ตลาดพรีเมียมของซัมซุง

ไม่ว่า ชมพู่ อารยา จะหันกล้องถ่ายภาพตัวเองมุมไหน อาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ก็การันตีได้ว่า รูปที่ชมพู่ซึ่งเป็น Brand Ambassador ของซัมซุงจะไม่มีตกขอบ ด้วยการเพิ่มหน้าจอแอลซีดีด้านหน้ากล้องจากเดิมที่มีเพียงแอลซีดีแสดงภาพด้านหลัง

นอกจากมีสองจอแล้ว สมาร์ทคาเมร่า ที่ซัมซุงนำออกมาวางตลาด ยังถูกพัฒนาให้รองรับกับกระแส Social Networking ที่กำลังมาแรง นิยมแบ่งปันคอนเทนต์รูปภาพผ่านสังคมออนไลน์ ด้วยฟังก์ชัน Bluetooth และ Wi-Fi หรือ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อสามารถอัพโหลดภาพขึ้นเว็บได้ทันทีหลังการถ่ายภาพ และยังสามารถบันทึกพิกัดสถานที่ได้อีกด้วย

“เราเชื่อว่าจะโดนใจกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมถ่ายภาพบุคคลด้วยตนเอง (Self-Portrait) แทนการถ่ายภาพเพื่อบันทึกเป็นความทรงจำอย่างที่แล้วมา” อาณัติบอก

นับเป็นความพยายามของซัมซุงที่ต้องการวางตำแหน่งของการเป็นกล้องระดับพรีเมียม ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ใช่แค่ความละเอียด หรือจำนวนพิกเซล ซึ่งไม่ใช่จุดขายที่สร้างความแตกต่างให้กับผู้ผลิตกล้องดิจิตอลยุคนี้ เพราะผู้ผลิตค่ายไหนใครๆ ก็ทำได้ จำเป็นต้องมีจุดขายอื่นที่ตรงโดนใจ ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ได้มากที่สุด

“การแข่งขันด้านนวัตกรรมจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าเมื่อใดก็ตามหากคนจะซื้อกล้องตัวใหม่ตัวที่ 2 หรือ 3 เขาต้องหันไปเลือกในสิ่งที่แตกต่างและตอบโจทย์ได้มากที่สุด

ซัมซุงเชื่อว่ากล้องรุ่นนี้จะเป็น Flag Ship ในการทำตลาดช่วง 4 เดือนสุดท้าย ที่สำคัญสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด จาก 11% เป็น 18%

สิ่งที่ซัมซุงต้องทำคู่กันไป คือ สร้างการรับรู้ถึงภาพลักษณ์ใหม่มากขึ้น ด้วยงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ปรับปรุงช่องทางจัดจำหน่ายทั้งโมเดิร์นเทรดและซูเปอร์สโตร์

รวมทั้งทำตลาดแบบ 360 องศา ทำกิจกรรมร่วมกับคู่ค้า ให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จริงรวมถึงการหันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้นทั้ง การทำ Microsite และ Banner

กล้องซีรี่ส์นี้จัดอยู่ในกลุ่ม Style เป็นหนึ่งใน 4 กลุ่มเป้าหมาย ที่ซัมซุงแบ่งขึ้นจากไลฟ์สไตล์ลูกค้า โดยกลุ่ม Style จะเป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบออนไลน์ และความแปลกใหม่ ส่วน Essential เน้นผู้ใช้ฟังก์ชันแบบพื้นฐาน ไม่ซับซ้อน Plus one เน้นคุณภาพ ราคาปานกลาง และ Wanna be เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเข้าใกล้มืออาชีพแต่ยังนิยมบอดี้ที่พกพาสะดวก

ซัมซุงเชื่อว่าไทยยังคงตลาดใหญ่ที่เติบโตได้ถึง 70% จากเป้ายอดขาย 180,000 เครื่อง โดย กลุ่ม Style และ Wanna be ซึ่งจัดเป็นกลุ่มพรีเมียม โตขึ้นมากกว่าเดิมจาก 4% เป็น 15% แม้ว่ามูลค่าตลาดรวมจะยังทรงตัวอยู่ก็ตาม

ขณะที่คู่แข่งอย่างแคนนอน-ฟูจิ-โซนี่ กลับมองว่ากล้องในเซ็กเมนต์ราคาต่ำกว่า 5,000 บาท จะเป็นตัวชูโรงของตลาดกล้องปีนี้ เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่ทำให้คนระมัดระวังในการจับจ่ายเพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้องเร่งแก้เกมกันเป็นการด่วนเพื่อรักษาเป้าหมายยอดขายของค่ายตนเอาไว้

คู่แข่ง/กลยุทธ์
Cannon งบการตลาด 200 ล้าน เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ในแต่ละท้องที่มากขึ้น ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ครบวงจร
Fuji สร้างแบรนด์ต่อเนื่องเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยคอนเซ็ปต์ “Fusion” นำเสนอกล้องดิจิตอลพร้อมกับการรับอัดภาพ
Sony จัดงาน “Color Your Life with Sony Digital Diary” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์หมวดดิจิตอล อิมเมจจิ้งรุ่นใหม่กว่า 30 รุ่น

Product ซัมซุง ST550/ST500
Price ST550 11,990 บาท /ST500 9,990 บาท
Positioning สมาร์ทคาเมร่า ในระดับพรีเมียม โดยเพิ่มคุณสมบัติในการออนไลน์กับเว็บไซต์
Target กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 25-35 ปี สินค้านวัตกรรม ชื่นชอบความสนุกสนานของการถ่ายภาพบุคคลด้วยตนเอง และกลุ่มนักท่องเที่ยว นิยมเก็บภาพ และเผยแพร่ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์
Market Analysis ตลาดกล้องดิจิตอลระดับพรีเมียมยังมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะการซื้อเครื่องที่สอง ที่ต้องมีคุณสมบัติมากขึ้น และกระแสความนิยมของเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ค

ส่วนแบ่งการตลาดกล้องดิจิตอลคอมแพค 1,000,000 ยูนิต
Sony 23%
Sumsung 11%
อื่นๆ 66%
ที่มา Sumsung และSony

Did you know?
กล้องดิจิตอลตัวแรกของโลกประดิษฐ์ขึ้นโดย Eastman Kodak ในปี ค.ศ. 1975 เป็นกล้องไร้ฟิล์ม น้ำหนัก 3.6 กิโลกรัม บันทึกภาพเป็นขาว-ดำ ด้วยความละเอียดเพียง 0.01 ล้านพิกเซล