บลายธ์…แสนรัก 2 ปี 3 ล้านบาท

ในแวดวงของคนรักบลายธ์ที่ผันตัวเองมาเป็น “นักสะสม” น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ศักรวัสตร์ ตระการสันติกุล หรือ โต ผู้ครอบครองตุ๊กตาบลายธ์มากกว่า 200 ชีวิต นับมูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท

“ของโตต้องคูณสอง คือออกมาแล้ว 120 รุ่น ซื้อทุกรุ่น รุ่นละ 2 ตัว เป็น 240 ตัว แล้วตัวนึงก็จะเก็บไว้ อีกตัวก็จะแกะออกมาเล่น ตอนนี้รวมๆ แล้วก็เป็นเงินประมาณ 3 ล้าน”

ศักรวัสตร์ หรือ โต เล่าวว่า ความสนุกของการเล่นบลายธ์คือได้เจออะไรใหม่ๆ ได้ดูว่าแต่ละตัวคาแร็กเตอร์เป็นยังไง เสื้อผ้าทรงผมเป็นแบบไหน จะแต่งตัวอย่างไรก็ได้ตามใจผู้เล่น ในด้านของแอคเซสซอรี่ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า อายชิพ เฟอร์นิเจอร์ นักสะสมคนนี้ใช้เงินไปแล้วมากกว่า 120,000 บาท และเรียกบลายธ์ทุกตัวว่า “น้องสาว”

ตุ๊กตาบลายธ์เป็นของเล่นที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นออริจินัล หรือ Limited Edition ยิ่งเก่าหรือมีอายุมากหน่อยก็เพิ่มมูลค่าได้เป็นหลักหมื่นหลักแสน เช่น Miss Anniversary ในชุดเจ้าหญิงแสนสวย ซึ่งผลิตออกมาในปี 2001 ครบรอบหนึ่งปีของตุ๊กตาบลายธ์ และเป็น Limited Edition คือมี 623 ตัวทั่วโลก จากมูลค่าตอนแรก 150,000 บาท ปัจจุบันขึ้นเป็น 250,000 บาท หรือจะเป็นบลายธ์ตัวแรก รุ่น Parco ผลิตในปี 2000 ราคาจากหลักพัน ปัจจุบันขึ้นไปอยู่ที่ 150,000 บาท

Blythe Empire from Positioning Magazine on Vimeo.

การคัสตอมจากแบรนด์ดังก็สามารถทำให้ตุ๊กตามีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ เช่น รุ่น Enchanted Petal ที่โตส่งไปคัสตอมกับอันไน (@nai, ANAI) คัสตอมแบรนด์ชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งต้องรอคิวกันนานเป็นปี แสดงถึงความนิยมที่ยังมีอยู่อย่างล้นหลาม และหลังการคัสตอมจะมีตราอันไนปรากฏอยู่ที่ตัวตุ๊กตา ตรานี้เองที่ช่วยเพิ่มมูลค่า คือราคาออริจินัลของตุ๊กตาอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท ค่าคัสตอมอีก 15,000 บาท รวมแล้ว 23,000 บาท โตเปิดเผยว่า ถ้าปล่อยออกแบบมีตราอันไนด้วยแล้ว ราคาจะขึ้นเป็น 30,000 กว่าบาท

ค่าคัสตอมที่เมืองนอกอยู่ที่ 7,000-20,000 บาท และส่วนการคัสตอมในไทยอยู่ที่ 3,000-10,000 กว่าบาท และมีการแข่งขันสูงขึ้น ฝีมือดีขึ้น ทำให้ค่าคัสตอมในไทยไม่แพงมาก และนักสะสมเช่นโต ใช้เงินกับการคัสตอมไปแล้วมากกว่า 200,000 บาท

มูลค่าของตุ๊กตาที่เพิ่มขึ้นไม่มีหลักเกณฑ์แน่นอน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เล่นและผู้ขาย เช่น ตัวที่โตเล่นจนเบื่อก็จะขายให้เพื่อนที่อยากได้ ซึ่งราคาจะไม่สูงมาก คือบลายธ์มือสองรุ่น Natasha Mode ราคา 8,000 บาท ก็จะขายประมาณ 5,000 บาท เพราะถือว่าเล่นแล้ว แต่บางตัวก็ขายแพงกว่า เช่น รุ่น Princess a La Mode ราคา 30,000 กว่าบาท ซึ่งราคาตลาดเพิ่มขึ้นถึง 50,000 บาท โตก็ขาย 40,000 ต้นๆ ซึ่งหากมองในภาพรวมแล้ว มูลค่าพี่เพิ่มขึ้นของตุ๊กตาบลายธ์โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10-20%

