ นั้นเนื่องจากเหมาะกับ IKEA เพราะเป็น Global Vibrant City ซึ่งทุกเมืองที่คุณลักษณะเช่นนี้เหมาะที่จะรองรับ IKEA ได้

“เมืองทุกเมืองที่เป็น Global Vibrant City เหมาะสมที่จะมี IKEA และเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ยังมีกำลังซื้อ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ หรือคนทุกเพศทุกวัยที่ Young at Heart มีชีวิตที่ทันสมัย สนุกกับการตกแต่งบ้านด้วยตัวเองจากผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายดีไซน์ของ IKEA ในราคาที่สมเหตุสมผล”

ทั้งนี้ IKEA ในเมืองไทยจะมีพื้นที่เกือบ 40,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็น 10% จากพื้นที่ทั้งหมดของ Mega Bangna 400,000 ตารางเมตร ซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าสาขาที่มาเลเซีย (35,000 ตร.ม.) และสิงคโปร์ (31,400 ตร.ม.) จะทำให้ไทยเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีขนาดใกล้เคียงกับสาขาโตเกียว และคาดว่าจะกลายเป็น Home Furnishing Destination ของเมืองไทยภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

นพพร วิฑูรชาติ จาก SF การร่วมลงทุนเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ IKEA Store + Shopping Arcade ที่มี Big box หลากหลาย ทั้งโรงภาพยนตร์ ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ ไฮเปอร์มาร์เก็ต และอื่นๆ จะช่วยทำให้ Mega Bangna ได้รับความสนใจและมีสีสันมากขึ้น โดยนพพรคาดว่าจะมีคนเข้ามาที่ศูนย์แห่งนี้ราว 40 ล้านคน

สำเร็จมาแล้วทั่วโลก

ไอเกีย ติดอยู่ในลำดับที่ 35 จากการจัดอันดับแบรนด์ยุโรปที่มีมูลค่าสูงสุด ของนิตยสาร Financial Times ด้วยมูลค่าแบรนด์ 10,913 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่มียอดขายทั่วโลกในปี 2551 อยู่ที่ 31,098.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ของครอบครัวเด่นที่ Loyalty Program และล่าสุดจากงาน World Retail Congress 2009 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อพฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา IKEA ได้รับคัดเลือกให้เป็นแบรนด์ค้าปลีกที่ได้รับความน่าเชื่อถือที่สุดในโลก

นอกจากสินค้าจะราคาไม่แพง การสร้างความแตกต่างจากร้าค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์รายอื่นๆ เช่น การจัดเส้นทางการช้อปปิ้งแบบวันเวย์ คือเข้า-ออก ทางเดียว ทำให้ลูกค้าเดินผ่านทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ IKEA และการดิสเพลย์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการตกแต่งแบบ D.I.Y. เป็นต้น

IKEA Food เป็นอีกจุดขาย ที่ให้บริการอาหารราคาถูก โดยทอม ฮูเซล บอกว่า จะเป็นร้านอาหารขนาด 600 ที่นั่ง ใหญ่กว่าสาขามาเลเซียที่มีขนาด 480 ที่นั่ง

“อาหารจะมีทั้ง Swedish Food และอาหารไทย ซึ่งเป็นส่วนผสมของร้านอาหารของ IKEA อยู่แล้วที่จะต้องมี Local Food ด้วย เพื่อรองรับลูกค้าของเราที่เฉลี่ยแล้วจะใช้บริการใน IKEA ประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อคนต่อครั้ง”

โดยในส่วนของ IKEA Food เฉลี่ยแล้วจะทำยอดขายประมาณ 5% ให้กับ IKEA แต่ที่สิงคโปร์มีรายได้จากอาหารถึง 15%

แม้ IKEA จะยังไม่เอ่ยถึงแผนการลงทุนในตลาดภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม แต่สำหรับในกรุงเทพฯ แล้ว อาจมีถึง 3 สาขา

“สาขาที่ 2 และสาขาที่ 3 อาจจะเปิดที่กรุงเทพฯ อีกก็ได้ เพราะยังมีศักยภาพ มีหลายพื้นที่ที่น่าสนใจ ด้วยจำนวนประชากรที่อยู่อาศัยนับ 10 ล้านคน” ฮูเซล เอ่ยถึงแผนลงทุนในอนาคตแบบคร่าวๆ

เอส.บี. เฟอร์นิเจอร์ – อินเด็กซ์ ใช้บริการเข้าสู้

แน่นอน การมาของ IKEA ย่อมกระทบกับ 2 ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และ เอส.บี. เฟอร์นิเจอร์ แบรนด์ไทยที่ครองตลาดเฟอร์นิเจอร์มานาน

เพราะคู่แข่งตัวกลั่นในสังเวียนระดับโลกอย่าง Ashley, Galiform และ Wal-Mart ก็ถูก IKEA ดับรัศมีมาแล้ว

