เซียงไฮ…ขอโตเป็นวัยรุ่น

เวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตในซองแดงๆ “เซียงไฮ” ที่เคยเป็นขนมประจำกระเป๋าของเด็กๆ แต่พอโตเป็นวัยรุ่นเกือบส่วนใหญ่ลืม ”เซียงไฮ” และหันมาหยิบสแน็กอื่นมารับประทานแทน “เซียงไฮ” จึงต่อไม่ติดกับ”วัยรุ่น” นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ทำให้ ”เซียงไฮ” ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ในรอบ 35 ปี

เป็นระยะเวลาเกือบสิบปีที่บริษัท ยูไนเต็ดฟูดส์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของ“เซียงไฮ” ไม่ได้เปิดตัวกับสื่อ จะมีก็เพียงหนังโฆษณาตอกย้ำแบรนด์ ผ่านรายการการ์ตูนช่อง 9 ซึ่งเป็นรายการขวัญใจเด็กเท่านั้น แต่ล่าสุดนี้มาพร้อมกับพลังของทายาทรุ่นที่ 2

“อจลา สุทธิสัมพันน์” กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ด้วยโปรเจกต์แคมเปญ”ชิงโชค” ในรอบ 35 ปี เพื่อหวังให้เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้ผลยอดขายเร็วที่สุด และที่สำคัญคือการขยายฐานไปยังกลุ่มวัยรุ่น จากเดิมที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นครอบครัวและเด็กอายุ 7-12 ปี

“เซียงไฮ” เป็นสินค้าที่ทำรายได้ให้บริษัทสูงสุดราว 50% ของรายได้รวม 1,200 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา ด้วยรสชาติที่มากถึง 7 ชนิด โดยมีกลุ่มสแน็ก แบรนด์ โตโร และช็อกโกแลต ทำรายได้รองลงมา แต่แนวโน้มตลาดรวมของเวเฟอร์เริ่มอิ่มตัว มีมูลค่าอยู่ที่ปีละ 1,600-1,800 ล้านบาทมาหลายปี ทางออกของธุรกิจเวลานี้คือการตามไปทำตลาดกับเด็กที่โตเป็นวัยรุ่นแล้ว

นี่คือสิ่งที่ทำให้ทีวีซีของ ”เซียงไฮ” ล่าสุด เปลี่ยนแปลงจากที่เคยใช้เด็กๆ แสดง มาใช้เพลงแนวฮิพฮอพ แต่ยังเป็นเนื้อเพลงเดิม และมีนักแสดงวัย 15 ปี เต้นบีบอย เพื่อพูดคุยกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายใหม่ชอบ

บริษัท ยูไนเต็ดฟูดส์ มีสินค้าที่อยู่ในตลาดทั้งหมด 30 กว่าแบรนด์ ราว 74 รายการสินค้า ซึ่งในท่ามกลางกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง “อจลา” จึงเน้นการบริหารจัดการใช้กฎ “Top 3 Every Market” คือหากแบรนด์ไหนไม่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของตลาด เข็นอย่างไรก็ไม่ขึ้น จะถูกเด้งออกจากไลน์การผลิตทันที เช่น มันฝรั่งชิพชอพ ที่หยุดทำตลาดเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเน้นการใช้ศูนย์กระจายสินค้าที่มีอยู่ 20 แห่ง และจะขยายเป็น 30 แห่งในสิ้นปีนี้ แทนการใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ส่งทั่วประเทศ

ในการพยายามและปรับตัวในรอบ 35 ปี “อจลา” ยังหวังต่ออีกด้วยว่า ยูไนเต็ดฟูดส์จะสามารถเพิ่มการส่งออกต่างประเทศให้มากขึ้นทั้งที่ญี่ปุ่น เกาหลี และเวียดนาม จากปัจจุบันมีสัดส่วน 15% เป็น 20% ภายในปีนี้ ดูเหมือนว่าเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลต ”เซียงไฮ” แท่งนี้จึงยังมีรสชาติสีสันการตลาดที่น่าลิ้มลอง

มูลค่ารวมตลาดขนมเวเฟอร์ 1,600 -1,800 ล้านบาท (By Brand)
เซียงไฮ 30%
ทิวลี่ 20%
ปักกิ่ง และอื่นๆ 50%

Did you know?
เด็กไทยมีการใช้เงินซื้อขนบกรุบกรอบเฉลี่ยวันละ 26 บาทต่อวัน หรือคิดเป็น 40% ของค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน และหากคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อปีพบว่ามีการใช้เงินสูงถึง 9,800 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาเพียงปีละ 3,024 บาทต่อคนเท่านั้น

People
อจลา สุทธิสัมพัทน์ หรือ “แก๊บ” ทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูลสุทธิสัมพัทน์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัทยูไนเต็ดฟูดส์ ด้วยวัยเพียง 26 ปี แม้จะเรียนจบทางด้านรัฐศาสตร์ แต่การคลุกคลีกับบริษัทตั้งแต่เล็กทำให้งานนี้เธอบอกว่าเป็นงานที่ถนัด เพราะเกิดมาก็เห็นโรงงานแล้ว อีกทั้งประสบการณ์จากการทธุรกิจส่วนตัวเกือบปี ทำให้อจลาเชื่อว่า ปีที่ 35 ของบริษัท ด้วยแคมเปญที่เป็นแม่งานจะเป็นบทพิสูจน์ให้กับเธอได้เป็นอย่างดี กับการนำพาแบรนด์เก่าขยับเข้าใกล้วัยรุ่น ว่าจะสำเร็จแค่ไหนต้องติดตาม