“ซีพี ออลล์” แจงชนะคดีก๊อบปี้ “โตเกียวบานาน่าไทย” หลังตกเป็นจำเลยสังคมกว่า 3 ปี

หากใครยังจำได้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซีพี ออลล์ต้องตกเป็นข่าวใหญ่ ว่าได้ลอกเลียนแบบขนม “บานาน่า” จากผู้ประกอบการรายย่อย

ล่าสุด ซีพี ออลล์ได้ชี้แจงว่า จากกรณีที่ นายชิน รติธรรมกุล ได้เขียนและเผยแพร่บทความจำนวน 2 ตอนเมื่อวันที่ 21-22 เมษายน 2558 ในเว็บไซต์โอเคเนชั่น ในทำนองที่ว่า ซีพี ออลล์เป็นบริษัทใหญ่แต่ไปรังแกผู้ประกอบการรายย่อยที่เสนอสินค้าเข้ามาขายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ด้วยการลอกเลียนสูตรสอดไส้ครีมคัสตาร์ดรสกล้วยของผู้ประกอบการรายย่อยแล้วนำไปทำการค้าหาประโยชน์เอง อันเป็นการรังแก เอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อย

โดยบทความดังกล่าวถูกส่งต่อในสังคมออนไลน์ และเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ อย่างแพร่หลายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ในการประกอบการของบริษัทฯ มาโดยตลอด

บริษัทฯ จึงได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่นายชินฯ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องและเสนอสำนวนการสอบสวนต่อพนักงานอัยการ

ต่อมา พนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องนายชินฯ เป็นจำเลย ข้อหาหมิ่นประมาทต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งนายชินฯ ได้เปิดเผยความจริงว่า ได้รับข้อมูลและเนื้อหาบทความดังกล่าวมาจาก นางสาว พ. โดยที่นายชินฯ เองก็ไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ และได้จัดทำบทความไปโดยไม่เคยสอบถามความเป็นจริงจากบริษัทฯ 

บริษัทฯ ได้แสดงหลักฐานในการดำเนินคดีให้เห็นว่า ไม่มีการกระทำใดที่จะไปกระทำหรือเอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อยตามที่กล่าวหาในบทความ

ส่วนนายชินฯ ได้ทำหนังสือแสดงความรู้สึกเสียใจและขอโทษบริษัทฯ ต่อหน้าศาล และยินดีที่จะแก้ไขฟื้นฟูความเสียหายของบริษัทฯ ด้วยการทำสัญญาประนีประนอมยอมความและจะเผยแพร่บันทึกประนีประนอมยอมความระหว่างบริษัทฯ กับนายชินฯ และเอกสารย่อคำฟ้องคดีอาญา (“บันทึกฯ”) ที่แสดงถึงเหตุการณ์ในเรื่องนี้ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นภายใน 7 วันนับแต่วันที่ 29 มีนาคม 2560 และจะลงติดต่อกันจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 รายละเอียด บันทึกฯ ปรากฏตามเอกสารแนบ

บริษัทฯ ไม่ได้ดำเนินคดีประกอบกับนายชินฯ ไม่ใช่ตัวการที่แท้จริงด้วยการถอนคำร้องทุกข์ไม่ติดใจดำเนินคดีอาญาและไม่ติดใจเรียกค่าเสียหายจากนายชินฯ คดีจึงได้ระงับไป

แต่นายชินฯ กลับไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องฟ้องนายชินฯ ในข้อหาผิดสัญญาฯ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำพิพากษา ให้ นายชินฯ เป็นฝ่ายผิดสัญญาฯ และให้นายชินฯ ลงประกาศบันทึกฯ ในเว็บไซต์โอเคเนชั่นภายใน 7 วันและให้ลงต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 8 เดือน และชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 80,000 บาท พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความด้วย

ภายหลังที่บริษัทฯ ได้ทราบบุคคลที่เป็นตัวการที่ให้ข้อมูลและเนื้อหาที่นายชินฯ นำไปลงบทความในเว็บไซต์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญาแก่บุคคลที่เป็นตัวการหรือผู้ใช้และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องชี้แจงให้ประชาชน และคู่ค้าของบริษัทฯ ได้รับทราบถึงข้อเท็จจริง เพื่อแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บริษัทฯ และเพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึง การใช้วิจารณญาณ ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เผยแพร่ หรือส่งต่อข้อมูลใดๆ ในสังคมออนไลน์ รวมตลอดถึงเพื่อป้องปรามมิให้บุคคลอื่นใดแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยการใส่ความผู้อื่น หรือการทำการตลาดด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังที่เกิดกับบริษัทฯ อีกต่อไปด้วย.