การมาของ “ทีวีดิจิทัล” ไม่เพียงแต่ทำให้ ภูมิทัศน์สื่อทีวี ต้องเปลี่ยนแปลง คอนเท้นท์ “ละคร” ที่เคยถูกครองโดย ช่อง 7 และช่อง 3 มาตลอด กำลังถูกเขย่าบัลลังก์ จากช่องวัน และช่อง 8 ส่งละครมาชิงเรทติ้งอย่างคึกคัก
ช่องวัน นอกจากมี “แต้มต่อ” มาจากการเป็น “ผู้ผลิตละคร” ป้อนให้กับช่องต่างๆ มาก่อนแล้ว ยังถือหุ้นโดยกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่และ กลุ่มปราสาททองโอสถ ที่เข้ามาอัดฉีดเงินลงทุน จึงทำให้ช่องวันสามารถจัดหนักเต็มที่
ในปีนี้ช่องวัน ขยายตลาดละครลง 2 ช่วงเวลา ช่วเย็น เปิดด้วยละคร “สุภาพบุรุษมงกุฎเพชร” และละครช่วงค่ำ ปลายสัปดาห์ ศุกร์-เสาร์ “เลือดข้นคนจาง” ที่สร้างกระแสตามติดทั้งในละคร และออนไลน์ เปิดช่วงละครใหม่ให้ช่องได้ผลชัดเจน
ส่วนช่อง 8 ของค่ายอาร์เอส หันมาสู้ในตลาดละครเย็น เพียงช่วงเดียว เพื่อเสริมทัพแผงซีรี่ส์อินเดีย ที่แผ่วลง เปิดตัวด้วยเรื่อง “พยัคฆา” ส่งต่อมายัง “สาปกระสือ” และปัจจุบันเรื่อง “ซิ่นลายหงส์”
จากเรตติ้งละครไทย ในสัปดาห์นี้ 26-27 พ.ย. จะเห็นว่าทั้ง 2 ช่วงเวลานั้น ละครของช่องวัน และช่อง 8 เรตติ้งดีขึ้น ดีวันดีคืนอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับช่วงเย็น แชมป์ยังไงก็ตกเป็นของละครเย็นช่อง 7 ที่จัดรสชาติแบบบ้านๆ เสริพฐานลูกค้าแมส ทำเรตติ้งสูงไปถึง 6.382 ในวันที่ 21 พ.ย. ทิ้งห่างคู่แข่งทุกช่อง แต่ในตอนจบของ สุภาพบุรุษมงกุฎเพชร” จากช่องวัน วันที่ 26 พ.ย. ก็ทำเรตติ้งเฉือนช่อง 3 “ตราบาปสีชมพู” ไปอย่างเฉียดฉิว
แม้ว่า “ซิ่นลายหงส์” ช่อง 8 ตามมาอยู่อันดับ 4 ของช่วงเวลา แต่ก็ได้เรตติ้งระดับเกิน 2 แล้ว เรตติ้งใกล้กับละครช่อง 3 และช่องวัน กลายเป็นรายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง 8 ประจำวัน
สำหรับละครเย็น ยังมีละครรีรันจากช่อง 3SD ช่อง 28 ที่จัดละครดังมาเรียกเรตติ้งได้เสมอ ปัจจุบันนำละครรีรัน “แรงปรารถนา” มีณเดชน์ และคิมเบอร์รี่ นำแสดง มาเรียกเรตติ้งได้พอสมควร
ส่วนช่วงไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่ม ช่องวันกลายเป็นช่องที่โดดเด่นที่สุดช่องหนึ่ง จากการวางละครลง 2 เรื่องในวันจันทร์-อังคาร เมื่อ “พรหมไม่ได้ลิขิต” ที่ได้คู่ บี้-สุกฤษฏิ์ และ เอสเธอร์ สุปรีลีลา ทำเรตติ้งพุ่งแรง แซงละคร “ชาติเสือพันธ์มังกร” ช่อง 3 ไปแล้ว ทั้ง 2 วัน 26-27 พ.ย.
โดยเฉพาะวันที่ 27 พ.ย. “ชาติเสือพันธ์มังกร” ยิ่งออนแอร์ เรตติ้งเริ่มลดลงเรื่อยๆ หล่นมาอยู่ต่ำกว่า 2 เป็นครั้งแรก โดยได้ไปเพียง 1.911
สถานการณ์ของละครช่อง 3 ตอนนี้ กำลังเหมือนกับช่อง 7 ที่เรตติ้งละครไพรม์ไทม์ไม่เข้าเป้า โดยช่อง 7 มีละคร “พ่อมดเจ้าเสน่ห์” ที่ทำเรตติ้งต่ำสุดของช่องต่ำกว่า 3 มาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุด วันที่ 22 พ.ย. ทำเรตติ้งได้เพียง 2.763 เท่านั้น ส่วนช่อง 3 ก็มีละคร “รักพลิคล็อค” มีเรตติ้งต่ำสุดอยู่ที่ 1.566
การที่ละครช่อง 7 ลงมาอยู่ในระดับ 2 กว่า และช่อง 3 ลงมาอยู่ในระดับ 1 กว่า ในขณะที่ละครช่องวัน และช่อง 8 สามารถทำเรตติ้งขึ้นได้ถึงระดับ 2 แสดงให้เห็นว่า ตลาดผู้ชมเริ่มเปิดมากขึ้นแล้ว ใครมีคอนเทนต์ดี ก็สามารถช่วงชิงเรตติ้งมาได้เสมอ และพร้อมจะแซงหน้า 2 ช่องใหญ่ได้เสมอ
สถานการณ์นี้อาจจะส่งผลต่อเนื่องไปยังปีหน้า ที่เหมือนจะบอกว่า คอนเทนต์ใครดี ก็คว้าชัยได้ ไม่ต้องอิงฐานผู้ชมเดิมอีกต่อไป เพราะผู้ชมพร้อมจะเสพคอนเทนต์ดี ใหม่ สนุก เร้าใจ เปลี่ยนช่องได้ตลอดเวลา
เวลานี้ ต้องคอยดูว่า ช่องใหญ่ทั้ง ช่อง 7 และ ช่อง 3 จะงัดกลยุทธ์ใดมาสู้กัน.