หลังไมค์…ไฟฝันในโลกออนไลน์ ดีเจอินดี้ “วราฤทธิ์ มังคลานนท์"

อยากลดโลกร้อนโดยไม่ต้องเห่อถุงผ้า อยากพอเพียงแต่ใจมันแพ้จีบ Louis Vitton อยากหมุนตามแฟชั่นแต่ดันไม่มีตังค์ในกระเป๋า อยากได้ Swatch เรือนใหม่แต่กลัวแม่ไล่ลงจากเรือน อยากพรมน้ำหอม Britney ใช้ชีวิตเซเลบริตี้ยุคประหยัด หรืออยากเรียนฟรีไม่ง้อท่านอภิสิทธิ์ ฯลฯ ก็อย่าได้คิดพลาด “Coolswop” (…by “ดีเจฤทธิ์”) เป็นอันขาด

สอยของใหม่ไม่เสียตังค์ได้ไหมเนี่ย

ไอเดียของ “Coolswop” หรือเว็บแลกเปลี่ยนของโดยดีเจฤทธิ์เริ่มขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน สาเหตุที่แท้จริงคือ“ความกลัวที่จะตกงาน” เนื่องด้วยคลื่นวิทยุเป็นธุรกิจสัมปทาน ดังนั้น ทุกๆ ปีจึงมี “ช่วงลุ้น” ของบรรดาดีเจ “มันมีความไม่แน่นอนสูงนะครับ เป็นอาชีพที่นิยมเลิกจ้างโดยไม่บอกล่วงหน้า”

เขานั่งลิสต์แม้กระทั่งทำก๋วยเตี๋ยวเรือขาย แต่ท้ายที่สุดอารมณ์แห่งความอยากก็ไม่ครบองค์ประกอบสักอาชีพ วันหนึ่งฤทธิ์ได้นอนดูสารคดีว่าด้วยการแลกของในสมัยโบราณ “น่าแปลกใจที่เมืองไทยยังไม่มีเว็บแลกของเลยครับ ผมคิดว่าคงมีเหตุผลอะไรสักอย่าง เราเลยหาความมั่นใจไปเรื่อยๆ เจอใครก็ถาม”

…70% เห็นด้วย ขณะที่ 30%บอกว่าไม่เวิร์ค “ผมชอบไอเดียกลุ่มหลังนะ เขาว่าสู้เอาของไปขายในเว็บมือสอง ได้ตังค์มาไม่ดีกว่าเหรอ” ทว่าวันหนึ่งระหว่างนั่งดู ebay, thaisecondhand, pantip เขาเห็นสินค้าหลายรายการที่อยากได้ จึงถามตัวเองถึงเหตุผลที่ไม่ซื้อสินค้าเหล่านั้น “ปัดโธ่…ก็ไม่อยากเสียตังค์ไง”

“เว็บแลกของ” จึงถูกขุดมาเป็นคำตอบที่ดีสำหรับโจทย์นี้ “คือตอนนั้นพวก 30% เค้ามองในมุมคนขายไงครับ แต่เราลืมคิดถึงมุมของคนซื้อ” coolswop.com ออนไลน์ครั้งแรกวัน 18 เมษายน 2551 นับถึงปัจจุบันมีสมาชิกราว 3,800 คน “อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าความคิดผมถูกต้องในการเป็นทางเลือกให้เค้าได้มีของใหม่ ตอนนี้มีการแลกของไปแล้วราว 6,400 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าก็อย่างน้อย 2,000,000 บาท โดยผมประเมินจากราคาสินค้าที่เค้าใส่ไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ใส่ไว้แค่ 1ใน 3 ของราคาจริง”

“เว็บเมืองนอกมันไม่โดนใจ แค่โพสต์ ทิ้งเบอร์ไว้ มันไม่สนุก” ฤทธิ์จึงออกแบบการใช้งานของเว็บไซต์ให้แสดง Activity ในโปรไฟล์แต่ละคนว่าต้องการอะไร แลก/ไม่แลกอะไรกับใคร เพราะอะไร ก่อนที่จะนำไปสู่อีเมลที่ใช้ติดต่อแลกของกัน “เพียงสามคลิกก็นอนรอคำตอบจากเจ้าของได้เลยครับว่าเค้าจะแลกหรือไม่แลก”