ในมุมของนักสะสม ที่คัสตอมแล้วโตขายออกไปประมาณ 10-20% เขาบอกว่า “ปล่อยไปบ้าง จะได้นำเงินไปซื้อตัวใหม่ ถ้าต้องขายยกเซตก็ไม่ขาย เพราะบางตัวกว่าจะได้มายากมาก”

ปัจจัยที่ทำให้ตุ๊กตาบลายธ์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
• เป็นตุ๊กตารุ่นออริจินัล : กลุ่มนี้จะมีราคาแพงที่สุด
• เป็นตุ๊กตาที่มีคาแร็กเตอร์พิเศษ มีความน่ารักจึงเป็นที่ต้องการมาก : นักสะสมจะมองออกทันทีว่าราคาแพง เช่น รุ่น Momorita
• เป็นตุ๊กตาหายาก ผลิตออกมาอย่างจำกัด (Limited Edition) : ยิ่งมีจำนวนน้อย มูลค่าจะยิ่งสูง
• ผ่านการคัสตอมจากคัสตอมแบรนด์ชื่อดัง มีตราของแบรนด์ที่ส่งไปคัสตอม : ธุรกิจคัสตอมที่มีมากขึ้นทำให้เกิดการแข่งขัน ตัดราคากัน มูลค่าจึงไม่สูงเท่าปัจจัยอื่น

คาดการณ์มูลค่าตลาดรวมสินค้าบลายธ์ในไทย
• คัสตอม 10 ล้านบาท
• แอคเซสซอรี่ 100 ล้านบาท
• ตุ๊กตาบลายธ์ 1,000 ล้านบาท

ในมุมของนักสะสม โตเชื่อว่ามีหลายคนที่มีตุ๊กตาบลายธ์เกิน 100 ตัวขึ้นไป เช่น ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต เก๋ ชลลดา เมฆราตรี หรือ ทาทา ยัง และคาดการณ์ว่าน่าจะมีคนไทยประมาณ 50 คนขึ้นไปที่มีเยอะขนาดนี้

เพื่อนๆ ที่เล่นบลายธ์แล้วสนิทกัน โตบอกว่ามีเก๋ ชลลดา เมฆราตรี และกมล ฉัตรเสน ช่างแต่งหน้าชื่อดัง ซึ่งรู้จักกันที่ร้าน The Doll House และจะคอยแนะกันว่ารุ่นไหนราคาอยู่ที่เท่าไร มีรุ่นใหม่ สนใจไหม เป็นความสนิทที่มีตุ๊กตาบลายธ์เข้ามาเชื่อม ทำเกิดเป็นคอมมูนิตี้ขนาดเล็ก แต่แน่นแฟ้น

คอมมูนิตี้ของคนรักบลายธ์มีทั้งที่เกิดจากอีเวนต์และเว็บไซต์ ในด้านอีเวนต์ โตไปร่วมงานแล้วหลายครั้ง แต่บนเว็บไซต์ โตไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องมากนัก ส่วนใหญ่จะใช้เว็บไซต์สำหรับอัพเดตรุ่นใหม่ๆ

หลังจากลงทุนกับบลายธ์ไปมาก โตยังดีไซน์กระเป๋าให้ตุ๊กตาบลายธ์เพราะต้องการสินค้าที่มีคุณภาพดีกว่าที่เห็นตามท้องตลาด และเนื่องจากบลายธ์เป็นตุ๊กตาที่มีมูลค่าสูง การหิ้วกระเป๋าพลาสติก จะทำให้น้องสาวดูไม่มีราคา และอาจกระทบกระเทือนเสียหายได้

“Odds And Ends” ที่หมายถึง สิ่งละอันพันละน้อย เป็นแบรนด์สินค้าของบลายธ์ที่โตปั้นขึ้น เมื่อปีที่แล้ว โดยเริ่มจากการออกแบบกระเป๋าทรงต่างๆ วางขายตามเว็บไวต์และบางร้านค้า และวางแผนว่าจะทำให้แมตช์กับตุ๊กตาบลายธ์ ทำให้ทั้งกระเป๋าและตุ๊กตาเด่นขึ้น มูลค่ากระเป๋าก็จะสูงขึ้น

