เตรียมเช็กอิน! Apple Store ดีเดย์ สาขาแรกไอคอนสยาม 9 พ.ย. ดีไซน์เทียบชั้นสิงคโปร์ ใช้ลงทุน 100 ล้านบาท

หลังจากสาวก “แอปเปิล” รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุด “Apple Store” ก็เตรียมเผยโฉม แต่งานนี้ไม่ได้มาเพียง 1 หากแต่จะเปิด 2 สาขาในเวลาห่างกันมากนัก

สาขาแรก จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ICON SIAM ศูนย์การค้าย่านเจริญนคร เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (ของตระกูลเจียรวนนท์)

ค่ายทรูเองจัดเป็นพันธมิตรทำงานใกล้ชิดกับ “แอปเปิล” มาตลอด ประกอบกับขนาดตลาดของไทยก็ไม่ธรรมดาใหญ่พอๆ กับประเทศสิงคโปร์

แหล่งข่าวระดับสูงในวงการโทรคมนาคม ระบุว่า การที่แอปเปิลตัดสินใจถึง 2 สาขา คือ ไอคอนสยาม สาขาแรก และเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาถัดไป เนื่องมาจากขนาดความใหญ่ของตลาดไทยเวลานี้สามารถทำยอดขายได้พอๆ กับสิงคโปร์

แอปเปิลสโตร์เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญ การมาเปิดในไทยแอปเปิลเองก็อยากเห็นภาพคนมาต่อแถวซื้อสินค้าที่สาขาของเขา

นอกจากนี้ กรุงเทพฯ ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียง ถูกจัดให้เป็นเดสทิเนชั่นในระดับโลก ส่วนทรูเองเป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีของแอปเปิลมาตลอด

“แต่น่าเสียดายที่ไทยต้องเปิดช้ากว่าสิงคโปร์ 1 เดือน ทั้งๆ ที่ควรจะเปิดพร้อมๆ กัน เพราะปัญหาเรื่องที่หน่วยงานรัฐเปิดเผยข้อมูลไอโฟน 6 จนทำให้แอปเปิลลดชั้นไทย กำลังขยับมาอยู่เทียร์ 1 ต้องมาอยู่เทียร์ 2 เหมือนเดิม”

แอปเปิ้ล สโตร์ สิงคโปร์ ตั้งอยู่ถนนออชาร์ท

สาขาที่ไอคอนสยาม จะเน้นดีไซน์ทันสมัย ด้วยกระจกใสบานใหญ่สูง 2 ชั้น คล้ายกับสาขาที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเปิดตัวก่อนหน้าไทย 1 เดือน ซึ่งทุกสาขาของแอปเปิล สโตร์ จะใช้เงินลงทุนเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป

โดยแอปเปิลสโตร์ สาขาแรกในไทย จะเปิดตัวในวันที่ 9 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ พร้อมๆกับการเปิดตัวของไอคอนสยาม

การเปิดของแอปเปิลสโตร์ครั้งนี้ ถูกคาดหมายว่า น่าจะทำให้ประเทศไทยขยับจาก “เทียร์ 2” ขึ้นมาอยู่ “เทียร์ 1” 

สำหรับสาขา Central World ดีไซน์ด้านบนที่คนทั่วไปมองเห็นจะเป็นทรงกระบอก ส่วนตัวร้านจะอยู่ข้างล่าง ต้องเดินลงบันไดมา เหมือนกับสาขาที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน คาดว่าจะเปิดประมาณต้นปี 2019

โดย Central World นั้น CPN หรือบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ถึงกับยอมยกพื้นที่ลานหน้าห้างประมาณ 3 ใน 10 ของลานที่มีความยาวราว 20 เมตรให้กับแอปเปิล

ที่ว่าใจกว้างนั้นมาจากทำเลที่ตั้งของตัวร้านที่เข้ามาแทนที่ป้ายของ Central World และลานน้ำพุ แต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้ไม่ได้เกิดความคาดหมายมากนัก เพราะอย่างที่รู้กันเวลาแอปเปิลจะไปเปิด “Apple Store” ที่ไหนก็ต้องเลือกลำเลที่เด่นที่สุดมาเป็นของตัวเอง 

อย่างทำเลที่ Central World ถือว่าถือเป็นทำเลที่ไม่ด้อยไปกว่าลานพาร์คพารากอน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับแรกๆ ที่หลายคนคาดคะเน แต่ “Apple Store” เลือกเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะอยู่หัวมุมแยกราชประสงค์ ตรงข้ามกับพระพรหมเอราวัณ

งานนี้ CPN เอาใจแอปเปิลกันสุด ช่วยปกปิดความลับเท่าที่จะทำได้ (ถึงในระยะหลังความลับของแอปปิลจะเก็บไม่ค่อยอยู่ ดังข่าวหลุด iPhone ก่อนเปิดตัวที่บางครั้งเหมือนไปทุกส่วนเพราะนอกเหนือพื้นที่ก่อสร้างที่มีกำแพงสูง 5 เมตรขว้างกันสายตาของคนทั่วไป ที่หากเดินมาจากสกายวอล์กจาก BTS ชิดลมก็มองไม่เห็น ยกเว้นมองจากตึงสูงที่อยู่ใกล้ๆ เช่นอาคารเกษรทาวเวอร์หรือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพแล้ว หรือมองจากใน BTS วิ่งผ่าน

ส่วนคนที่เดินอยู่ชั้นบนของห้าง CPN ถึงกับต้องนำสติกเกอร์สีขุ่นมาติดกระจกใสตั้งแต่ทางเข้าบันไดเลื่อนยาวเข้าไปถึงตัวห้างเพื่อไม่ให้มองเห็นได้

การที่ CPN เต็มอกเต็มใจขนาดนี้ เพราะประเมินแล้วว่าการมี “Apple Store” มาตั้งอยู่หน้าห้าง ถือเป็นแม่เหล็ก” สำคัญ ที่เชื่อว่าจะดึงดูดให้คนเช็กอินและอัพรูปมาก จนแซงแชมป์อย่างสยามพารากอนก็ได้ ใครจะไปรู้ 

การมาของ “Apple Store” เพิ่มความหวังของเหล่าสาวกที่ต้องการให้เมืองไทยเป็นกลุ่มประเทศแรกที่เปิดให้วางขายสินค้าใหม่ โดยเฉพาะ “iPhone” ซึ่งที่ผ่านมามักจะถูกเลือกให้เป็นกลุ่มประเทศที่ 2 ต้องรอหลังกลุ่มประเทศแรกแรมเดือนเลยทีเดียว

แต่ก่อนจะไปแอปเปิลสโตร์ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2018 กสทช. อนุมัติให้จำหน่าย iPhone XS, iPhone XS Max และ iPhone XR ในประเทศไทยแล้ว เชื่อว่า iPhone XS, iPhone XS Max เปิดให้จอง 19 ตุลาคม และวางขายจริง 26 ตุลาคม ส่วน iPhone XR คาดวางขายไม่เกินกลางเดือนพฤศจิกายน

ขณะนี้โอเปอร์เรเตอร์ค่ายหลัก 3 ค่ายเตรียมพร้อมหมดแล้ว เพราะมีการนำข้อมูลของ iPhone ขึ้นเว็บไซต์ของตัวเอง เหลือแค่คอนเฟิร์มวันวางขายจากทางแอปเปิลเท่านั้นเอง

ปัจจุบัน Apple Store ทั่วโลกมี 501 ร้านใน 24 ประเทศ.