“เอาตัวเข้าแลกก็ได้ครับ” เว็บของฤทธิ์ยังเป็นเว็บท่าของการแลกเปลี่ยนทักษะความสามารถ มีตั้งแต่ทำกราฟิก ทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนม กระทั่งรับสตัฟฟ์ซากสัตว์ “ที่แลกไปแล้วมีสอนวาดรูปกับสอนภาษาอังกฤษ สอนตีกลองกับแปลภาษาเยอรมัน รถก็มีมาโพสต์นะครับ แต่ยังไม่มีคนมาแลก”

เขาสร้างระบบ “Feedback” ขึ้นมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจและรักษาความปลอดภัยให้กับ User “พอแลกเสร็จก็จะมีการประเมินโดยคู่ที่เราแลกด้วย ตั้งแต่คุณภาพสินค้า การติดต่อสื่อสาร และความตรงต่อเวลาในการส่งสินค้า ถ้าแลกกับคนที่ได้ดาวดำ โอกาสเสี่ยงที่จะได้สินค้าไม่มีคุณภาพหรือโดนเชิดของ ก็มีความเป็นไปได้สูง”

กฎหนึ่งของเว็บนี้คือห้ามประกาศขาย แต่สามารถ “ขอซื้อ” ได้ ในกรณีที่เราไม่มีของที่ ”คู่แลก” ต้องการ กฎอีกข้อคือต้องไม่เป็นสินค้าที่มอม/มึนเมา “ผมเช็กเองทุกวัน เคยมีคนเอาเหล้า เอาแฟนเก่ามาแลก ผมไม่ให้ เพราะอย่างนึงเว็บนี้เกิดจากจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ผมไม่อยากให้มันแปดเปื้อน”

สมาชิกถึง 65% ของ Coolswop เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะกลุ่มคนอ่าน CLEO และ Marie Claire “ผมว่าเป็นเพราะผู้หญิงซื้อของเยอะ เค้าโพสต์กันขั้นต่ำเป็นร้อยรายการต่อคน เลยเล่นบ่อยด้วยเพราะต้องคุยกับหลายคน” จากสินค้าแบรนด์เนมที่มาโพสต์ทำให้เห็นว่าสมาชิกที่นี่เป็นระดับ B ถึง A เสียไม่น้อย “เว็บผมเป็นเหมือนผับเหมือนกันนะ ผู้หญิงสวยๆ เยอะ (สังเกตจากรูปโปรไฟล์) ผู้ชายก็เลยอยากเข้ามาขอแลก ฮ่าๆ ๆ อีกอย่างมันกลายเป็นชุมชนไปโดยบังเอิญ เพราะพอแลกของก็เกิดมีปฏิสัมพันธ์ ต่อไปผมกะจะทำฟังก์ชันที่ตอบสนองความเป็น Community มากขึ้น เช่น มี Instant Massage หรือ Add Favorite User ได้ พอคนที่เราเป็นขาประจำมีของใหม่ เราจะรู้ทันที สปอนเซอร์สามารถเซตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของสมาชิกแต่ละคนได้”

ฤทธิ์ลงทุนไปกับสื่ออยู่ที่ 6 หลักต้นๆ “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รีบคืนทุน (หัวเราะ) ชิวล์ๆ”

แผลงฤทธิ์เป็นกระษัยได้ไหมเนี่ย

“เหตุผลหลักที่เรียนถาปัดเพราะอยากไว้ผมยาวฮะ” ฤทธิ์มุ่งมั่นเรียนวาดรูปเพิ่มเติมมาตั้งแต่เรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญ กระทั่งได้เข้าเรียนในภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรมของรั้วลาดกระบังสมความตั้งใจ “ผมเรียนแบบติดโปรเทอมเว้นเทอม เฮฮาปาร์ตี้ทุกอย่างเท่าที่มอมเมาเราได้ มีขอคุณแม่ออกไปอยู่กับเพื่อนปีนึงด้วย สุดท้ายมากลับตัวได้ในวันที่ผมรู้สึกว่ามันชักจะเกินไป เลยหยุดเลยทุกอย่าง”