เอส.บี. เฟอร์นิเจอร์นั้น ดูจะเคลื่อนไหวมากกว่าเพื่อน ด้วยการรุกเพิ่มสาขา S.B. Design Square ซึ่งเป็น Flagship Store รวมสาขาในรูปแบบนี้ทั้งหมด 6 สาขากระจายอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะสาขาล่าสุดที่โครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ย่านเอกมัย-รามอินทราที่มีพื้นที่ 10,000 ตร.ม. กับการลงทุน350 ล้านบาท พร้อมผนึกกำลัง 2 พรีเซ็นเตอร์ดัง แอฟ-ทักษอร และ เคน -ธีรเดช เข้าด้วยกันเพื่อโปรโมตสาขาใหม่นี้

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ ทั้ง 2 ผู้เล่นรายใหญ่ของไทยได้เตรียมการรับมือ IKEA มาล่วงหน้าพอสมควร ทั้งการพัฒนาสินค้า ตามเทรนด์โลก และพัฒนา Loyalty Program ตลอดจนการเปิดสาขาใหม่ๆ ที่มีขนาดใหญ่และมีสินค้าให้เลือกมากยิ่งขึ้น จัดส่งสินค้าฟรี มีบริการติดตั้ง และที่ปรึกษามัณฑนากรของ S.B. Furniture และการออกแบบตกแต่งห้องแบบ 3 มิติ

เชื่อว่าบริการเหล่านี้จะเป็นจุดขายที่ลูกค้าคนไทยคุ้นเคยกับการมีบริการครบถ้วน ได้มากกว่า ไอเกีย ที่เน้นพฤติกรรมลูกค้าแบบ DIY โดยที่ลูกค้าต้องขนสินค้า และนำไปประกอบที่บ้านเอง เพื่อลดต้นทุน ซึ่งหากลูกค้าต้องการให้ขนส่ง จะคิดค่าบริการเพิ่ม

นอกจากนี้ทั้ง เอส.บี. เฟอร์นิเจอร์ และอินเด็กซ์ มีแบรนด์ลูกที่จับตลาดล่าง คือ Winner และ Koncept ที่น่าจะได้รับผลกระทบจาก IKEA โดยตรง โดยเฉพาะในเรื่องราคา แต่เชื่อได้ว่า IKEA สามารถทำราคาได้ต่ำไม่แพ้ 2 แบรนด์ที่จับตลาดกลางถึงล่างได้ เนื่องจากมีพันธมิตรผู้ผลิตอย่าง เอส.เอส.พี โกลเบิ้ล เทรด เป็นกำลังสำคัญ ขณะที่ยังมีผู้ผลิตรายอื่นๆ อีกในไทย ที่จ่อคิวผลิตให้ IKEA ด้วย

ทอม ฮูเซล บอกถึงเป้าหมายของการทำธุรกิจในไทยว่า “ไม่ว่า IKEA จะเดินทางไปที่ใด เราตั้งเป้าเป็นที่ 1 ในตลาด Home Furnishing แม้ในตลาดที่เรายังไม่เป็นที่ 1 เราก็ยังต้องการไปให้ถึงเป้าหมายนั้นให้ได้”

การแข่งขันในตลาดเฟอร์นิเจอร์เมืองไทยจะรุนแรงและมีสีสันมากขึ้นอย่างแน่นอน
หากการมาของ ZARA เมื่อ 3 ปีก่อน ถือเป็นการเขย่าวงการแฟชั่นครั้งสำคัญในเมืองไทย การมาของ IKEA ก็ถือเป็นการเขย่าวงการเฟอร์นิเจอร์ครั้งสำคัญยิ่งในเมืองไทยเช่นกัน

อีก 2 ปีคงไม่นานเกินรอสำหรับแฟนๆ IKEA แต่อาจจะไม่เพียงพอให้ Local Player ปรับตัวเพื่อรับมือกับคู่แข่งตัวฉกาจได้ทันท่วงที

รู้จักกับผู้ผลิต ป้อน IKEA 20 ปี

เอส.เอส.พี โกลเบิ้ล เทรด เป็นธุรกิจของตระกูล “เสริมประภาศิลป์” ภายใต้การนำของ กีรติ เสริมประภาศิลป์ ประธานบริหาร มีประสบการณ์ในการผลิตสินค้าเฟอร์นิเจอร์ส่งออกมายาวนาน และเป็นซัพพลายเออร์สำคัญของ IKEA ในเอเชีย มานานเกือบ 20 ปี โดยเริ่มผลิตเฟอร์นิเจอร์ให้กับแบรนด์ดังนี้ตั้งแต่ปี 2534

ที่น่าจับตาคือการบรรลุข้อตกลงทางการค้ามูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้อตกลงทางการค้าเฟอร์นิเจอร์ที่มีมูลค่าสูงสุดในเอเชียกับ IKEA เพื่อผลิตและจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียและอเมริกา

จุดเด่นของ IKEA

1. ราคาถูก ดีไซน์สวย เนื่องจากผลิตในปริมาณเยอะ มีการขนส่งที่ดี ทำให้ราคาสินค้าถูกกว่าคู่แข่ง ดังนั้นจุดแข็งนี้จึงนำเสนออย่างเด่นชัดผ่านป้ายราคาที่โดดเด่นและดึงดูดสายตา ขณะที่ดีไซน์ก็ทันสมัยด้วยสีสันที่หลากหลาย

2. กระหน่ำแจกแค็ตตาล็อก โดยเฉพาะการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น แผ่นพับ โบรชัวร์ นอกจากนี้ยังรวมถึงการใช้สื่ออินเทอร์เน็ตที่ให้ทั้งข้อมูลข่าวสาร อัพเดตโปรโมชั่นและสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้อีกด้วย ทั้งนี้ IKEA Catalogue เป็นสื่อหลักที่ใช้งบประมาณกว่า 70% ของงบการตลาดทั้งหมดของ IKEA โดยในแต่ละปีผลิตถึง 38 ครั้ง ล่าสุดในปี 2551 ผลิต 199 ล้านฉบับ (มากกว่าคัมภีร์ไบเบิลถึง 3 เท่า) ตีพิมพ์ 17 ภาษาสำหรับ 28 ประเทศ และแน่นอนภาษาที่ 18 คือ ภาษาไทย และเป็นประเทศลำดับที่ 29 ของ IKEA

ล่าสุดกับแค็ตตาล็อก ขนาด 376 หน้า ก็อัดแน่นไปด้วยคอลเลกชั่นใหม่ประจำปี 2009

3. ช้อปสะดวก ด้วยคอนเซ็ปต์ “Everything under one roof” กับการจัดเส้นทางการช้อปปิ้งแบบวันเวย์ ด้วยการให้เดินตามลูกศรที่แปะอยู่บนพื้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงทางออก

และยังเอาใจคุณหนูของครอบครัวด้วยการจัดพื้นที่ที่ชื่อว่า Smaland หรือ Play area สำหรับเด็กๆ ให้เล่นรอคุณพ่อคุณแม่

นอกจากนี้ยังจัดบริการอุปกรณ์ 3 อย่าง ที่เปรียบเสมือน Icons ของ IKEA ให้กับลูกค้า คือ ดินสอ รายการช้อปปิ้ง และกระดาษวัดระยะ นอกจากนี้ยังมีถุงสีเหลืองที่จำเป็นจะต้องหยิบไว้ใส่ของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ต้องการช้อปอีกด้วย

4. ต้นทุนขนส่งถูก ด้วย Flat Pack หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ถอดประกอบได้ จัดเก็บในกล่องแบนๆ ลดต้นทุนในการขนส่งได้

5. โปรโมชั่นถี่ โดยเฉลี่ยแล้ว IKEA จะจัดโปรโมชั่นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

6. D.I.Y. Guru ด้วย Flat Pack ทำให้ลูกค้าต้องประกอบเฟอร์นิเจอร์เอง ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก เช่น การเจาะรูใส่ที่จับบานพับ การเลือกดีไซน์ของที่จับด้วยตัวเอง เป็นต้น

Did you know?

IKEA ในสวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และอังกฤษ มีบริการ “BOKLOK” หรือ House Pack สำหรับคนที่ซื้อบ้านหลังแรก ด้วยคอนเซ็ปต์เหมือนกับเฟอร์นิเจอร์ที่นำไปประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของบ้านเอง

เจาะโครงสร้าง IKEA

เจ้าของคือมูลนิธิ Stiching INGKA และมี Inter IKEA System B.V. เป็นบริษัทที่รับผิดชอบดูแลด้านแฟรนไชส์ของ IKEA ขณะที่ IKANO Group ก็เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทนี้ แต่ดำเนินธุรกิจ IKEA Store ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และล่าสุดคือ ไทย นอกจากนี้ IKANO Group ยังดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภทในยุโรป อเมริกาเหนือและเอเชีย เช่น ธุรกิจการเงิน อสังหาริมทรัพย์ บริหารสินทรัพย์ ประกันภัย และธุรกิจค้าปลีก

Fact&Figure ของ IKEA ในปี 2551
631.78 ล้านคน ที่เข้าใช้บริการ
450 ล้านคน ที่เข้าชมเว็บไซต์
957 ล้านยูโร คือยอดขายของ IKEA Food

แบรนด์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงสุดของยุโรปในปี 2008
2008 Rank Brand Country of origin Sector Brand value (€m)
1 H&M สวีเดน เสื้อผ้า 10,366
2 Carrefour ฝรั่งเศส ค้าปลีกทั่วไป 6,620
3 IKEA สวีเดน เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน 6,516
4 Tesco สหราชอาณาจักร ค้าปลีกทั่วไป 5,617
5 Marks & Spencer สหราชอาณาจักร ค้าปลีกทั่วไป 5,100