นอกจากตุ๊กตาจะมี Limited Edition แล้ว โตยังทำกระเป๋าส่งเฉพาะร้านแบบ Limited Edition เช่น กระเป๋าทรงนี้สีนี้มีขายที่ร้าน Leo Toy อีกสีหนึ่งขายที่ร้าน The Doll House ทำให้ร้านผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าที่สนใจเกิดความรู้สึก Exclusive โดยราคากระเป๋าทั่วไปจะเริ่มต้นที่ 1,990 บาท และแน่นอนว่า Limited Edition จะแพงกว่า อย่างน้อยก็ 3,000 บาท

พฤติกรรมของลูกค้าที่ซื้อสินค้า Odds And Ends คือ ต้องสินค้าที่มีความแปลกใหม่ มีคุณภาพ เมื่อฝากขายกับร้านค้าดังๆ และมีผู้นำไปใช้ที่ต่างประเทศ ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักแบบปากต่อปาก (Words of Mouth) ข้ามไปถึงฮ่องกงและญี่ปุ่น ทำให้โตได้ลูกค้าต่างชาติเร็วกว่าที่วางแผนไว้ และเมื่อศึกษาช่องทางทำตลาดในฮ่องกงแล้ว พบว่าเป็นศูนย์กลางของตุ๊กตา ลาติกำลังบูม โตจึงผลิตกระเป๋าใส่ลาติด้วย ส่วนแบรนด์ของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักในฮ่องกง ช่วงนี้จึงเน้นสร้างแบรนด์ที่ฮ่องกงก่อน

นอกจากกระเป๋า โตได้ขึ้นแบบโครงหัวตุ๊กตาบลายธ์ สำหรับวางวิกผมตุ๊กตาไม่ให้เสียทรง ออกแบบเสื้อผ้าจากภาพยนตร์ เช่น Dream Girls, Moulin Rouge ต่อไปจะออกแบบเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ ครบวงจรแอคเซสซอรี่ของบลายธ์ทั้งหมด รวมถึงงานคัสตอม และธุรกิจในภาพรวมนี้อาจทำเงินได้เป็นเท่าตัว โดยมีหลักสำคัญคือ สินค้าต้องมีคุณภาพ มีการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง และดูฟีดแบ็กตลาดเป็นระยะ

ความรักและคลั่งไคล้ตุ๊กตาหัวโต ส่งผลให้คนจำนวนหนึ่งจริงจังกับการทำธุรกิจเกี่ยวกับตุ๊กตาบลายธ์มากขึ้น โตเปิดเผยว่า ถ้าแบรนด์ Odds And Ends ไปได้สวย อาจปล่อยวางธุรกิจเสื้อผ้าส่งออก แบรนด์ Ivory แล้วหันมาลุยธุรกิจบลายธ์แบบเต็มตัว

ความรักและความสนใจตุ๊กตามีขึ้นมีลง ก่อนหน้านี้โตสะสมตุ๊กตาบาร์บี้ แต่เมื่อบลายธ์เข้ามามีอิทธิพลต่อความชอบ ก็หยุดเล่นบาร์บี้ และขายออกไปหลายตัวจนเหลือประมาณ 40-50 ตัว หญิง เจ้าของเว็บไซต์บลายธ์ไทยแลนด์ ก็เคยเล่นบาร์บี้มาก่อนเช่นกัน แต่บลายธ์เข้ามาดึงความสนใจจากเธอไปหมด

“บาร์บี้สวยนะ มันเหมือนนางแบบ แต่เหมาะเอาไว้ตั้งโชว์อย่างเดียว แต่บลายธ์ทำได้หลายอย่าง ส่วนลาติก็แพง ตัวเล็ก หายากด้วย ถ้าเป็นพวกหูเอลฟ์ ราคาจะสูงมาก เล่นไม่ไหว เล่นบลายธ์ดีแล้ว แค่สระผม รักษาหน้าไม่ให้ถลอกก็โอเค” โต นักสะสมอายุ 30 ปี บอกมุมมองที่มีต่อตุ๊กตา 3 ประเภท

ถ้าไปข้างนอก โตจะพกบลายธ์ไว้ 2-3 ตัว และจะหยิบมาเล่นช่วงว่างๆ กลับถึงบ้านก็จะเปลี่ยนเสื้อผ้า สระผม คืนละ 5-6 ตัว และไม่ให้บลายธ์อยู่ในที่ที่อากาศร้อน เพราะจะทำให้ผิวของบลายธ์เสียหาย ซึ่งถ้านำไปขายต่อมูลค่าตุ๊กตาก็จะลดลง