ฤทธิ์พักการเรียนไปหนึ่งปีเพื่อออกอัลบั้มกับวงครับ ” เอาเข้าจริงมันสามารถแบ่งเวลาได้นะ แต่ผมก็รู้สึกว่าใช้ชีวิตมหา’ลัยคุ้มนะ Thesis ได้บีบวก ทำกิจกรรมเยอะ เป็นอุปนายกนอกของสโมสรคณะด้วย” ในยุคฟองสบู่แตกเขาเปิดค่ายเพลงกับเพื่อน แต่ทำได้ 2 อัลบั้มก็เจ๊ง “เพราะเราบริหารแบบเด็กๆ ไม่แตกฉานในธุรกิจดนตรี เศร้านะที่ทำเงินหายเป็นล้านตั้งแต่อายุ 23” แต่ด้วยความที่เป็นคนฟังเพลงตัวจริง ฤทธิ์จึงได้เป็นดีเจในผับ “ชอบไม่ชอบผมไม่รู้ แต่ผมจะเปิด” จนป๋าเต้ด-ยุทธนาได้เห็นเข้าจึงชักชวนให้ทำเดโม “ตอนนั้นผมยังไม่สนใจ แต่ก็ทำเพื่อ Keep Connection เฉยๆ”

กระทั่งวันหนึ่งร้านเจ๊ง เขาจึงเริ่มเป็นดีเจรายการวิทยุ “ปกติผมไม่ฟังวิทยุนะ ขี้เกียจฟังดีเจ ตอนนั้นรู้สึกฝืนธรรมชาติเพราะไม่ใช่คนพูดเก่ง ไม่มีทักษะเอนเตอร์เทนคน แต่มันไม่มีทางเลือก เลยคิดว่างั้นเราต้องทำงานนี้ให้ดีที่สุด บังเอิญว่าที่ FAT เค้ามีวิธีรับคนแปลกๆ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงให้ผมเป็นดีเจ แต่เท่าที่รู้ๆมาเหมือนเค้าบอกว่าเพราะเรามีของ จนถึงตอนนี้ผมเป็นดีเจมาได้แล้ว 8 ปีแล้ว และรู้สึกว่าเป็นงานที่ใช่”

ฤทธิ์บอกว่าเขาเป็นคนที่เชื่อในหลักของการลอง “อย่างเรียนจบผมก็เปิดบริษัทดีไซน์ Feedback ดีนะฝรั่งเอางานเราไปโชว์ที่งาน 100% Design ที่อังกฤษ แต่เราต้องมานั่งออกแบบตามซีซั่น ผมชอบออกแบบนะแต่รู้สึกไม่มันส์ เบื่อที่ต้องคิดโปรดักส์ใหม่ๆ ปีละ 4 หน ซึ่งอยากบอกว่ามันเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย”

“แต่ผมก็โชคดีที่พ่อแม่ให้โอกาสเราได้ลองได้รู้ด้วยตัวเองว่าอะไรดีไม่ดี ที่สำคัญเค้าทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรผิดพลาดมาขนาดไหน บ้านยังคงเป็นที่สุดท้ายที่เปิดรับผมเสมอ”

Profile
Name : วราฤทธิ์ มังคลานนท์
Age : 30++ (ไม่อยากเปิดเผย แต่อนุญาตให้คะเนจากรูปประกอบได้)
Education :
– มัธยมศึกษา – โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก
– ปริญญาตรี – คณะสถาปัตยกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
Career ็รสรเ้ะห : DJ คลื่น 104.5 FAT Radio, ผู้ก่อตั้ง coolswop.com